วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTS“รวมไทยสร้างชาติ”หุ้นขึ้น-ดีดตัวแรง ไหลเข้าต่อเนื่อง-จัดทัพรอรับ“บิ๊กตู่”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“รวมไทยสร้างชาติ”หุ้นขึ้น-ดีดตัวแรง ไหลเข้าต่อเนื่อง-จัดทัพรอรับ“บิ๊กตู่”

ตอนนี้เห็นได้ชัด “หุ้นการเมือง” ของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ปรับตัวสูงขึ้นในตลาดการเมืองทันที หลัง “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ประกาศเข้า “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่มี “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” เป็นหัวหน้าพรรค โดยพล.อ.ประยุทธ์จะเป็น “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของพรรค

ถึงขั้นล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา “เดอะขิง-เอกนัฐ พร้อมพันธุ์” เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาสำทับว่า จากที่คนปรามาสหรือตั้งข้อกังขาว่า รวมไทยสร้างชาติจะมีส.ส.หลังเลือกตั้งถึง 25 คน เพื่อจะได้มีสิทธิ์ดัน “บิ๊กตู่” เข้าชิงนายกรัฐมนตรี ตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่รัฐธรรมนูญบัญญัตไว้ว่า แคนดิเดตนายกฯที่จะให้มีการโหวตเลือกได้ จะต้องเป็นแคนดิเดตนายกฯจากพรรคการเมืองที่มีส.ส.ในสภาฯไม่น้อยกว่า 25 คน

“เอกนัฐ” ย้ำว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์มาที่รวมไทยสร้างชาติ จะทำให้มีคนไหลเข้ามาจำนวนหนึ่ง และตามข่าวที่มีการพูดกันว่า จะมีส.ส.เข้ามาร่วมประมาณ 40 คน ซึ่งคิดว่าไม่ได้คลาดเคลื่อนมาก แต่อาจจะมากขึ้นก็ได้ อีกทั้งยังมีบิ๊กเนม ที่ไม่ได้เป็นส.ส. เช่น นายกฯอบจ. หรือนักการเมืองท้องถิ่นที่มีแสงในตัวในจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีโอกาสดีกว่าส.ส.ปัจจุบันเสียอีก ซึ่งจำนวนมีเกิน 100 คน ขณะนี้เรามีผู้สมัครที่สู้ได้ในทุกภาค

เอกนัฐ พร้อมพันธุ์พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

“25 เสียง ยืนยันว่าเกินแน่นอน เพราะจากผลสำรวจแค่ภาคเดียวก็เกินแล้ว ใจผมหากได้แตะ 100 ก็เป็นเรื่องดีจะเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุด จะได้มีกำลังผลักดันสิ่งที่เราบอกประชาชนไว้ และสิ่งสำคัญกว่าการเป็นพรรคใหญ่ คือมาแล้วต้องทำประโยชน์ให้ประเทศ เป็นสถาบันการเมือง ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจแบบนั้น เราก็ไม่เอา ถ้าทุกอย่างเป็นตามที่คาดการณ์เราจะได้ส.ส.ไม่น้อย มีโอกาสร่วมกับพรรคการเมืองอื่นจัดตั้งรัฐบาลได้”เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติระบุ

สิ่งที่ต้องติดตามหลังจากนี้สำหรับ “บิ๊กตู่-รวมไทยสร้างชาติ” เห็นได้ชัดว่า มีอย่างน้อย 2 ประเด็นที่แวดวงการเมืองต้องจับตา

เรื่องแรก “การไหลเข้าไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติ” ซึ่งคาดว่าจะมีมาอีกเรื่อยๆ หลังหลายคน ประกาศแล้วว่าจะมาที่รวมไทยสร้างชาติทันที หลังพล.อ.ประยุทธ์เปิดตัวเข้าพรรค ไม่ว่าจะเป็น “ชัชวาลล์ คงอุดม” หรือ “ชัช เตาปูน” ผู้ก่อตั้งพรรคพลังท้องถิ่นไท-“แรมโบ้-เสกสกล อัตถาวงศ์” อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ทิ่ทิ้งเก้าอี้หัวหน้าพรรคเทิดไททันที-“อานนท์ แสงน่าน” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน ที่ตอนนี้มาอยู่กับแรมโบ้-ส.ส.ภาคใต้ พลังประชารัฐบางส่วน ที่นำโดย “สายันต์ ยุติธรรม” ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่เช็คตัวเลขล่าสุด ข่าวว่า มีแล้วห้าคน-“กลุ่มสุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน เป็นต้น

