“ชูวิทย์”ควง”อนันต์ชัย” มาศาลอาญายื่นฟ้อง “สันธนะ”3 ข้อหาเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท กล่าวหาสร้างคลิปโรงแรมมีการมั่วสุมเสพยา ศาลนัดไต่สวน 6 ก.พ. ปี66
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.65 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตเจ้าพ่ออาบอบนวด เดินทางมาพร้อมกับ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เพื่อยื่นฟ้อง นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ในข้อหาแจ้งความเท็จ อันเกี่ยวกับความผิดทางอาญาที่มิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น, สร้างพยานหลักฐานเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา นอกจากนี้ยังฟ้องเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 100 ล้านบาท
จากกรณีที่นายสันธนะ กล่าวหาว่าที่โรงแรมเดอะเดวิส คอนเนอร์วิงค์ ซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย ของบุตรชายนายชูวิทย์ เป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติดของนักเที่ยว มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จโดยการแอบถ่ายและนำคลิปวิดีโอไปแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ ซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้ชื่อเสียงของโรงแรมและนายชูวิทย์เสื่อมเสีย วันนี้ถึงมายื่นฟ้องนายสันธนะ โดยมี บริษัท ต้นตระกูล จำกัด เป็นโจทก์ที่ 1 และมี นายชูวิทย์ เป็นโจทก์ที่ 2
นายอนันตชัย ทนายความ กล่าวว่า ตนได้ติดตามคดีนี้มาสักระยะหนึ่ง ในช่วง ก.ค.65 นายชูวิทย์ได้ตีแผ่ เกี่ยวกับคนจีนสีเทายาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายการพนันจนกระทั่งเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ต่อมามีชาวจีนคนหนึ่งเสพยาเสพติดเสียชีวิต จนกลายเป็นข่าวโด่งดัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.จึงได้เข้ามากำกับดูแล ทำให้นายชูวิทย์จึงออกมาตีแผ่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นคู่กรณีจึงไม่ใช่นายสันธนะ แต่เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสันธนะได้ไปประกันตัวนายเดวิดที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ต่อมาวันที่ 5 พ.ย. ได้มีการไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ มีการนำภาพวีดีโอ และกล่าวว่ากล่าวอ้างว่าน่าจะมีการมั่วสุมยาเสพติด และมีการเปิดสถานบันเทิงเกินเวลาจนเป็นผลให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อเข้ามาตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย นายสันธนะก็ยังจะกล่าวใส่ร้ายโรงแรมของนายชูวิทย์ ตามไปก่อกวน การให้ข้อมูลกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ซึ่งไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม การทำคลิปวีดีโอว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติดในโรงแรมของนายชูวิทย์ ซึ่งหากสถานบันเทิงหรือสถานบริการใดมีการปล่อยให้เสพยาเสพติดมีโทษสูงสุดถึงจำคุก 5 ปี และเลขาธิการ ป.ป.ส. สามารถปิดสถานบันเทิงและเพิกถอนใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก ดังนั้นวันนี้นายชูวิทย์ได้รับมอบอำนาจจาก บ.ต้นตระกูล จำกัด เป็นโจทก์ ที่ 1 และนายชูวิทย์เป็นโจทก์ที่ 2 มาฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายสันธนะเป็นจำเลยข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จให้ผู้อื่นได้โทษทางอาญา ทั้งที่ไม่มีการกระทำผิดเกิดขึ้น หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ทั้งนี้เป็นคดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การทำคลิปวิดีโอว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติดในโรงแรม ของนายชูวิทย์ ซึ่งหากสถานบันเทิงหรือสถานบริการใด มีการปล่อยให้เสพยาเสพติดมีโทษสูงสุดถึงจำคุก 5 ปี และเลขาธิการ ป.ป.ส. สามารถปิดสถานบันเทิงและเพิกถอนใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก ดังนั้น วันนี้นายชูวิทย์ได้รับมอบอำนาจจาก บ.ต้นตระกูล จำกัด เป็นโจทก์ที่ 1 และนายชูวิทย์ เป็นโจทก์ที่ 2 มาฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายสันธนะ เป็นจำเลยข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ให้ผู้อื่นได้โทษทางอาญา ทั้งที่ไม่มีการกระทำผิดเกิดขึ้น หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ทั้งนี้เป็นคดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท
ด้านนายชูวิทย์ เปิดเผยว่า ในชีวิตตนนั้นไม่เคยเป็นโจทก์ฟ้องคดีใคร ตนเป็นจำเลยทุกคดีเพราะตนคิดว่าตนถูกกลั่นแกล้ง ถูกกระทำมาตลอด แต่ก็เป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านไปแล้ว สิ่งที่ตนพูดสาระสำคัญอยู่ที่มาเฟียจีนสีเทาที่กำลังกัดกินประเทศนี้ จู่ๆนายสันธนะอดีตตำรวจที่ถูกไล่ออกจากราชการ ก็มาที่โรงแรมของตน มาป้ายสีใสความและไปแจ้งความ จนกระทั่งเมื่อ 2-3 วันนี้ก็มาพูดอีกในเรื่องของสถานอาบอบนวด ซึ่งตนต้องบอกว่าตนได้ขายทั้ง 6 แห่งไปตั้งแต่ พ.ศ. 2546-2547 เพราะตอนนั้นตนดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็น ส.ส. พรรคชาติไทย อีกทั้งนายสันธนะยังได้กล่าวถึงการจ่ายภาษี 4 พันล้าน แต่นายสันธนะไม่รู้เรื่อง เพราะสถานอาบอบนวดของตน ไม่มีที่ดินที่ตนเป็นเจ้าของ เพราะตนเช่าเอา ดังนั้นมูลค่าจริงๆจึงไม่มีเพราะตนใช้วิธีการโอนหุ้น ซึ่งตนก็ไม่อยากตอบโต้ตนก็สู้มาตลอด สู้ทางสื่อ สู้ทั้งข้างถนน สู้ไปทุกรูปแบบ แต่นายสันธนะไม่สู้ เวลาพูดก็ทำท่าทางมีกระเป๋า มีเอกสาร มีข้อมูลโยงไปว่าตนมีรูปถ่ายเคยว่ารู้จักตน แต่นายสันธนะมีรูปถ่ายตอนกินข้าวกับตนไหม ตอนนั้นตนเป็น ส.ส.กรรมาธิการตำรวจ นายสันธนะ ก็มาหามาฟ้องเรื่องบ่อน อย่างนายสันทนะ ให้มาเจอที่ศาลดีกว่า มาสู้โดยวิธีการของกฎหมาย
หลังผ่านกระบวนการยื่นฟ้อง ศาลพิจารณาแล้วรับไว้เป็นคคีหมายเลขดำ อ.2892/2566 นัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 6 ก.พ. 2566 เวลา 13.30 น.