วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘ชูวิทย์’ร้อง‘ยธ.’ขอ DSI สอบทุนจีนสีเทา ลั่นพร้อมเป็นโจทก์ฟ้อง‘สันธนะ’100ล้าน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ชูวิทย์’ร้อง‘ยธ.’ขอ DSI สอบทุนจีนสีเทา ลั่นพร้อมเป็นโจทก์ฟ้อง‘สันธนะ’100ล้าน

“ชูวิทย์” ร้องยธ.ให้สอบปมทุนจีนสีเทา ลั่น พร้อมเป็นโจทก์ฟ้องสันธนะ ฟันเละเเพ่ง-อาญา 100 ล้านลั่น ขอเป็นโจทก์สักครั้งในชีวิต

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 พ.ย. ที่ กระทรวงยุติธรรม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มทุนจีนสีเทา อาทิ ข้อมูลเส้นทางการเงิน เป็นต้น โดยมี ว่าที่ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่องแทนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯรมว.ยุติธรรม กล่าวว่า นายชูวิทย์ ประสงค์ให้ดีเอสไอดำเนินการสอบสวน ดังต่อไปนี้ 1.การยึดอายัดทรัพย์ 2.ตรวจสอบการฟอกเงิน จากเส้นทางการเงิน และทางกระทรวงยุติธรรมก็ได้เสนอคุ้มครองพยานให้กับนายชูวิทย์ด้วย หากกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย เพราะคดีนี้เป็นคดีใหญ่ ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนหลังจากยื่นเรื่องในวันนี้แล้ว ตนก็ได้มอบหมายให้ดีเอสไอตั้งเลขสืบสวนพร้อมทำงานคู่ขนานไปกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยภายในสองอาทิตย์ทางดีเอสไอจะต้องมีความคืบหน้า หากพบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง ก็จะได้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินทุกกรณี อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมเป็นต้นเรื่องในการรับเรื่อง แต่เราก็มีหน่วยงานโดยตรงคือดีเอสไอ โดยระหว่างการแสวงหาพยานหลักฐาน หากพบเจอเบาะแสเกี่ยวข้องเชื่อมโยง หลังจากนี้ก็จะมีการประชุมหารือเพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ จากนั้นจะแจ้งผลให้นายชูวิทย์รับทราบตามขั้นตอนต่อไป แต่ระหว่างนี้จะให้มีการตั้งเลขสืบสวนไว้ก่อน

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ อธิบายขั้นตอนว่า จากการยื่นร้องของนายชูวิทย์ อาจจะมีความผิด 2-3 เรื่อง คือ ความผิดฐานฟอกเงินจากมูลฐานเรื่องยาเสพติด , ความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) , ความผิดว่าด้วยการเสนอราคา ถ้ากลุ่มทุนจีนเข้ามาแล้วมีการประมูลในหน่วยงานของรัฐ มีการฮั้วหรือสมยอมราคา ซึ่งก็จะเป็นความผิดต่อหน่วยงาของรัฐได้ จากนั้นจะพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษหรือไม่

ขณะที่นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนขอบคุณกระทรวงยุติธรรม ขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยธ. ที่เป็นหน่วยงานที่แสดงให้สังคมได้เห็น เพราะตนมองเห็นกลุ่มทุนจีนสีเทา เห็นการค้ายาเสพติด ขอย้ำเลยว่าหัวหน้าขบวนการใหญ่นายตู้ห่าว เจ้าหน้าที่ไม่มีการออกหมายจับสักที วันนี้จึงนำข้อมูลมาให้ เพื่อให้ลองหารือศึกษาข้อมูลกับทีมงานว่าเส้นทางการเงินที่ตนมี รวมทั้งบรรดานอมินี หากบริสุทธิ์ใจก็มาชี้แจงได้ เพราะมันไม่ใช่แค่หลักร้อยล้านบาท เเต่เป็นหลักพันล้านบาท เลยหวังพึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หากดีเอสไอเข้ามามีส่วนในกระบวนการ ตนคิดว่าจะมีความโปร่งใส เพราะนายตู้ห่าวมีคอนเนคชั่นสามารถเปิดทรัพย์สินต่อไปได้ วันนี้ตนมาทำหน้าที่แค่เปิดเผย ไม่ได้ต้องการอะไร ต้องการให้บรรดาข้าราชการที่มีความซื่อตรงเป็นธรรม ให้ความเป็นธรรมแก่สังคมไทย ทำให้ปรากฎว่าเราเอาจริงเอาจังกับทุนจีนเทาสกปรกที่นำเงินมาฟอกกับประเทศไทย