ที่คงน่าจะมีตามมาอีกเรื่อยๆ เพราะดูแล้ว “ดีลลับการเมือง” ที่ทีมงานการเมืองบิ๊กตู่และเครือข่าย ที่เป็นทีมงานหลังฉากการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่ค่อยเปิดเผยตัว แต่บางคนก็เปิดตัวมาแล้วเช่น “เสธหิ-หิมาลัย ผิวพรรณ” อดีตนายทหารนอกราชการ ที่รับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งภาคเหนือตอนล่าง รวมถึงภาคเหนือตอนบนบางจังหวัด และยังมีอีกหลายคน ได้ไปติดต่อพูดคุยกับส.ส.ในปัจจุบันหลายพรรครวมถึงอดีตส.ส.-นักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังในจังหวัดต่างๆ ข่าวว่ามีระดับเกิน 40ไปแล้ว เฉพาะภาคเหนือ และยังมีทีมงานการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์อีกบางส่วน ที่ช่วยงานหลังฉาก ก็มีการไปคุยกับหลายคน เพื่อให้มาที่รวมไทยสร้างชาติ แม้บางคนอาจโนเนมในแวดวงการเมืองระดับชาติ แต่ในระดับพื้นที่ ข่าวว่าก็มีหลายคนเป็น “พวกตัวตึงในจังหวัด” ที่มีฐานเสียงพอฟัดพอเหวี่ยงระดับหนึ่ง เรียกได้ว่า ส่งลงเลือกตั้งแล้วไม่อายใคร มีได้ลุ้น

นอกจากนี้ก็ยังมีพวก “นักเลือกตั้ง-ตัวเก๋าส์เกม” อีกหลายคน ที่น่าจับตาจะมาที่รวมไทยสร้างชาติ

กลุ่มที่น่าจับตานอกจาก กลุ่มเสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน แล้ว ก็น่าจะเป็นพวก “กลุ่มส.ส.ประชาธิปัตย์ปัจจุบัน” ที่จะย้ายมารวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะเป็น “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” ส.ส.นครศรีธรรมราช “รังสิมา รอดรัศมี” ส.ส.สมุทรสงคราม “ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู” ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พื้นที่จังหวัดแพร่ เป็นต้น  

แกนนำพรรคพลังประชารัฐ

ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ในพลังประชารัฐเช่น “กลุ่มมะขามหวาน” ของ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ที่เคยมีข่าวจะย้ายไปด้วย ดูตามสถานการณ์แล้ว ตอนนี้ “สันติ” ก็เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐอยู่แล้ว มีบทบาทในพรรคสูง คงไม่น่าจะย้ายออกมา รวมถึงกลุ่มอื่นๆ เช่น “กลุ่มสามมิตร” ของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ”

ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ ต้องดูการตัดสินใจอีกครั้งว่า เมื่อ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ย้ายกลับมาพลังประชารัฐแล้ว พวกกลุ่มที่เคยขัดแย้งกันอยู่ทั้ง “กลุ่มสันติ-กลุ่มสมศักดิ์” จะเคลียร์ใจกับ “ธรรมนัส” ได้หรือไม่ แต่คาดว่า เรื่องนี้ “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร” น่าจะมีการคุยกับสมศักดิ์-สันติ ไว้แล้ว โดยหากเคลียร์ใจกันได้ ก็คาดว่า ทั้งหมดจะอยู่ที่พลังประชารัฐต่อไป แม้จะมีกระแสข่าวออกมาตลอดว่า “กลุ่มสามมิตร” อาจย้ายกลับเพื่อไทยก็ตาม

และอีกกลุ่มที่น่าสนใจคือ “ส.ส.-นักการเมืองสายกทม.” ซึ่งแม้ถึงตอนนี้มีที่ชัดเจนแล้วแค่คนเดียว ว่าจะมารวมไทยสร้างชาติคือ “ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์” ส.ส.กทม.พลังประชารัฐ ส่วนคนที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ ว่าจะมารวมไทยสร้างชาติ แต่สุดท้าย…เทเฉย ไปเข้าภูมิใจไทยคือ “ภาดา วรกานนท์” และ “กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา”

กระนั้น ยังมีส.ส.กทม.พลังประชารัฐอีกบางส่วน ที่ต้องจับตาว่าจะมาที่รวมไทยสร้างชาติหรือไม่ โดยเฉพาะ 3 ส.ส.กทม.ชาย ที่ยังอึมครึม ว่าจะเอาอย่างไรคือ “ชาญวิทย์ วิภูศิริ -ศิริพงษ์ รัสมี-ประสิทธิ์ มะหะหมัด” ท่ามกลางกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า ทั้งสามคนจะไปประชาธิปัตย์ แต่ของแบบนี้ยังไม่แน่ สุดท้ายอาจไปที่รวมไทยสร้างชาติก็ได้

อนุชา บูรพชัยศรี

รวมถึง “โฆษกรัฐบาล-รองโฆษกรัฐบาล” คู่ใจลุงตู่ ที่เคยเป็นส.ส.กทม.และอดีตผู้สมัครส.ส.กทม.รอบที่แล้ว  ก็น่าจะไปที่รวมไทยสร้างชาติ คือ “อนุชา บูรพชัยศรี” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ กับ “อ้น-ทิพานัน ศิริชนะ” ซึ่งตอนเลือกตั้งปี 2562 แพ้เฉียดฉิวแค่พันกว่าคะแนน แต่สำหรับ “อ้น-ทิพานัน” คงต้องคิดหนัก เพราะคงเกรงใจพล.อ.ประวิตรไม่น้อย หากต้องออกจากพลังประชารัฐ แต่ก็ต้องยอมรับว่า พื้นที่กทม. หากลงรวมไทยสร้างชาติ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์เป็นจุดขาย ยังไงก็ปลอดภัยกว่าลงพลังประชารัฐ ที่ขายบิ๊กป้อมแน่นอน

