สถาบัน-ต่างชาติทิ้งหุ้นไทยกดดัชนีปิดร่วง

หุ้นไทยปิดร่วง 13.91 จุด แรงขายหุ้นบิ๊กแคปกดตลาด หลังจากประกาศงบไตรมาส 3/65 ไปแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ประกอบกับเงินบาทชะลอการแข็งค่าฉุดฟันด์โฟลว์ไหลเข้า มองพรุ่งนี้แกว่งไซด์เวย์ แนะลงทุนหุ้นที่งบไตรมาส 4/65 แนวโน้มเติบโต

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,623.38   จุด   ลบ 13.91 จุด หรือ 0.85 % โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,633.76     จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,618.28   ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 64,876.47    ล้านบาทว่า   ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตาม Sentiment ตลาดเอเชีย   รวมทั้งมีแรงขายหลังประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 ไปแล้ว   โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์  

นอกจากนี้เงินบาทวันนี้เริ่มชะลอการแข็งค่า จากสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่ามาก สะท้อนเม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติชะลอไหลเข้า ทำให้นักลงทุนขายลดความเสี่ยงในระยะสั้น สำหรับประเด็นหุ้นบมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ส่งผลกระทบจิตวิทยาต่อหุ้นขนาดกลางและเล็ก และหุ้นเชื่อมโยง MORE เพราะ MORE มีการลงทุนในบริษัทอื่นด้วย อาทิ HEMP, COMAN ทั้งนี้ ดัชนี mai วันนี้ปรับตัวลง 1.5% ขณะที่ดัชนี SET ลบ 0.9%

สำหรับวันนี้นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ   2,317.86  ล้านบาทสถาบันในประเทศขายสุทธิ  1,248.54   ล้านบาทบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 934.91 ล้านบาทนักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 2,631.49 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้คาดแกว่งตัวไซด์เวย์ แนะให้เลือกลงทุนหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/65 ออกมาดี โดยให้แนวรับที่ 1,615, 1,620 จุด แนวต้านที่ 1,630 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,493.80 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 0.75 บาท¶

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,549.69 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 3.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,411.20 ล้านบาท ปิดที่ 75.25 บาท ลดลง 0.50 บาท¶

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,095.81 ล้านบาท ปิดที่ 188.30 บาท ลดลง 0.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,572.73 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง