คณบดีแพทยศาตร์ศิริราช มั่นใจวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac ที่นำเข้ามามีความปลอดภัยสำหรับคนไทย แต่แนะหลังฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วยังต้องติดตามดูผลต่อไป และให้สวมใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ และไม่อยู่ในกลุ่มคนจำนวนมาก
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงวัคซีนโควิด19 ที่เลือกใช้เป็นเทคโนโลยีที่มั่นใจว่า ปลอดภัยกับคนไทยมากที่สุด ว่า วัคซีนใดที่เป็นเทคโนโลยีที่ออกมาหลากหลายปี อาจจะไม่เก่าสุด แต่หลายยปี จนเรารู้ว่าความปลอดภัยเป็นอย่างไรอาจเป็นตัวเลือก ส่วนวัคซีนใหม่ ๆ ที่ออกมา ส่วนตัวผมเราต้องระวัง ต้องไม่ตาย ต้องไม่ตายจากไวรัส แต่ต้องไม่ตายจากวัคซีน โดยเด็ดขาด ผมเข้าใจว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ประเทศไทยไม่ได้ออเดอร์ messenger RNA (mRNA) เข้ามา ไม่ใช่เรื่องราคา
คณบดีแพทยศาสตร์ศิริราช กล่าวว่า คิดว่าคนที่เล่นเรื่องวัคซีนควรจะรู้ว่าเราควรจะเลือกประเภทไหน วัคซีนที่นำเข้ามาในเวลานี้เกิดจากไกกล 2 แบบ AstraZeneca เป็น Viral vector vaccine ส่วนที่เป็น Sinovac ของจีน เป็น inactivated vaccine เป็นวัคซีนที่นำเอาไวรัสทั้งตัวมาทำให้เปลี้ยลง และเอาไวรัสตัวนี้เข้าไปในตัวเรา มันไม่ก่อโรค แต่ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาจัดการกับมัน พอเป็นไวรัสตัวจริงที่ยัง Active เข้าไป ก็จะเกิดภูมิคุ้มกันจัดการกับมัน วัคซีนนี้เทคโนโลยีนี้มีมาเป็น 10 ปีแล้ว คนเราคุ้นเคยกับมันมาก ความปลอดภัยเรารู้ แต่กระบวนการผลิตต้องอาศัยห้อง LAB มีห้องปฏิบัติการที่ปลอดภัย เพราะต้องเอาเชื้อจริง ๆ เข้ามาทำให้มันเปลี้ยแรง
“ผมอยากจะย้ำแม้จะฉีดวัคซีนแล้วหรือต่อให้ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว เราต้องติดตามดูว่าวัคซีนได้ผล หรือ ไม่ได้ผล ในช่วงที่เรียกว่า Postmarketing surveillance ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ช่วงหลังฉีดวัคซีน ยังจำเป็นต้องใช้วัค ซีนที่ทำในประเทศไทย คือ การสวมใส่หน้ากาก การล้างมือ การรักษาระยะห่าง การไม่อยู่ในที่ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก จนกว่าวัคซีนเหล่านั้นถูกพิสูจน์หลัง Postmarketing surveillance แล้วว่า มีประสิทธิภาพ Postmarketing surveillance ในบางวัคซีนใช้เวลา 1 ปี เมื่อได้วัคซีนเข้ามาตาม นโยบายของประเทศ เราจะได้วัคซีน 2 แบรนด์ คือ AstraZeneca และ Sinovac สำหรับวัคซีน 2 ตัวที่เรานำเข้ามาในประเทศ ไทย ส่วนตัวผมคิดว่า safe พอ เพราะเรารู้จักวัคซีน 2 ตัวนี้มานานพอที่จะรู้ว่า ผลข้างเคียงของมันจะเป็นอย่าง ไรบ้าง” นพ.ประสิทธิ์กล่าว
