“เอกนัฏ” พร้อมแจงกกต. 5 ประเด็น ยัน จัดงานเปิดตัว “บิ๊กตู่” ยึดกรอบกฎหมายทุกอย่าง ยันจนท.กกต.ร่วมสังเกตการณ์ตลอด ขู่ ฟ้องกลับฐานลักลอบเอา “หมวก-เสื้อ” สมบัติของรทสช. ออกนอกห้อง ถาม “สมชัย” ยื่นในฐานะ อดีตกกต.หรือสมาชิกพรรคคู่แข่ง บอกบัตรประชารัฐ เป็นอดีตไปแล้ว
วันที่ 19 ม.ค.66 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติถูกร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีกระทำผิด 5 ประเด็นในวันงานเปิดตัว พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ตนไม่เห็นว่าการร้องของทั้งนายวีระและนายสมชัยทั้งสองคนจะเป็นประโยชน์อะไรกับประเทศชาติบ้านเมือง ที่จริงควรจะไปช่วยกันจับทุจริตการเลือกตั้งมากกว่า โดยเฉพาะนายสมชัย ซึ่งเป็นอดีตกกต.แต่วันนี้ ควรจะมีการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา เพราะตัวเองก็เป็นสมาชิกของพรรคการเมือง ต้องแสดงเจตนาให้ชัดว่า ที่ไปร้องนั้นร้องด้วยความบริสุทธิ์ใจในฐานะอดีตกกต. หรือร้องในฐานะสมาชิกพรรคการเมือง ที่เป็นคู่แข่งกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งพรรคไม่เห็นว่าประเด็นที่ร้องนั้นจะมีความสำคัญอะไร หรือไม่มีประโยชน์อะไรกับประเทศชาติบ้านเมือง คนเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ควรไปคิดอะไรที่มันสร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์กับประเทศมากกว่า
เมื่อถามว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่าการเปิดตัวในวันดังกล่าวไม่มีสิ่งใดที่กระทำผิดกฏหมาย นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยืนยันทุกอย่างทำตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับกกต. ในการชี้แจงเรื่องนี้ เพราะเราทำทุกอย่างด้วยความเปิดเผย ไม่ได้ทำอะไรที่ลับๆล่อๆ หรือผิดกฎหมาย และกกต. ก็เข้ามาสังเกตการณ์ตั้งแต่การร่วมประชุม ขณะเดียวกันตนเห็นว่า พรรคการเมืองอื่นก็ทำกิจกรรมกับสมาชิกเหมือนกัน จัดเวทีปราศรัยตามต่างจังหวัด คนก็มากันเยอะแยะ มีการเปิดเพลงบางเพลงที่ไปใช้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เพลง ของพรรคตัวเองด้วย เพราะฉะนั้นกกต. ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุกพรรคการเมือง
เมื่อถามว่า ผู้ยื่นร้องได้นำหลักฐานเป็นเสื้อและหมวก ที่แจกให้กับผู้มาร่วมงาน ไปยื่นร้องต่อกกต.ด้วย นายเอกนัฏ กล่าวว่า ถ้าเป็นแบบนี้พรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องไปร้องหรือไม่ว่า ทั้งสองคนลักลอบเอาทรัพย์สินของพรรครวมไทยสร้างชาติออกจากห้องประชุม เพราะถือเป็นหลักฐานได้เช่นกัน เพราะทั้งเสื้อและหมวกถือเป็นทรัพย์สินของพรรค ที่ให้ใช้ในห้องประชุมที่จัดกิจกรรมเท่านั้น ถ้าทั้งสองคนไปนำทรัพย์สินเหล่านี้ออกมา ก็ไม่แน่ใจว่าอาจจะถูกดำเนินคดีหรือไม่
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการสกัดกระแสความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ความจริงก็ต้องขอขอบคุณทั้งนายวีระ และนายสมชัย ที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ใจตนอยากจะประชาสัมพันธ์เรื่องอื่นที่มันสร้างสรรค์มากกว่า ซึ่งเท่าที่ตนติดตามเห็นว่าทั้งสองคนร้องแต่ พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ไปร้องพรรคอื่น ก็ไม่รู้ว่าทำไมจึงติดใจพรรคเรามาก และต้องขอบคุณที่ให้ความสำคัญกับพรรคเรา
เมื่อถามถึงนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติโดยเฉพาะโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ทั้งพปชร.และรทสช.ต่างแย่งกันใช้นโยบายนี้ นายเอกนัฏ กล่าวว่า โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเกิดขึ้นในยุคของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติตั้งใจว่า จะต่อยอดโครงการนี้ เพราะเราเชื่อว่า การที่จะสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเป็นธรรม ก็จะต้องมีการปูพื้นด้านสวัสดิการที่เป็นธรรม สำหรับทุกคนไม่จำกัดอาชีพ เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเป็นผลงานของพล.อ.ประยุทธ์
เมื่อถามว่า แสดงว่าทุกพรรคการเมืองสามารถนำโครงการนี้ไปใช้ได้ใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า หากพรรคไหนจะนำไปใช้ ก็ต้องดูว่าคนเชื่อหรือเปล่า ในต่างจังหวัดตนได้ยินเขาพูดกันสั้นๆว่า บัตรลุงตู่ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะบัตรนี้เกิดขึ้นในยุคลุงตู่
เมื่อถามว่า การที่พรรคพลังประชารัฐนำไปใช้เรียก บัตรประชารัฐ อาจจะเป็นเพราะชื่อพ้องกับชื่อพรรค นายเอกนัฏ กล่าวว่า “มันเป็นอดีตไปแล้วครับ”
เมื่อถามว่า การเปิดนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ หัวหน้าพรรคจะเป็นผู้นำเสนอ หรือจะให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำเสนอต่อประชาชน นายเอกนัฏ กล่าวว่า ในส่วนนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติจะให้ผู้ที่เหมาะสมเป็นผู้นำเสนอ และจากนี้ไปจะมีคิวการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์และนายพีระพันธุ์ เดินสายพบปะสมาชิกในต่างจังหวัดด้วย เพราะในหลายพื้นที่ต่างเรียกร้อง อยากมีส่วนร่วมในการต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์บ้าง ซึ่งที่แรกจะไปที่ชุมพร ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ และอาจจะมีการเปิดตัวผู้สมัคร ในบางพื้นที่ด้วยหากการแบ่งเขตเลือกตั้งของกกต. ชัดเจนแล้ว รวมถึงอาจเปิดนโยบายในบางส่วนด้วย