วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“ชูวิทย์”หวิดวางมวย“สันธนะ” ลั่นจะตามจองล้างจองผลาญไม่ว่าจะโผล่บ่อนไหน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ชูวิทย์”หวิดวางมวย“สันธนะ” ลั่นจะตามจองล้างจองผลาญไม่ว่าจะโผล่บ่อนไหน

“ชูวิทย์” ปรี่ประจันหน้า “สันธนะ” หวิดวางมวย หลังเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้ “บิ๊กโจ๊ก” ตรวจสอบกลุ่มทุนจีน ที่สน.ทองหล่อตำรวจจับแยกวุ่น ลั่นจะตามจองล้างจองผลาญ ไม่ว่าจะโผล่บ่อนไหนหรือที่ไหน

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 9 พ.ย. ที่ สน.ทองหล่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีทุนจีนสีเทา ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ และคดีอาญาเกี่ยวกับกลุ่มทุนจีนในหลายพื้นที่ รวมถึงคดีพิพาทกันระหว่าง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้เปิดข้อมูลเกี่ยวกับทุนจีนสีเทาในเมืองไทย กับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ที่ต่างฝ่ายต่างมาแจ้งความดำเนินคดีต่อกัน


โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กลุ่มทุนจีนที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย ที่กำลังเป็นที่จับตามองของสังคมมีอยู่ 5 กลุ่มด้วยกัน มีการจับกุมไปแล้ว 2 คน คือนายเดวิด และนายหยู ฉาง เฟย ส่วนอีก 3 คน ขณะนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ตอนนี้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำอยู่คือ การไล่เส้นทางการเงินของขบวนการนี้ ตนได้แบ่งหน้าที่การทำงานหลายส่วน เนื่องจากกลุ่มพวกนี้มีความสัมพันธ์กับบุคคลหลายคน ซึ่งวันนี้ได้ขอหมายค้นของศาลตรวจค้น 5 จังหวัด 26 จุด


รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อไปว่า หลังมีการตรวจยึดเงินหรูรถหรูมาแล้วรวม 30 กว่าล้านบาท ทางท่าน ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ทางชุดทำงานทำการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดว่า มีใครที่เกี่ยวข้องบ้างและมีความผิดเพิ่มเติมในส่วนใดบ้าง ตอนนี้พยายามเร่งทำอย่างรวดเร็ว หลังจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้ว แม้ที่เหลือจะหลบหนีไป แต่จากการตรวจค้นทั้งหมด 26 จุด พบว่าเป็นเจ้าของรถ เจ้าของปืน เจ้าของรถแลมโบกินีใช้ชื่อนอมินีเป็นคนไทย ทั้งในต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯ เราจะนำข้อมูลเหล่านี้ จากการตรวจค้นมารวบรวมพยานหลักฐานและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงทั้งหมด โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้า จะเห็นความเชื่อมโยงของแก๊งดังกล่าวชัดเจนขึ้น


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนมาประชุม กับ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับแก๊งทัวร์จีน จึงแยกการดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน ทั้งเรื่องทัวร์จีนที่เข้ามาใช้ยาเสพติดในสถานบริการ กับเรื่องกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์และหาผลประโยชน์ทวงเงินกันเอง ด้วยการตัดนิ้ว รวมถึงบังคับให้กลืนนิ้วตัวเองด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการแถลงข่าวนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมนำเอกสารหลักฐานยื่นให้แก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อทำการตรวจสอบพฤติกรรมของนายสันธนะ ประยูรัตน์ ว่า มีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มทุนจีนมากระทำผิดกฎหมายในเมืองไทยหรือไม่ อย่างไร

โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่า ตนทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี เพื่อเปิดเรื่องนึ้ให้สังคมไทยได้เห็นว่า กลุ่มทุนจีนดังกล่าวมีความอันตรายอย่างไร ตนได้พูดเรื่องนี้มานานหลายเดือนแล้ว กระทั่งมาพูดถึงกลุ่ม 5 เสือจีน ที่ถูกจับกุมไป 2 คน เหลือ 3 คน ที่ยังหลบหนี ถ้า 5 คนนี้บริสุทธิ์จริง จะหลบหนีทำไม ไม่จำเป็นต้องหลบหนี จะซื้อรถอะไรก็ซื้อได้ ไม่ต้องใส่ชื่อคนอื่นมาสวม ที่ผ่านมาตนไม่เคยเอ่ยชื่อนายสันธนะ แม้แต่คำเดียว จู่ๆ นายสันธนะ ก็โผล่มาที่โรงแรมตน แล้วก็ถ่ายคลิปว่ามีการจัดการมั่วสุมในโรงแรมตน ตนเป็นผู้ใหญ่อายุ 60 ปีแล้ว ผ่านอะไรมาเยอะ โรงแรมตนเป็นระดับ 5 ดาว ก็ต้องต้อนรับ แม้ตำรวจจะมีการปิดกั้นพื้นที่ทำให้เกิดความเสียหาย แต่ตนยินยอมแต่โดยดี แต่นายสันธนะ กลับมีพฤติกรรมที่ประหลาดมาด่าว่า พลเมืองดีอย่างตน เห็นควรที่ทาง รอง ผบ.ตร. ควรจะปกป้องตนด้วย

