“แรมโบ้” ยัน “นายกฯลุงตู่” ไม่ได้พูดคำว่า “วัคซีนพระราชทาน” จวก “สมองธนาธร” วันๆ มีแต่ความอาฆาตแค้น ไม่สำนึกแผ่นดินเกิดที่ทำให้ครอบครัวตัวเองร่ำรวย มุ่งสร้างความแตกแยก ยุยงคนออกมาทำลายสถาบัน ขออย่าบิดเบือนให้ปชช.เข้าใจผิด เชื่อสวรรค์มีตา กรรมตามสนองแน่
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.64 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุว่า คำว่า “วัคซีนพระราชทาน” ไม่ได้พูด แต่เป็นคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า หากนายธนาธรได้ฟังคำพูดของนายกฯ ที่แถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 พ.ย.63 หลังเป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ซึ่งนายกฯระบุตอนหนึ่งว่า “เราต้องมีการเตรียมการภายในประเทศคือ เมื่อรับวัคซีนมาแล้ว จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งอันนี้ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชทานให้บริษัทสยามไบโอไซเอนส์ ซึ่งเป็นบริษัทในพระปรมาภิไธย อยู่ในขั้นตอน คือเมื่อรับวัคซีนเข้ามาแล้วจะมีการบรรจุ แจกจ่าย” ดังนั้นคำพูดของนายกฯเป็นการพูดถึงกรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในพระปรมาภิไธย รับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิด-19 เข้ามาเป็นผู้ร่วมผลิตวัคซีนโควิดของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) บริษัทผลิตวัคซีนสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน และไม่ได้บอกว่าเป็น “วัคซีนพระราชทาน” เพื่อจะนำมาฉีดให้กับประชาชนแต่อย่างใด
นายสุภรณ์ ชี้แจงต่อว่า บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในพระปรมาภิไธย มีวัตถุประสงค์ที่อยากจะผลิตยาเพื่อให้ประชาชนคนไทยได้ใช้ยาที่มีราคาถูกกว่ายาที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยไม่คิดถึงกำไรเลยแม้แต่น้อย ต้องการให้ประชาชนคนไทยได้เข้าถึงยาที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด เพื่อสุขภาพที่ดี นายธนาธรก็ควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย ที่พระองค์ท่านทรงมีเมตตา ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอด จวบจนถึงทุกวันนี้ มากกว่าที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พูดจาบจ้วงสถาบันไม่หยุด เพราะไม่เป็นผลดีต่อใครทั้งนั้น
“การที่นายธนาธรออกมาพูดเรื่องวัคซีนพระราชทาน เชื่อว่านายธนาธรได้ฟังคำพูดของนายกฯอย่างละเอียดแล้ว และทราบดีว่านายกฯไม่ได้พูดถึงวัคซีนพระราชทาน แต่นายธนาธรมีความพยายามที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจในตัวนายกฯและรัฐบาลผิดๆ เพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้น โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนเลย“นายสุภรณ์กล่าวและวา ที่ตนและพวกไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายธนาธร มาตรา 112 จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะคนประเภทนี้ต้องได้รับกรรมตามที่ทำไว้
“ในสมองวันๆ มีแต่ความอาฆาตแค้น เพราะไม่สนใจความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่เคยมีจิตสำนึกว่า ครอบครัวนายธนาธรร่ำรวยบนผืนแผ่นดินไทย แทนที่จะช่วยกันตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ตรงข้ามมีแต่จะสร้างปัญหาความแตกแยกวุ่นวายให้เกิดขึ้นตลอดเวลา พยายามที่จะยุยงให้คนออกมาทำลายสถาบัน นี่คือสิ่งที่คนไทยเกลียดที่สุด สวรรค์มีตา กรรมจะสนองกรรมคนอย่างนายธนาธรอย่างแน่นอน“นายสุภรณ์กล่าวทิ้งท้าย
