กูรูมองตลาดบ้านหรูยังเติบโตต่อเนื่อง แม้เผชิญการระบาดโควิด แต่ยอดขายคึกคัก ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าคนไทย 70% ซื้อเพื่ออยู่มากกว่าเก็งกำไร
น.ส.เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบ้านพักอาศัยระดับลักชัรี่ในบางทำเลยังเป็นที่ต้องการ โดยเฉพาะล่าสุดบริษัทเปิดโครงการมอลตัน เกทส์ กรุงเทพกรีฑา มูลค่ารวมกว่า 2,100 ล้านบาท บนขนาดที่ดิน 21 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์นอังกฤษ พร้อมบริการดูแลสุขภาพจากโรงพยาบาลสมิติเวช
สำหรับโครงการมีบ้านจำกัดเพียง 49 ยูนิต ขนาดแปลงที่ดินตั้งแต่ 71-137 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยภายในตั้งแต่ 403-544 ตร.ม. ประกอบด้วย 4-5 ห้องนอน 4-5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำรับแขก 2 ห้องแม่บ้าน ลิฟต์ส่วนตัว และ 3-5 ช่องจอดรถ ในราคาเริ่มต้น 38-80 ล้านบาท ซึ่งหลังเปิดให้ชมบ้านตัวอย่างจริงเมื่อวันที่ 19-20 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้กระแสตอบรับดี ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 50% ทั้งหมดเป็นลูกค้าคนไทย โดย 70% ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และ 30% ซื้อเพื่อลงทุน
น.ส.อภิวัสสา พัฒนถาบุตร ประธานบริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษา และบริหารการขายอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ขึ้นไปในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับสถานการณ์โควิดระบาด โดยในปี 2560-2564 มีค่าเฉลี่ยการเปิดตัวโครงการบ้านหรูในแต่ละปีอยู่ที่ 318 หลัง แต่พบว่าในปี 2555 มีอัตราการเปิดตัวมากถึง 883 หลัง หรือคิดเป็น 2.8 เท่า ของค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง และเป็นการเปิดตัวบ้านหรู 50 ล้านบาทขึ้นไปเป็นสัดส่วนใหญ่
ส่วนทำเลกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ได้รับความนิยมเป็นอันดับสูงที่สุด สำหรับตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณบ้านหรูเปิดขายจำนวน 1,449 หลัง หรือคิดเป็น 39% ของทำเลทั้งหมด และมียอดขายแล้วกว่า 71%