วันอังคาร, พฤศจิกายน 26, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightจ่อขึ้นราคาสินค้า หลังต้นทุนพลังงานพุ่ง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

จ่อขึ้นราคาสินค้า หลังต้นทุนพลังงานพุ่ง

“สนั่น” เผยภาคเอกชนเตรียมปรับขึ้นราคาสินค้า-บริการ เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แม้ว่าที่ผ่านมารัฐให้การช่วยเหลือบางส่วน มองจีนผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลก คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 25 ล้านคน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการ กกร. เปิดเผยว่า ประเด็นค่าไฟฟ้า (Ft) ที่ในช่วงที่ผ่านมา กกร. ได้มีข้อเสนอแนะและหารือกับรัฐบาล เพื่อหาแนวทางออกที่เหมาะสมเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าไฟ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อต้นทุนพลังงานของภาคเอกชน กกร. ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้รับฟังเสียงสะท้อนของภาคเอกชน ถึงแม้ไม่ได้ตรึงราคาตามข้อเสนอของภาคเอกชน
ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับตัวและอาจต้องปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงบางส่วนโดยไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภคมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนยังหวังว่าตลอดทั้งปีนี้ รัฐบาลจะมีมาตรการในการดูแลค่าไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการลดต้นทุนค่าไฟฟ้าจากทุกภาคส่วน โดย กกร. ได้มีการจัดตั้งคณะทำงาน task force ด้านพลังงาน เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs วางแผนและนำเสนอแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการด้านพลังงาน

โดยภาคเอกชนก็พร้อมที่จะปรับตัวในการใช้พลังงานทางเลือกให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และมีส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตภายใต้เศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงในปีนี้ โดยจะต้องวางแผนในระยะยาวให้มีความสมดุลทั้งด้านต้นทุนของผู้ประกอบการ การดูแลสิ่งแวดล้อม และความสามารถในการแข่งขันต่อไป

สำหรับกรณีที่จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดของจีนจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป ในช่วงต้นของการผ่อนคลาย มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ขาดแคลนแรงงานในภาคการผลิตและการส่งออก ทำให้ภาคการผลิตของจีนหดตัวลงในระยะนี้ แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ 5% ในปีนี้ และช่วยพยุงไม่ให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงมากเกินไปในภาวะที่ยังเผชิญแรงกดดันจากราคาพลังงานในระดับสูงและต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้อาจสูงถึง 20-25 ล้านคน จากปี 65 ที่ผ่านมาต่างชาติเข้ามาไทย 11.1 ล้านคน แต่ภาคเอกชนยังคงมีความกังวลถึงปัญหาแรงงานในภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงขาดแคลน จึงจำเป็นที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหาแนวทางในการดึงกลุ่มแรงงานกลับเข้าสู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวให้เพียงพอต่อตลาด

สนั่น อังอุบลกุล

ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 66 มีข้อจำกัดในการฟื้นตัว แม้ว่าแนวโน้มของภาคการท่องเที่ยวจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ภาคการส่งออกมีสัญญาณการชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่ ภาวะต้นทุนที่อยู่ในระดับสูงตามราคาพลังงาน ค่าไฟฟ้า และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเป็นความท้าทายของภาคเอกชน ที่ประชุม กกร. จึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3-3.5% ขณะที่การส่งออกประเมินว่าจะขยายตัวในกรอบ 1% ถึง 2% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 2.7 ถึง 3.2%

นอกจากนี้ กกร. เห็นว่า ผลกระทบต่อดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพิ่มขึ้น หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สถาบันการเงินยกเลิกการผ่อนปรนเงินนำส่งกองทุน FIDF ให้กลับเข้าสู่อัตราปกติที่ 0.46% ต่อปี จากเดิมอยู่ที่ 0.23% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.66 ที่ผ่านมนั้น สมาคมธนาคารไทยยังคงให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วยการความช่วยเหลือที่เหมาะสม ตรงจุด และทันการณ์ ครอบคลุมทั้งการลดภาระทางการเงิน การปรับปรุงโครงสร้างหนี้เดิม พร้อมทั้งจะเร่งผลักดันมาตรการอื่นๆ เช่น สินเชื่อเพื่อการปรับตัวภายใต้ พ.ร.ก.ฟื้นฟูฯ เพื่อปรับตัวให้สอดรับกับกระแสเทคโนโลยีดิจิทัล การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ นวัตกรรมแห่งโลกอนาคต รวมถึงโครงการพักทรัพย์พักหนี้ สำหรับลูกหนี้ธุรกิจที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ทั้งนี้จะได้มีการติดตามความคืบหน้าและประสิทธิผลของมาตรการต่างๆ อย่างใกล้ชิด

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img