ผ่าดวงเมืองปีหน้า 2566 การเมืองร้อนแรงดั่งไฟสุมขอน เป็นเหตุวิบัติในประเทศ สยามประเทศปีเถาะ เข้าสู่สภาพมิคสัญญี การโคจรของดาวบาปเคราะห์ เป็นมุนอันจะเกิดความขับคับแก่ประเทศ คนดีไม่มีที่จะยืน หมดโอกาสการแสวงหาสันติภาพ เข้าสู่ยุคทมิฬ เป็นชนวนรัฐประหาร
นายโสรัจจะ นวลอยู่ โหรชื่อดังฉายา “นอสตราดามุสเมืองไทย” กล่าวถึงดวงเมืองไทยปี 2566 ว่า การเมืองปีหน้า “ใคร” มาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ดี เกิดแตกแยก สามัคคีบางช่วงรวมกัน ก็เพื่อผลประโยชน์ จากช่วงนี้จะมีดาวราหู ดาวมฤตยู ยังเดินเข้าเดินออกอยู่ และวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ดาวมฤตยู ย้ายเดินถอยหลังเข้าราศีพฤษภ และช่วงเดือนมี.ค.ขยับจากราศีพฤษภ ไม่เข้าราศีเมษ ซึ่งเป็นราศีดวงเมือง ส่งผลด้านการเมืองอะไรต่างๆ ค่อนข้างดุเดือด และดาวพฤหัส ย้ายเข้าราศีเมษในวันที่ 19 เม.ย.ปีหน้า
ช่วงที่ดาวมฤตยูขยับ ช่วงเดือนมี.ค. เดือนเม.ย. จะเกิดการเคลื่อนไหวการเมืองหลายๆ เรื่อง และดาวเสาร์ย้ายจากราศีมังกร เข้าราศีกุมภ์ ดาวที่สำคัญมากๆ คือดาวราหูย้ายราศีเข้าราศีมีน ที่สำคัญการพยากรณ์ ปีเถาะ 2566 ยังเป็นที่น่ามีเหตุการณ์หลายเรื่องที่รุนแรง จัดว่าเป็น “ปีแห่งมหาวิปโยค” เป็นปีค่อนหนักมาก อันดับแรก ดาวพฤหัส อันเป็นดาวฝ่ายธรรมะ หมายถึงยังอยู่ในภพมรณะในลักคนาเมือง กลายร่างเป็นอธรรม ดาวพฤหัสย้ายจากราษีมีน เข้ามาราศีเมษ มาทับกับลักคนาดวงเมืองในวันที่ 19 เม.ย. อยู่ร่วมกับดาวราหูด้วย ทำให้อาจจะเกิดอะไรขึ้น จากดาวธรรมะกลายเป็นอธรรม บ่งถึงความยุติธรรมจะค่อยๆ ถูกกลืนหายไป ผู้มีอำนาจจะหลงระเริง ที่ได้มาด้วยการคอรัปชั่น ข่มเหงผู้อื่น จะเป็นยุคอำนาจทมิฬ นำไปสู่ความไร้มมนุษยธรรม หลุ่มหลงในอำนาจ ให้เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนต้องระมัดระวังไม่ให้สิ่งเหล่านี้ดำเนินต่อไปได้ เพราะอำนาจดวงดาวที่ส่อต่อการหลุดพ้น ก็ยังมีให้เห็นอยู่ แต่เกือบลบเลือนเต็มทน
โหรดังรายนี้ ทำนายอีกว่า ในวันที่ 1 มี.ค.66 ดาวพระเสาร์จะย้ายเข้าสู่ราศีกุมภ์ และพระราหูยังสถิตย์ราศีเมษ ทับลักคนาเมืองเช่นนี้ ทำให้เห็นชัดว่า ถึงคราวชะตาเมืองกำลังตกต่ำ การแตกแยก โกรธแค้นชิงชังของผู้คน เสนาบดีอาจมีเหตุอาเพศต่างๆ เกิดขึ้น เกิดการจราจล อาจจะเกิดการรัฐประหาร บุคคลในเครื่องแบบแตกแยกแย่งเป็นสองฝ่าย ซึ่งเลือดไทยต้องไหลรินอีกครั้งหนึ่ง
ต่อมาเดือนเม.ย.66 เป็นที่สังเกตุว่า ประขาธิปไตยของไทยพบความประหลาดใจว่า ทำไมถึงมีเหตุการณ์อะไรหลายเรื่องปะดังกันเข้ามา ยืนยันให้เห็นถึงความเชื่อมโยงถึง ความเสื่อมอำนาจของ “ผู้นำ” ทุกอย่างสำแดงให้เห็นถึงสภาวะการณ์ทางการเมืองตึงเครียด มีการเดินขบวนต่อต้าน เพราะผลของการโคจร ดวงดาวจากช่วงนี้ เห็นถึงความแตกแยกของบ้านเมืองต่อไปถึงปลายปีหน้า จนถึงปี 2567
ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ ส่งผลความเป็นอยู่ประชาชนมีความยากแค้น เกิดความแตกแยกในหมู่คณะ บุคคล และสาขาวิชาชีพ วงการสงฆ์ไม่สู้ดีนัก อาจมีเรื่องมัวหมองบุคคลสำคัญในวงการเมือง อาจเจ็บป่วย ขุนนางกังฉิน หรือฝ่ายเป็นปรปักษ์กับบ้านเมืองจะกำเริบ ไทยมีเรื่องกระทบกระทั่งประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศใกล้เคียง เยาวชนตกในภาวะมอมเมา หรือคำชักจูงต่างๆ อันเป็นปรปักษ์ต่อขนบธรรมเนียมบ้านเมืองมากขึ้น เยาวชนถูกมอมเมาจากยาเสพติดเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งลักษณะดวงดาว ชวนให้น่าวิตกยิ่งนัก ควรที่ฝ่ายรับผิดชอบด้านนี้จะต้องสังวรณ์
ปี 2566 ตั้งแต่ต้นปีไปเลย จะเกิดโรคระบาดร้ายแรง ทำให้คนนับพันนับหมื่นล้มป่วยลง มีการสูญเสียบางส่วน อันเนื่องมาจากโรคกำลังระบาดอยู่ จากโรคโควิด จะกลายพันธุ์ต่อ อย่าประมาทโรคนี้ ไม่ใช่แค่ปี 66 อาจยาวระบาดไปหลายปี จะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และสมุนไพร ฟ้าทะลายโจรจะมีการนำมาใช้ทางการแพทย์ค่อนข้างเต็มที่ ทำให้ประสบผลสำเร็จ คนเจ็บป่วยจะน้อยลง
นายโสรัจจะ ทำนายอีกว่า ปีหน้าจะประสบปัญหาเรื่องการเมืองมีความยุ่งยาก สถานการณ์ประเทศร้อนรุ่ม ไฟสุมขอนรุนแรงขึ้นทุกที ไม่มีอะไรแก้ไขได้ ความยุ่งยากของบ้านเมืองอันเกิดความขัดแย้ง มีส่วนจากสภาวะปัญหาเศรษฐกิจ ตกต่ำรุนแรงกว่าปี 65
ปีหน้าร้อนระอุด้วยไฟสงคราม ความทะเยอะทะยานของมนุษย์บางคน เป็นเหตุวิบัติในประเทศ สยามประเทศปี 2566 ปีเถาะ เข้าสู่สภาพมิคสัญญี การโคจรของดาวบาปเคราะห์ เป็นมุนอันจะเกิดความขับคับแก่ประเทศ คนดีไม่มีที่จะยืน โอกาสการแสวงหาสันติภาพ แห่งจุดกำลังกำลังลุกลามอย่างใหญ่โต จึงเป็นความหวังที่สุดเอื้อม
สำหรับต่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจ และสงครามลุกลามไปทั่วโลก ค่าครองชีพสูงขึ้น ราคาพลังงานขึ้นมากมาย คนไทยมีหนี้ หนักหนาสาหัสกว่าปี 65 ซึ่งสงครามทั้งฝ่ายรัสเซีย ยูเครน สหรัฐ จีน อังกฤษ เยอรมัน ลามไปถึงตะวันออกไกล ไทยควรวางตัวเป็นกลาง จึงหลุดพ้นไปได้
“ขอเตือนเรื่องภัยพิบัติ ระวังเรื่องแผ่นดินไหวเยอะ อาจเกิดถึงกรุงเทพฯ จะเกิดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจทำให้สิ่งก่อสร้างเสียหาย พืชผลสูญเสียจากน้ำท่วม เกิดขึ้นทั่วประเทศตั้งแต่กลางปี หนักกว่าปี 65 ท่วมไปถึงปลายปี ไม่แพ้ปี 54”นายโสรัจจะ กล่าวทิ้งท้าย