นอกจากนี้ก็ยังอาจจะมีอดีตผู้สมัครส.ส.กทม.พลังประชารัฐรอบที่แล้ว ที่คะแนนเสียงดีๆ ก็อาจจะมาที่รวมไทยสร้างชาติเช่นกัน เช่น “เนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์” กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงดิจิตอลฯ-“อรพินทร์ เพชรทัต” ที่ตอนเลือกตั้งปี 2562 แพ้เพื่อไทยไปแค่ 230 คะแนน

นอกจากนี้ ก็ให้จับตา อาจมีกองหนุนอีกหลายกลุ่ม กำลังจะตัดสินใจโดดเข้ามาที่ รวมไทยสร้างชาติเช่น ให้จับตา “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ผู้ก่อตั้ง-แกนนำตัวจริง พรรครวมพลัง ที่ตอนนี้พรรครวมพลัง มีส.ส.ในสภาห้าคน เพราะสุดท้าย แม้มีข่าวว่า นายทุนใหญ่พรรครวมพลังคือ “เจริญ เหล่าธรรมทัศน์” พี่ชาย ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษาฯ ต้องการทำพรรครวมพลังต่อไป แต่หากถึงเวลาจริงๆ ถ้าทั้ง “สุเทพ-เจริญ-เอนก” เห็นตรงกันว่า รวมพลังไปต่อไม่ไหว ก็คาดว่า ยังไงสุเทพอาจมาช่วยงานที่รวมไทยสร้างชาติ อยู่ข้างหลังก็ได้ เพราะ “เอกนัฐ” ก็คือ ลูกเลี้ยงของสุเทพ

อีกทั้ง “สุเทพ” ยังมีสายสัมพันธ์อันดีกับพล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้ว เพียงแต่ข่าวว่า “สุเทพ” อาจไม่เปิดตัว แบบเป็นทางการ แต่อาจซับพอร์ตอยู่ข้างหลัง เพราะอย่างที่สุราษฎ์ธานี ก็มีข่าวว่าสองน้องชาย ของสุเทพ คือ “เชน เทือกสุบรรณ” และ “ธานี เทือกสุบรรณ” สองอดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี ก็อาจจะไม่ลงเลือกตั้งรอบนี้ เพื่อเปิดทางให้คนของรวมไทยสร้างชาติ สู้กับประชาธิปัตย์ ให้เต็มที่ไปเลย โดยสุเทพจะคอยหนุนอยู่ข้างหลัง

สกลธี ภัทริยกุล

รวมถึงอาจจะมีอีกหลายคนตามมาทีรวมไทยสร้างชาติอีก เช่น “สกลธี ภัทริยกุล” อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ที่ตอนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ก็ทำคะแนนได้ระดับหนึ่ง ก็มีข่าวว่าอาจจะมาที่รวมไทยสร้างชาติ เพื่อมาร่วมคุมพื้นที่เลือกตั้งกทม. แม้จะมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า “สกลธี” จะไปที่พลังประชารัฐก็ตาม

ประเด็นที่สอง ที่ต้องติดตามก็คือ “การจัดทัพในรวมไทยสร้างชาติ” ที่คาดว่าหลังปีใหม่ พรรคจะมีการปรับโครงสร้างการบริหารงาน เพื่อรองรับการเติบโตของรวมไทยสร้างชาติ รวมถึงเพื่อให้ตำแหน่งและบทบาทกับหลายคนที่เข้ามาที่รวมไทยสร้างชาติ อย่างเช่น พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องดูว่า จะ “ขาลอย” คือมาเป็นแคนดิเดตนายกฯอย่างเดียว หรือจะมามีตำแหน่งในพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย อย่างเช่น “ประธานที่ปรึกษาพรรค” เป็นต้น

ส่วนเก้าอี้ “เลขาธิการพรรค” ที่เคยมีข่าวว่า “สุชาติ ชมกลิ่น” อาจจะมาเป็นแทน “เอกนัฐ” นั้น ข่าวว่า ตอนนี้ยังไม่นิ่ง เพราะทาง “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ยังไม่ยอม เพราะต้องการให้ “เอกนัฐ” เป็นเลขาธิการพรรคไปจนถึงตอนเลือกตั้ง แล้วหลังจากเลือกตั้ง ค่อยมาพิจารณาอีกที

เมื่อ “บิ๊กตู่” มาที่รวมไทยสร้างชาติ คงทำให้พรรคถูกจับตามองทุกฝีก้าวมากขึ้นแน่นอน

…………………………..

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย “พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img