“อนุทิน” ผ่อนปรนเงื่อนไขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยอายุไม่เกิน 18 ปีไม่ต้องโชว์ผลฉีดวัคซีน 2 เข็ม ยันพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ขณะที่จีนขอตารางการบินเข้าไทย 15 สายการบิน
นายยอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้แทนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว จากสาธารณรัฐประชาชนจีนคณะแรกที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ด้วยสายการบิน Xiamen Airlines (เซี่ยเหมินแอร์ไลน์) เที่ยวบินที่ MF 833 จากเมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 269 คน หลังสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกาศเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2566
ทั้งนี้ เมื่อเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 สายการบินเซี่ยเหมิน แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MF 833 ลงจอดเทียบอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ประตูทางเชื่อมเข้าอาคาร D4 นายอนุทิน พร้อมคณะ ได้มาตั้งแถวต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งหมดอย่างอบอุ่น ด้วยการมอบพวงมาลัย ดอกกล้วยไม้สด กระเป๋าของที่ระลึก ที่แจกให้นักท่องเที่ยว ประกอบด้วย โบรชัวร์ แบบสแกน จังหวัดเชียงใหม่ บุรีรัมย์ แหล่งท่องเที่ยว luxury และชุดกิฟต์เซตที่ระลึกจากการท่าอากาศยานไทย สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมากับเที่ยวบินที่ MF 833 ทุกคนเป็นอย่างมาก
จากนั้น นายอนุทิน ยืนยันด้วยว่า ตอนนี้ไม่มีการสุ่มตรวจโควิดแล้ว ส่วนการสุ่มตรวจน้ำเสียบนเครื่องบินก็เป็นมาตรการปกติของกระทรวงคมนาคม พร้อมเชื่อว่า ถ้าใครจะเดินทางไปต่างประเทศก็จะฉีดวีคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไว้ก่อน เช่นตัวเอง ได้ฉีดวัคซีน 6 เข็มแล้ว และจะไปประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์ ก็คงจะต้องไปเพิ่มวัคซีนอีกก่อนเดินทาง ซึ่งไม่มีใครมาบังคับ แต่จะรู้ได้ด้วยตัวเอง
สำหรับการเดินทางเข้ามาครั้งนี้ เป็นไปภายใต้มาตรการป้องกันโรค โควิด-19 ตามที่รัฐบาลไทยกำหนด มีความเหมาะสมและเน้นความสำคัญของความปลอดภัยด้านสุขภาพ มีการอำนวยความสะดวก และความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งจากประเทศจีนและทุกประเทศทั่วโลก 100 %
โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ ซึ่งการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากจีนวันนี้ ส่งสัญญาณที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย เชื่อว่าจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้เข้าประเทศ พร้อมขอให้คนไทยทุกคน ร่วมกันต้อนรับนักท่องเที่ยวภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่ยังคงต้องดำเนินการอยู่
ส่วนผลการประชุมคณะกรรมการวิชาการ ภายใต้ พ.ร.บ. โรคติดต่อแห่งชาติเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ได้มีการหารือแก้ข้อกำหนดในการเข้าประเทศไทย สำหรับผู้โดยสารต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย เบื้องต้นมีการปรับเปลี่ยนว่า ผู้โดยสารที่อายุมากกว่า 18 ปี ไม่ต้องแสดงข้อมูลการรับวัคซีนครบ 2 เข็ม เพื่อไม่ให้เป็นข้อกีดขวางในการเดินทางท่องเที่ยว หลังจากเกิดกระแสนักท่องเที่ยวโซนยุโรป ยกเลิกการเดินทาง
ข้อมูลจาก ทอท.ตลอดทั้งวันนี้ จะมีเที่ยวบินจากประเทศจีนเดินทางเข้าไทย 15 เที่ยวบินรวมนักท่องเที่ยว 3,465 คน และคาดการณ์ตลอดทั้งปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางเข้าไทย 7-10 ล้านคน จึงได้ย้ำให้เพิ่มบุคลากรการทำงานให้เพียงพอ ต่อการให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งยืนยันว่า ทุกท่าอากาศยานมีความพร้อม ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเพียงพอ ส่วนปัญหากระเป๋าสัมภาระล่าช้าและระบบขนส่ง กระทรวงคมนาคม ได้เร่งแก้ไขปัญหาปัจจุบันใช้เวลาเพียง 27 นาที ในการอำนวยความสะดวก ยืนยันมีความรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น และระบบขนส่งสาธารณะจะเพิ่มจำนวนให้เพียงพอ ตั้งเป้าหมายอำนวยความสะดวกไม่เกิน 10 นาที/คน
ด้านสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) มีสายการบินของจีนขอตารางการบินเข้าประเทศไทยใน 3 ท่าอากาศยานหลัก คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต จำนวน 15 สายการบิน
โดยยื่นเสนอขอทำการบินรวม 15 เที่ยวบินต่อวัน โดยไตรมาสแรก ปี 2566 จะแบ่งเป็นเที่ยวบินจากจีนบินเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมประมาณ 338 เที่ยวบิน แบ่งเป็น ม.ค.นี้ ประมาณ 98 เที่ยวบิน เดือน ก.พ.นี้ จำนวน 144 เที่ยวบิน และ มี.ค.นี้ จำนวน 96 เที่ยวบิน
ขณะที่ ท่าอากาศยานภูเก็ต จะมีเที่ยวบินเข้าทุกวันตั้งแต่วันที่ 15-17 ก.พ.นี้ วันละ 1 เที่ยวบิน จากนั้นตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.-25 มี.ค.นี้ จะมีวันละ 4 เที่ยวบิน ส่วนท่าอากาศยานเชียงใหม่ จะเริ่มมีเที่ยวบินตรงจากจีนเข้าตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2566 รวม 3 เดือน จำนวน 200 เที่ยวบิน โดย ม.ค. นี้ จำนวน 42 เที่ยวบิน เดือนก.พ.นี้ จำนวน 84 เที่ยวบิน และมี.ค.นี้ จำนวน 74 เที่ยวบิน
นอกจากเที่ยวบินที่ MF833 สายการบิน “เซี่ยเหมินแอร์ไลน์” จากเมืองเซี่ยเหมิน ยังมี เที่ยวบินที่ CZ 3081 สายการบิน “ไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์” จากเมืองกว่างโจว อีก 1 เที่ยวบิน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเกือบเต็มลำ เป็นสัญญาณว่านักท่องเที่ยวจากจีนในปีนี้ จะเป็นไปตามเป้าหมาย 5 ล้านคน ทำรายได้เข้าประเทศกว่า 200,000 ล้านบาท คาดในไตรมาสแรกจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยประมาณ 300,000 คน ในรูปแบบครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ยังไม่มีในรูปแบบกรุ๊ป
