วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘รฎาวัญ’ วอน ‘สธ.’ เพิ่มงบฯพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘รฎาวัญ’ วอน ‘สธ.’ เพิ่มงบฯพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย

ประธานองค์กรปัญญาการแพทย์แผนไทย นำคณะเข้าหารือและถามข้อมูลเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย พร้อมขอให้ สธ.ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยให้ได้มาตรฐานสากล

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรมช.แรงงาน และประธานองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เปิดเผยว่า ตนได้นำคณะผู้ประกอบการวิชาชีพการแพทย์แผนไทย เข้าพบหารือกับ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งมี นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีฯ ร่วมหารือด้วย จากการเข้าพบครั้งนี้ได้มีการสอบถามและข้อเสนอในหลายประเด็น อาทิ การขอทราบกระบวนการดูแลสุขภาพประชาชนภายใน 14 วันของการกักตัวว่าได้ทำอย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันยังมีการเสนอแผนปฎิบัติตามหลักภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเพื่อให้ร่างกายผู้ที่ถูกกักตัว 14 วันแข็งแรงและเกิดภูมิคุ้มกันโรคหรือทำให้เชื้อโรคอ่อนแรง

นอกจากนั้นยังขอให้กรมการแพทย์แผนไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงสาธารณสุข ประสานกับองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เพื่อผลิตและเผยแพร่หรือจัดกิจกรรมโครงการ การให้ความรู้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยตามที่มีการเสนอในข้างต้น และยังขอทราบแผนปฎิบัติในการกำหนดพื้นที่ภาคสนามเพื่อให้แพทย์แผนไทย แพทย์พื้นบ้านเข้าร่วมในการให้คำแนะนำ ฝึกสอนการปฎิบัติตัวตามหลักของภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ให้แก่ประชาชนที่ถูกกักตัวรวมทั้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงโดยใช้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนเป็นศูนย์ปฏิบัติการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย

ขอทราบความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย สภาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อการจัดทำแผนปฏิบัติ ตามข้อเสนอเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2564ที่ผ่านมาให้เป็นรูปธรรมพร้อมทั้งเสนอให้วิจัยและพัฒนาตำรับยาแผนไทยและสมุนไพรไทยทุกชนิดให้ได้มาตรฐานและจดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาให้เป็นของประเทศไทยโดยเร็ว เพื่อป้องกันต่างชาตินำไปจดลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ

“ได้ทราบถึงความตั้งใจส่งเสริมพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยของอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯที่มีความพยายามดำเนินการตลอดมา  แต่งบประมาณที่กรมฯได้รับจัดสรรแต่ละปีนั้นเมื่อหักค่าใช้จ่ายเงินเดือนแล้วจะเหลือแค่ 50-60 ล้านบาท เพื่อใช้ในการบริหาร เมื่อเทียบกับงบประมาณบริหารของโรงพยาบาลชุมชนบางแห่งยังมีมากกว่านี้หลายเท่า ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขควรให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรจัดสรรงบประมาณเพื่อทำการวิจัยให้ตำรับยาแผนไทยได้มาตรฐานสากลโดยเร็ว ซึ่งจะเกิดผลดีต่อสุขภาพของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม”นางรฎาวัญ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img