นายชูวิทย์ ยังเผยอีกว่า วันนี้นายสันธนะได้ให้สัมภาษณ์สื่อหนึ่งที่ระบุว่า รู้จักกับคนจีนทั้ง 5 คน และอ้างว่าคนจีนดังกล่าวเป็นกลุ่มบริสุทธิ์ วันนี้ตนมีคลิปหลักฐานที่นายสันธนะ ให้สัมภาษณ์ว่า รู้จักกับ 5 เสือนี้ดี และเอ่ยชื่อพาดพิงถึงธรรมนัส ว่า รู้จักดีและฝากให้ดูแลกลุ่มทุนจีนนี้ อย่าให้ใครรังแก ตนจึงนำคลิปหลักฐานและเอกสารทั้งหมดมายื่นแก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และขอให้ความเป็นธรรมแก่พลเมืองดี ที่ทำเพื่อสังคมอย่างตน ที่นำข้อมูลมาเปิดเผย เรื่องนี้มันเป็นขบวนการ มีการเอาคนออกมาปกป้อง เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายชูวิทย์กำลังยื่นหนังสือเอกสารหลักฐานดังกล่าว นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ได้ปรากฏตัวขึ้นที่บริเวณประตูห้องประชุมชั้น 3 ของ สน.ทองหล่อ ที่ใช้เป็นห้องที่ใช้สำหรับการประชุมในวันนี้โดยนายสันธนะ ได้ร้องโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าห้อง ใช้มือทุบประตู เพื่อจะเข้ามาภายในห้อง ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องสั่งการให้ พ.ต.อ.ดวงโชติ เชิญตัวนายสันธนะ ไปที่ห้องทำงาน ผกก. ที่ชั้นสอง เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกันระหว่างนายสันธนะ กับนายชูวิทย์

โดยนายสันธนะ ได้เข้าไปพูดคุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พ.ต.อ.ดวงโชติ ในห้องทำงานที่ชั้น 2 ในขณะที่นายชูวิทย์ เดินตามลงมานั้น รู้สึกมีอารมณ์ขึ้นและประกาศว่าจะยืนรอจนกว่านายสันธนะ จะออกมาเพื่อจะขอถามว่า มันเกี่ยวข้องอะไร แล้วมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำไม ในฐานะอะไร หลังจากนั้น 10 นาทีให้หลัง นายสันธนะ ได้ออกมาจากห้องทำงาน ผกก.สน.ทองหล่อ เดินลงมาที่ชั้นล่างพบกับนายชูวิทย์ ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอยู่นายชูวิทย์ ออกปากชี้ว่า ให้มาคุยกันตัวต่อตัว พร้อมกับกระชากเนกไทของตัวเองออก ขณะที่นายสันธนะ อยู่ในอาการยิ้มที่มุมปาก เมื่อทั้งสองคนมาเจอกันนายชูวิทย์ ได้ปรี่เข้าไปประจันหน้ากับนายสันธนะ เกือบมีการวางมวยกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ โดยจับทั้งคู่แยกออกจากการกันโดยไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด

ในขณะที่นายชูวิทย์นั้น ประกาศตัดขาดกับนายสันธนะ และขอจองล้างจองผลาญกับนายสันธนะ ตลอดไป ไม่ว่าจะไปโผล่ที่บ่อนไหนหรือที่ไหนก็ตาม ก่อนนายชูวิทย์ จะแยกย้ายกลับไป ขณะที่นายสันธนะ เดินไปพักในห้องพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยยกนิ้วโป้งให้นายชูวิทย์ แล้วบอกว่า “เยี่ยมๆ” โดยนายสันธนะ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ ในข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img