เงินบาทเปิดตลาด 35.75 บาทต่อดอลลาร์แนวโน้มแข็งค่า หลังดอลลาร์อ่อน ขณะที่ตลาดเปิดรับความเสี่ยง ด้านราคาทองคำดีดปรับตัวขึ้น อาจมีธุรกรรมขายทำกำไรมากขึ้น แนะผู้ประกอบการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.75 บาทต่อดอลลาร์ โดยแนวโน้มยังคงได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าจากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด นอกจากนี้ หากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้ ก็อาจมีโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำมากขึ้นและหนุนให้เงินบาทแข็งค่าได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของเงินบาทอาจถูกชะลอลงได้บ้าง จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งในสัปดาห์นี้ เราเห็นสัญญาณนักลงทุนต่างชาติเริ่มขายทำกำไรหุ้นไทยบ้าง และเห็นแรงขายทำกำไรการลงทุนในบอนด์ไทย โดยเฉพาะบอนด์ระยะสั้นที่ชัดเจนมากขึ้น
นอกจากนี้ บรรดาผู้นำเข้าอาจเริ่มทยอยเข้ามาซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือน ทำให้เราประเมินว่า การแข็งค่าของเงินบาทอาจอยู่ในโซนแนวรับ 35.50-35.70 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงความจำเป็นของการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้เราคงแนะนำ ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก มองกรอบเงินบาวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.65-35.85 บาท/ดอลลาร์
แม้ว่า ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า แต่โดยรวมบรรยากาศในฝั่งตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง หลังผู้เล่นในตลาดต่างคลายกังวลแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดมากขึ้น
โดยทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ของยุโรป ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.46% ทำจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน หนุนโดยบรรยากาศในฝั่งตลาดการเงินที่เปิดรับความเสี่ยง
นอกจากนี้ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (Ifo Business Climate) เดือนพฤศจิกายน ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 86.3 จุด ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก ก็มีส่วนช่วยหนุนให้ผู้เล่นในตลาดกล้าที่จะเข้าซื้อหุ้นยุโรปมากขึ้น
ขณะเดียวกัน รายงานการประชุมธนาคารกลางยุโรปล่าสุด (ECB Meeting Minutes) ที่ส่งสัญญาณเพียงว่า ECB จำเป็นต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า ECB จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง (ขึ้นดอกเบี้ย +0.75%) หรือไม่ ก็ช่วยให้ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ ECB
ขณะที่ ตลาดค่าเงิน ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน หลังผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดมากขึ้น ยังคงกดดันให้ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 105.8 จุด เข้าใกล้โซนแนวรับสำคัญแถว 105 จุด อีกครั้ง
ซึ่งในเชิงเทคนิคัล ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า ดัชนีเงินดอลลาร์ จะสามารถทรงตัวเหนือโซนแนวรับได้หรือไม่ เพราะหากเงินดอลลาร์อ่อนค่า ลงหลุดจากโซนแนวรับดังกล่าว ก็อาจคอนเฟิร์มแนวโน้ม เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ในระยะสั้นได้
นอกจากนี้ หากมุมมองของผู้เล่นในตลาดไม่ได้เปลี่ยนแปลงและเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่องได้จริง ก็มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้านแถว 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้เช่นกัน ซึ่งเรามองว่าในกรณีดังกล่าว อาจมีผู้เล่นบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำได้ และโฟลว์ขายทำกำไรทองคำดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาท
สำหรับวันนี้ ปริมาณธุรกรรมในตลาดอาจมีไม่มากนัก เนื่องจากตลาดการเงินฝั่งสหรัฐฯ จะเปิดทำการซื้อขาย เพียงครึ่งวัน ซึ่งเราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดควรระมัดระวังความผันผวนในตลาดการเงินในช่วงที่ปริมาณธุรกรรมอาจเบาบางลงในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ของฝั่งสหรัฐฯ