“ไทยสร้างไทย” ลุยยื่นกฎหมาย 2 ฉบับ เพื่อแขวนหรือพักการใช้ กฎหมาย ที่เกี่ยวกับการ อนุมัติ อนุญาต ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจของประชาชน ประมาณ 1,300 ฉบับไว้ 3-5ปี และร่างกฎหมายในการรวมตัวของ SMEs เพื่อสร้างพลังให้ประชาชนลุกขึ้นมาทำมาหากิน ได้อย่างรวดเร็ว
พรรคไทยสร้างไทย ยื่นร่างกฎหมาย การปลดปล่อยให้ประชาชนทำมาหากินและสร้างพลังให้ประชาชน ถึงมือนายชวน หลีภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ดร.โภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ นายไชยวัตน์ หาญสมวงศ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ผู้แทนสมาคม SMEs นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย และกลุ่มคนรุ่นใหม่

ดร.โภคิน เปิดเผยว่า พรรคไทยสร้างไทย ได้นำร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ประกอบด้วยฉบับที่ 1 ร่างกฎหมายพักการใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับใบอนุญาตประมาณ 1,300 ฉบับ ที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นการทำมาหากินของประชาชน
ฉบับที่ 2 ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการรวมตัวจัดตั้ง SMEs เพื่อให้พี่น้องประชาชนร่วมลงชื่อ 10,000 รายชื่อ เสนอต่อประธานสภา
ดร.โภคิน ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทย มีเป้าหมาย ในการดูแลพี่น้องประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ เพราะพี่น้องยังขาดความมั่นคง ขาดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งมาจากความคิดและวัฒนธรรมแบบอำนาจนิยม โดยมีรัฐราชการเป็นเครื่องมือ และเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน
ทำให้ประเทศต้องตกอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญแบบเผด็จการและสืบทอดอำนาจ มีกฎหมายที่ล้าหลังกดทับและล้าหลัง เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของคนตัวเล็กมากมาย
พรรคไทยสร้างไทย จึงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการปฏิวัติกฎหมายให้ตอบสนองคนทำมาหากินทุกระดับ โดยเฉพาะคนตัวเล็ก SMEs แต่จะทำได้สำเร็จต้องทำ 2 ขั้นตอน
1) จะต้องมีการออกกฎหมาย 1 ฉบับเพื่อพักชั่วคราวหรือแขวนการบังคับใช้ในเรื่องการอนุมัติ อนุญาตและการลงโทษทั้งทางอาญาและทางปกครองออกประมาณ 3-5 ปี
2) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ ผู้บริโภคร่วมกันแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับกระบวนการอนุมัติ อนุญาตราว 1,300 ฉบับให้แล้วเสร็จภายใน 3-5 ปี คงเหลือเฉพาะกฎหมายที่จำเป็นราว 100 ฉบับเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ SMEs สามารถทำมาหากินได้อย่างคล่องตัว และเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น ทำให้ประเทศ เพิ่ม GDP และเก็บภาษีได้มากขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการออกกฎหมายให้ SMEs มีการรวมตัวกัน 4 ระดับ เป็นนิติบุคคลได้ โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1) เพื่อช่วยเหลือกัน
2) วางมาตรฐานการประกอบการ
3) เป็นปากเสียงไปยังภาคส่วนต่างๆโดยเฉพาะระบบราชการ และเป็นหูเป็นตา ป้องกันการ คอรัปชั่น
4) สร้าง ขนาดของเศรษฐกิจ (Scale of Economy)
5) ดูแลตรวจสอบส่งเสริมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม
ซึ่งทั้งหมดจะมีลักษณะคล้ายกับการมีสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมซึ่งมักจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ องค์ความรู้ และตลาด
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่าพรรคไทยสร้างไทยจะขจัดอุปสรรคที่ขวางกั้นการทำธุรกิจในทุกประการ เพื่อทำให้ประชาชนคนได้ระเบิดศักยภาพในการทำมาหากิน ทำธุรกิจได้คล่องตัว สะดวกรวดเร็วมาก ขจัดการคอรัปชั่นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถรีดไถได้ รวมถึงรัฐจะสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น หลักเกณฑ์และกฎหมายต่างๆจะทันต่อการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองภาวะที่คาดไม่ถึงต่างๆรวมถึงจะช่วยลดการผูกขาดจากทุนใหญ่และ ทุนพรรคพวก ความเป็นธรรมกระจายไปสู่ทุกคนทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึง และเป็นมาตรการ สำคัญที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