หน้าแรกHighlightเขย่าคุกVIP!สั่งเด้ง-พักราชการ 20 จนท. ลุยสอบ‘ห้องลับใต้บันได’เอื้อ‘นักโทษจีน’

เขย่าคุกVIP!สั่งเด้ง-พักราชการ 20 จนท. ลุยสอบ‘ห้องลับใต้บันได’เอื้อ‘นักโทษจีน’

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img


รมว.ยธ.มีคำสั่งพักราชการและย้ายเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 20 ราย หลังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเร่งสอบสวนห้องลับใต้บันได และตรวจสอบเส้นทางการเงิน-การเดินทางต่างประเทศของผู้บริหารระดับสูง เพื่อความโปร่งใสและป้องกันการทุจริต

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีเอื้อประโยชน์ผู้ต้องขังชาวจีน ว่า หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตรวจสอบพบหลักฐานชัดเจน ทาง รมว.ยุติธรรมได้มีคำสั่งให้พักราชการนายมานพ ชมชื่น ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนายไตรพล สีเขียวแก่ เลขานุการ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครไว้ก่อน พร้อมคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่อีก 18 ราย ไปปฏิบัติหน้าที่ในเรือนจำต่างจังหวัด

นายยุทธนา ระบุว่า การย้ายและพักราชการเจ้าหน้าที่ทั้งหมดนี้ เป็นมาตรการป้องกันไม่ให้พยานหรือหลักฐานถูกยุ่งเหยิง และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตัวเล็กกล้าตอบคำถามพนักงานสอบสวนดีเอสไอ นอกจากนี้ คณะพนักงานสืบสวนของดีเอสไอ ได้เริ่มสอบปากคำพยาน และรอผลตรวจสารพันธุกรรม (DNA) เพื่อยืนยันตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว

สำหรับไทม์ไลน์การตรวจค้นจู่โจม นายยุทธนา เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ตั้งแต่เวลา 10.45–18.30 น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เรือนจำต่างจังหวัดกว่า 100 นาย และตรวจค้นทุกแดน ยกเว้นแดน 3 และ 5 เนื่องจากกำลังไม่เพียงพอ ในการตรวจค้นพบสิ่งของต้องห้ามและสิ่งของเกินความจำเป็น ซึ่งนำไปสู่คำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ทั้งหมด

ส่วนการตรวจค้นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน เน้นแดนที่มีผู้ต้องขังชาวจีนเทา โดยได้จัดระเบียบและนำอุปกรณ์-สิ่งของที่ไม่ได้รับอนุญาตออกจากเรือนจำ เช่น ตู้เย็น พัดลม อาหารสด ไฟแช็ค อาวุธมีดดัดแปลง เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบแดนดังกล่าวถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่เรือนจำอื่น

นายยุทธนา ยังกล่าวถึงกรณี “ห้องลับใต้บันได” ว่า พบเป็นห้องเดิมที่มีในเรือนจำ ตั้งแต่ใช้เก็บอุปกรณ์ระงับเหตุ แต่มีการปรับเปลี่ยนสภาพการใช้งาน ซึ่งคณะกรรมการต้องตรวจสอบว่ามีการใช้งานผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ และเงินที่ใช้ปรับปรุงมาจากแหล่งใด โดยยืนยันว่ายังไม่ใช่งบประมาณประจำปี 2569 ที่ได้จัดสรร 30 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงจุดเยี่ยมญาติ

นอกจากนี้ มีการตรวจสอบเส้นทางการเดินทางต่างประเทศของผู้บัญชาการเรือนจำฯ ซึ่งระดับผู้บริหารสูงกว่า C9 ต้องขออนุญาตปลัดกระทรวงฯ เพื่อป้องกันการละเว้นหน้าที่ และยังต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน การโอนเงินของญาตินักโทษ รวมถึงข้อกล่าวหาที่พาดพิงเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

นายไพฑูรย์ มงคลหัตถี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า การสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่ถูกย้ายไปเรือนจำต่างจังหวัดเป็นการกระจายกำลัง เพื่อให้แต่ละกรรมการมีเวลาสอบสวนอย่างเพียงพอ และให้การตรวจสอบมีความรอบคอบ ส่วนเรื่องวินัยร้ายแรงจะดำเนินการก่อน หากพบเข้าข่ายความผิดทางอาญา จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายนนี้ นายไพฑูรย์ จะรายงานความคืบหน้าให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรับทราบ ซึ่งคาดว่าจะมีความคืบหน้าในบางส่วน และเป็นจังหวะสำคัญในการชี้ชัดกรณีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img