นายชูวิทย์ ยังกล่าวว่า ตนผ่านความเป็นความตายมาแล้ว เรื่องนี้เรื่องเล็ก (การขอให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพฯให้ความคุ้มครอง) ตนมีจุดยืน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ การกล่าวอ้างของตน ถ้าไม่เป็นเรื่องจริงก็มาตอบให้ได้ว่าที่นายตู้ห่าวมีทรัพย์สินในระยะเวลาสั้นๆนั้น เป็นแหล่งฟอกเงินของใคร เครื่องบินเจ็ต ฯลฯ

ส่วนบ่ายวันนี้ที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล จะมายื่นหนังสือให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบการเสียภาษีธุรกิจอาบอบนวดของนายชูวิทย์นั้น นายชูวิทย์ กล่าวว่า ไม่กลัวและยินดีที่จะให้ตรวจสอบ เพราะธุรกิจอาบอบนวดของตนเองนั้นได้ขายไปหมดแล้ว และไม่รู้ว่าจะอยากตรวจสอบไปทำไม

สำหรับกรณีที่จะฟ้องนายสันธนะทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งในวันพรุ่งนี้นั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า ฟ้องในกรณีกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา คือ นายสันธนะ ถ้ามีเงินอย่างตน ก็ใช้เงินให้เป็นแล้วกัน เพราะจะต้องผจญเวรผจญกรรมกับตนต่อไป ตนใช้เงินเพราะต้องจ้างทนายความ วางศาล และที่สำคัญนี่คือครั้งแรกในชีวิตที่ตนได้เป็นโจทก์ ถือเป็นความภูมิใจอย่างยิ่ง เพราะไม่เคยฟ้องใครมาก่อน นั่งอยู่ฝั่งจำเลยมาตลอด นี่จึงเป็นครั้งแรกในฐานะที่จะนั่งเป็นโจทก์บ้าง และการยื่นเพื่อให้เห็นว่านายสันธนะ จะไม่สามารถใช้วิธีการแบล็กเมล์แบบนี้กับคนอื่นได้อีก แบบนี้อันตรายต่อสังคม ส่วนค่าฟ้องทางแพ่งที่จะเรียกด้วยจำนวน 100 ล้านบาท เพราะนายสันธนะส่งคนเข้าไปในผับ แล้วอัดคลิปวีดีโอมาเผยแพร่ป่าวประกาศว่ามียาเสพติด อย่างไรก็ตาม จำนวนเงิน 100 ล้านบาท ตนมองว่านายสันธนะน่าจะมีอยู่แล้วเห็นว่าทำธุรกิจอยู่ต่างประเทศ แต่ไม่รู้ว่าต่างประเทศไหน ระดับตน การออกโรงด้วยตัวเองเต็มที่ วันหนึ่งเดี๋ยวมึงจะรู้ตอนจบเป็นอย่างไร เพราะมันเป็นหนังชีวิต ไม่ใช่หนังตลก” นายชูวิทย์ ระบุ

ทั้งนี้ ในวันพุธที่ 23 พ.ย. นายชูวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนจะไปรัฐสภา เพื่อยื่นเรื่องถึงข้อมูลให้กับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และจะเปิดเผยข้อมูลลับเกี่ยวกับนายสันธนะ ที่ตนมองว่าเป็นแค่จิ๊กโก๋ปากซอยและยังถูกไล่ออกจากราชการ แต่กลับไปฟ้องร้องผู้อื่นไปทั่ว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img