“ณัฐวุฒิ”จวกรัฐบริหารจนเจ๊ง จนต้องกลับมติครม.เปิดช่องให้ต่างชาติเอาเงินมาลงทุน 40 ล้านบาท ซื้อที่ดินครอบครองได้ ซัดการส่งเสริมการลงทุนเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ต้องทำพื่อประโยชน์ของชาติ ไม่ใช่ทำเหมือนคนสิ้นคิด เฉือนแผ่นดินขาย
เมื่อวันที่ 29 ต.ค.นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุ ว่า กว่า 8 ปีของรัฐบาล 3ป. ประชาชนจำนวนมากอยู่ในสภาพคับแค้น ประสบวิกฤตเศรษฐกิจ เอาทรัพย์เท่าที่มีอยู่ขายบ้างจำนำบ้าง ประคองตัวรอดไปวันๆ
รัฐบาลอ้างว่ามาถูกทาง ทุกอย่างกำลังดีขึ้น แต่กลับมีมติครม.เปิดช่องให้ต่างชาติเอาเงินมาลงทุน 40 ล้านบาท แล้วซื้อที่ดินครอบครองได้ พิจารณาแล้วไม่มีประโยชน์อื่น นอกจากบริหารจนเจ๊ง ไม่มีปัญญาหาเงินเข้าประเทศ
หากอ้างว่ารัฐบาลไทยรักไทยเคยทำไว้เมื่อปี 2545 ก็ต้องพูดให้ชัดว่ากฎกระทรวงแบบเดิมทำไว้ในสถานการณ์ที่ประเทศเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ อยู่ภายใต้เงื่อนไขของเจ้าหนีเป็นไปอย่างรอบคอบรัดกุม ไม่เกิดความเสียหาย และใช้หนี้ได้ก่อนกำหนด แต่การแก้ไขหลักเกณฑ์แบบที่เป็นอยู่นี้เสียมากกว่าได้
การมาทำในช่วงปลายรัฐบาล ซึ่งเป็นไปได้ว่าหลังการเลือกตั้งอาจไม่ได้เข้ามาบริหารต่อ เหมือนกับเอาชาติขายทอดตลาด แล้วทิ้งภาระไว้ไม่รับผิดชอบ
เป็นไปได้ว่าคนกลุ่มแรกที่จะอวตารมาลงทุนแล้วซื้อที่ คือกลุ่มทุนต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรม ทั้งพนันออนไลน์ ผับ บาร์ ยาเสพติด คอลเซนเตอร์ ฯลฯ ซึ่งน่าสังเกตุว่าบานเป็นดอกเห็ดในยุคนี้ บางรายถึงขั้นเป็นผู้มีอุปการะคุณ บริจาคเงินสนับสนุนพรรคแกนนำรัฐบาล ไม่มีหลักประกันให้ประเทศชาติและประชาชน
การส่งเสริมการลงทุนเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ต้องทำอย่างมียุทธศาสตร์ เพื่อประโยชน์ของชาติ ไม่ใช่ทำเหมือนคนสิ้นคิด เฉือนแผ่นดินขาย