“แรมโบ้” โต้กลับ “วัชระ” ซัดอย่าเที่ยวงับคนอื่น โดยไม่รู้ข้อเท็จจริง เตรียมให้ฝ่ายกม.ดำเนินคดี หลังพาดพิง “อาจารย์น้อง” ภริยานายกฯ จนเสียหาย ยันตั้ง “ธรรมนัส-นฤมล” สอบโครงการฯ เพราะนายกฯให้ความสำคัญเสียงปชช.ทุกกลุ่ม ไม่ได้หักหน้าใคร
เมื่อวันที่ 31 ม.ค.64 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกคณะกรรมการแก้ไขปัญหากลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ “พีมูฟ” กล่าวถึงกรณีที่นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ข้องใจที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน สอบโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่เมืองต้นแบบที่อำเภอจะนะ จ.สงขลา “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” และทำให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เสียหน้าเพราะไฟเขียวโครงการนี้
โดยนายสุภรณ์ ระบุว่า สิ่งที่นายวัชระพูดมานั้น ไม่เป็นความจริ เพราะโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการที่ดีในการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ ให้เป็นเมืองต้นแบบที่มีการพัฒนาในลักษณะพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะ มีการลงทุนจากภาคเอกชนที่สามารถสร้างงานและสร้างรายได้ไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและเพิ่มพื้นที่ปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น และได้มอบให้ ศอบต. เป็นผู้รับผิดชอบเป็นเจ้าภาพในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแห่งนี้ แต่เมื่อพบว่าประชาชนมีความเห็นขัดแย้งกันและมีความเคลือบแคลงในขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ที่จะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลแก้ไขความขัดแย้ง เพื่อสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่ และการแต่งตั้งร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมลนั้น ถือว่าเหมาะสม เพราะเป็นรัฐมนตรีช่วยฯ อีกทั้งยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เป็นกรรมการ เพื่อมาตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบดังกล่าว
“นายวัชระฯยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่า เมื่อมีมาประชาชนเดินทางมาร้องคัดค้านที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเสนอให้มีการทบทวน เริ่มกระบวนการตามขั้นตอนใหม่ และเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นายกฯจึงมอบให้พล.อ.ประวิทย์ ซึ่งเป็นประธานในการแก้ไขปัญหาของกลุ่มพีมูฟ รับไปดำเนินการแก้ไขปัญหา ในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาชุดดังกล่าว พล.อ.ประวิทย์จึงมอบให้ฝ่ายเลขาฯสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ยกร่างคำสั่งและเสนอร.อ.ธรรมนัส เป็นประธานกรรมการดำเนินการเพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคแก้ไขข้อขัดแย้ง เพื่อให้เกิดความคืบหน้าในโครงการต่อไป เพราะในโครงการดังกล่าว มีประชาชนสองฝ่ายทั้งผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านจึงจำเป็นต้องหาข้อยุติให้ได้
“นายวัชระคงไม่เข้าใจว่า เป็นการเสนอนายกฯลงนามแต่งตั้งมาจากการพิจารณาของพล.อ.ประวิทย์ พิจารณาเสนอขึ้นมา และไม่ใช่เป็นการแต่งตั้ง รมช.มาหักหน้ารองนายกฯ ตามที่นายวัชระกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีที่ไม่สมควร ขอนายวัชระอย่าทำตัวนิสัยประเภทจับแพะชนแกะ ประเดี๋ยวนายวัชระจะกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ไปสียเอง อยากให้นายวัชระ ทราบว่าในการทำงานของนายกฯ ได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนในทุกกลุ่ม และให้ความสำคัญกับเสียงของประชาชนทุกคน โดยจะไม่ปล่อยผ่านไป ทั้งนี้นายกฯไม่ได้มองว่าใครเป็นผู้อนุมัติ เพราะเป็นการทำเพื่อประชาชน มั่นใจว่านายกฯไม่ได้คิดถึงเรื่องความไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจใคร รัฐบาลทำงานเป็นเอกภาพดี และนายกฯก็คิดถึงแต่เรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นเรื่องสำคัญเท่านั้น”นายสุภรณ์กล่าว
นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า นายวัชระฯอย่าใช้นิสัยพาดถึงครอบครัวนายกฯ ไม่ควรที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์ พาดพิงถึงบุคคลอื่นโดยไม่รู้ไม่เห็นไม่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ “อาจารย์น้อง” รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยาของนายกฯ เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นและอาจารย์น้องกับอาจารย์แหม่ม ก็ไม่ได้สนิทสนมกันตามที่นายวัชระกล่าวหาเพื่อให้เกิดความเสียหาย เชื่อว่าองค์ความรู้ของนางนฤมล หากนำมารวมกันกับองค์ความรู้จากหลายภาคส่วน จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ เพราะมีประสบการณ์มากมายเช่นกัน อย่าได้เอามาโยงกับอาจารย์น้องภริยานายกฯ เป็นการบิดเบือนกล่าวหาที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
“รู้ดีว่างานนี้นายวัชระคงรับงานใครมาพูด แต่การที่นายวัชระฯกล่าวหาใส่ความอาจารย์น้องและเอาดร.นฤมล มาโยงกับอาจารย์น้องว่ามีความใกล้ชิดสนิทสนมเป็นเพื่อนกัน เพื่อจะโยงให้เกิดความเสียหายและเกี่ยวข้องกับปัญหาในโครงการดังกล่าว ถือว่าเป็น กล่าวหาที่ใช้ไม่ได้เลวร้ายมาก ไม่สมควรให้อภัย อาจทำให้สังคมและประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน เกิดความเสื่อมเสียได้ต่อครอบครัวนายกฯได้ การใช้นิสัยสันดานชอบบิดเบือนเช่นนี้โดยไม่มีข้อเท็จจริงเลยสักนิด นายวัชระไม่ควรกระทำ คงต้องให้ทางฝ่ายกฎหมายได้ตรวจสอบหาแนวทางดำเนินคดีกับนายวัชระ เพื่อเป็นบรรทัดฐานไม่ให้ไปก้าวก่ายบุคคลอื่น หรือไปพาดพิงคนที่ไม่รู้ไม่เห็นไม่เกี่ยวข้องอีกต่อไปและจะได้ไม่ไปเที่ยวกัดเที่ยวงับคนอื่นๆ เขาไปทั่ว”นายสุภรณ์กล่าว