วันอังคาร, พฤศจิกายน 26, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS ‘ชูวิทย์’ ยกสายตรงพยานปากเอกคนจ่าย 27,000  แฉยับตำรวจข่มขู่สารพัด
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

 ‘ชูวิทย์’ ยกสายตรงพยานปากเอกคนจ่าย 27,000  แฉยับตำรวจข่มขู่สารพัด

“ชูวิทย์” ยกสายตรง คุยผ่านประเทศพยานปากเอก ชาวสิงคโปร์ เจ้าของเงิน 27,000 บาท พร้อมวอนให้บินด่วนมายืนยันข้อเท็จจริง ยินดีออกค่าใช้จ่ายเอง จี้ “ผบช.น. – ผบ.ตร. – นายกฯ” กล่าวขอโทษ และคืนเงินด่วน

กรณีกลุ่มดาราสาวสาวไต้หวันถูกรีดเงิน 27,000 บาท ขณะถูกเรียกตรวจที่จุดสกัดบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตจีนพื้นที่ สน.ห้วยขวาง โดยทางตำรวจที่ตั้งด่านสกัดในวันนั้นมีการเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงินสดจำนวน 27,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีกรณีครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 30 ม.ค. “ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์”  อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้มีการเผยแพร่วิดีโอ ความยาวกว่า 11.33 นาที พร้อมใส่คำบรรยายวิดีโอว่า “คุยกับพยานคนสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ไม่คิดว่าจะเจอด่านตำรวจรีดไถแบบนี้ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ”

โดยภายในวีดิโอปรากฏภาพนายชูวิทย์ได้โทรศัพท์พูดคุยกับบุคคลเพศชาย ซึ่งนายชูวิทย์ อ้างว่าเป็นพยานบุคคล และอ้างชื่อว่า Mr.Sky (หรือ นายสกาย) ระบุว่า ที่ด่านตรวจคืนเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 4 นาย โดยมี 1 นาย ขู่พยานตลอด และยืนยันว่ามีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมด 27,000 บาท ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามพยานว่า ทำไมไม่เอาพาสปอร์ตออกมา และทำไมไม่มีวีซ่า ซึ่งพยานรายนี้ระบุว่า ที่ประเทศสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่า และอยู่ไม่ถึง 30 วันไม่ต้องใช้วีซ่า และตนนั้นมาอยู่แค่ 2 อาทิตย์ จากนั้นพยานระบุอีกว่า ตนได้บอกเพื่อนให้ไปโรงแรมเพื่อไปเอาพาสปอร์ต แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไปไม่ได้ พยานจึงถามว่าตนไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร แต่เจ้าหน้าที่ก็ระบุว่า พยานมีบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งพยานก็ยอมรับ ด้านพยานก็ตั้งคำถามกลับว่า ที่ตลาดก็มีขาย แบบนี้จะผิดกว่าหรือไม่

นอกจากนี้พยาน ยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอาการโมโหซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่โมโหเรื่องอะไร นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนพยาน 1 ใน 4 คนทำการโทรศัพท์หาเพื่อน (ในคลิปวิดีโอใช้คำว่าเมีย) ด้านเจ้าหน้าที่ได้ระบุว่า ห้ามคุยโทรศัพท์และไม่ให้บันทึกภาพใดๆ ซึ่งใช้เวลาอยู่ในด่านกว่า 1-2 ชม. โดยมีตำรวจ 1 นายที่ขู่มากแล้วก็คุยกันตลอด ส่วนอีก 2 คนก็มาช่วยคุยด้วย

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยังได้กล่าวขอโทษพยาน พร้อมกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ภาพลักษณ์ของเมืองไทยเสียหาย ตนขอความกรุณาให้พยานให้เดินทางมาพบที่ประเทศไทยได้หรือไม่ โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดตนยินดีออกให้ เพื่อให้มาพูดข้อเท็จจริงให้สังคมไทยได้รับรู้ เพราะตำรวจไทยปฏิเสธและพยายามที่จะแต่งเรื่องโกหกโทษสาวไต้หวัน ด้านพยาน ระบุว่า คิดอยู่ เพราะกลัวอันตราย ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ก็ได้ยืนยันว่าไม่ต้องหวั่นเกรงเรื่องอันตรายใดๆทั้งสิ้น

“ผมคิดว่าคุณสกายเป็นคนสิงคโปร์ ผมอยากทำให้ประเทศไทยเป็นเหมือนสิงคโปร์ ดังนั้น ในฐานะเป็นคนไทยก็พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะให้เรื่องนี้เป็นความจริงที่ปรากฏให้กับคนไทยทุกคนได้ทราบ คุณสกายจะมีส่วนช่วยเหลือในสังคมไทยเป็นอย่างมาก หากคุณสกายมาให้ความจริง ขอให้คุณสกายพิจารณาดูหากสะดวกพรุ่งนี้ ให้คุณสกายเดินทางมา ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆตนยินดีรับผิดชอบให้หมด รวมทั้งจะคืนเงิน 27,000 ให้กับคุณสกายด้วย” นายชูวิทย์ กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้สังคมไทยควรจะได้รับบทเรียน การที่ตำรวจไทยกระทำเช่นนี้ย่อมทำให้ เกิดความเสียหายทางภาพลักษณ์และการท่องเที่ยว ในสายตาคนต่างชาติ การที่ไปขู่พยานเกี่ยวกับวีซ่า ซึ่งทางพยานเองก็ยืนยันว่าเป็นคนสิงคโปร์ไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังไปโทษสาวไต้หวันว่าเมาและไม่พูดความจริงอีกด้วย

ก่อนที่จะจบการสนทนาระหว่างนายชูวิทย์และพยานนั้น ทางพยานและเพื่อนจะขอติดต่อกลับมาอีกครั้ง เพื่อคอนเฟิร์มข้อตกลงว่าพยาน หรือ นายสกาย (เจ้าของเงิน 27,000 บาท) จะเดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อมาพบนายชูวิทย์ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆให้สิ้นกระแสความ อย่างไรก็ตาม นายชูวิทย์ระบุทิ้งท้ายว่า ผบช.น ผบ.ตร. และนายกรัฐมนตรีควรมากล่าวคำขอโทษและคืนเงิน 27,000 บาทให้กับเขาไป จากนั้นนายชูวิทย์ กล่าวย้ำอีกว่าส่วนค่าใช่จ่ายยินดีออกให้ เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นความเสียหายของภาพลักษณ์ประชาชนคนไทยอย่างร้ายแรง

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img