คลังขยายเวลาลงทะเบียนแก้หนี้ออนไลน์ออกไปถึง 31 ม.ค.66 หนุนประชาชนเข้าถึงโครงการอย่างครอบคลุม ด้านแบงก์รัฐพร้อมเติมทุน-ปรับโครงสร้างหนี้ ชี้มีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมแล้ว 1.2 แสนคน คาดช่วยประคับประครองไปได้อีก 2 ปี
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน โดยมีการเปิดให้ลงทะเบียนแก้ไขหนี้ออนไลน์ ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนพ.ย.65 นี้
ล่าสุด ได้พิจารณาขยายระยะเวลาเปิดให้ลงทะเบียนออกไปอีกจนถึงวันที่ 31 ม.ค.66 เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงโครงการได้อย่างครอบคลุม
นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นการจัดมหกรรมสัญจรไปทั่ว 4 ภูมิภาค ซึ่งจะสิ้นสุดสิ้นเดือนม.ค.66 นี้เช่นกัน ขณะนี้กระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินของรัฐได้ดำเนินการจัดงานแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกจัดที่กทม. และครั้งที่ 2 นี้ จัดที่จังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 18-20 พ.ย.นี้ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเข้ามาเจรจาแก้ไขหนี้เป็นจำนวนมาก
ส่วนจะมีการออกมาตรการเข้าไปดูแลลูกหนี้เพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว หากประชาชนต้องการสภาพคล่องเพื่อไปเสริมการสร้างงานสร้างรายได้ สถาบันการเงินของรัฐทุกแห่งก็มีมาตรการสินเชื่อเข้ามาดูแล ส่วนจะมีของขวัญปีใหม่ให้กับหรือไม่นั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างรวบรวม ซึ่งขอดูรายละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงานมหกรรมยังคงประกอบด้วย การแก้ไขหนี้สินเดิม โดยการผ่อนปรนเงื่อนไขการผ่อนชำระ ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ลดดอกเบี้ยค้างชำระ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สินเชื่อโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ปลอดชำระเงินต้นนานเป็นพิเศษ ผลิตภัณฑ์เงินฝากดอกเบี้ยพิเศษเพื่อส่งเสริมการออม การให้คำปรึกษาทางออกให้ธุรกิจ คำปรึกษาทางการเงิน ความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ และการให้ความรู้ทางการเงิน การลงทุน และการออม และการขายสินทรัพย์ NPA ของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชน
ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ กล่าวว่า ปัจจุบันมีลูกค้าของแบงก์รัฐ ลงทะเบียนออนไลน์ เพื่อเข้าร่วมโครงการแก้ไขหนี้แล้วกว่า 1.2 แสนราย ซึ่งขั้นตอนต่อไปกระทรวงการคลังจะคัดกรองอีกครั้งว่าเป็นลูกค้าของแบงก์ใดบ้าง จากนั้นจะให้ลูกค้าเลือกว่าจะเดินทางมาที่บูธในงาน หรือเข้ารับการแก้ไขหนี้ที่สาขาธนาคาร
โดยหากมาที่บูธก็จะได้รับสิทธิพิเศษ เช่น ของธอส. มีการออกมาตรการผ่อนชำระดอกเบี้ยเพียง 1,000 บาท นานสูงสุด 24 เดือน ช่วยประคับประครองให้ลูกค้ามีความสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้น
“การจัดมหกรรมแก้ไขหนี้ครั้งนี้ จะเป็นการเข้าไปปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้า เพื่อให้มีความสามารถเข้ามาชำระหนี้ได้ ซึ่งจะช่วยประคับประครองลูกค้าไปได้ถึง 2 ปี”
