“ฝ่ายค้าน” เสนอญัตติด่วนช่วย “แบม-ตะวัน” อัดรัฐตั้งเงื่อนไขปล่อยตัวจำกัดสิทธิเกินกว่าเหตุ เชื่อมีคนชักใยใช้ชีวิตเด็กสืบทอดอำนาจ
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.66 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วารการะประชุม นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาให้ที่ประชุมพิจารณากรณีสิทธิการประกันตัวและการใช้กฎหมายล้นเกินกับผู้แสดงออกและแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ส.ส.ภูมิใจไทยคัดค้านไม่ให้เสนอญัตติดังกล่าวเข้ามาแทรกคิวร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่อยู่ในวาระการพิจารณา พร้อมเสนอญัตติคัดค้านญัตติของฝ่ายค้านเช่นกัน
แต่นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย พยายามขอรอมชอมว่า ญัตติด่วนฝ่ายค้านเป็นเรื่องสำคัญ ขอเวลาอภิปรายแค่ 2 ชั่วโมง จะให้ประชุมร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชงต่อ
ในที่สุดนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ยินยอมให้อภิปรายญัตติด่วนด้วยวาจาของพรรคฝ่ายค้าน แต่ขอให้ฝ่ายค้านอยู่ช่วยเป็นองค์ประชุมในการพิจารณาร่างกฎหมายกัญชาด้วย ถือเป็นสัจจะลูกผู้ชาย ซึ่งส.ส.ฝ่ายค้านรับปากจะปฏิบัติตาม
จากนั้นนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาว่า ขอให้ปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังทางการเมือง และน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และน.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ 2 ผู้ต้องขังทางการเมือง ที่กำลังอดอาหารประท้วง เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 และการปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคน แม้เด็ก 2 คนได้สิทธิประกัน แต่ภายใต้เงื่อนไขที่จำกัดสิทธิเสรีภาพาเกินขอบเขต เช่น ติดกำไลอีเอ็ม ควบคุมพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเรื่องรับไม่ได้ นี่คือคนไม่ใช่สัตว์ เป็นการจำกัดสิทธิเกินเหตุ ขอให้ผู้มีอำนาจทั้งคณะผู้พิพากษา ศาลใช้ดุลยพินิจพิจารณาให้ดี การให้ประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมืองต้องมีเงื่อนไขเหมาะสม มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ และขอให้พรรคการเมืองประกาศนโยบายคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน โดยเฉพาะคดีการเมือง การยกเลิกมาตรา 112 ทุกพรรคควรพิจารณาจะตอบสนองข้อเรียกร้องได้อย่างไร หลายมาตราเป็นเครื่องมือกำจัดผู้เห็นต่างทางการเมือง เช่น แค่มีขันแดงในมือก็เป็นภัยความมั่นคง บางคนอาศัยกฎหมายเหล่านี้เป็นเครื่องมือทำลายคู่แข่งทางการเมือง มาตรา 112 เป็นกฎหมายอาญา แต่ถือเป็นกฎหมายความมั่นคง ถ้าเอามาใช้ไม่ถูกทาง ปัจจุบันนำมาใช้ล้นเกิน ขาดหลักนิติธรรม จนเกิดผลกระทบต่อประชาชนและสถาบัน ปากบอกจงรักภักดี แต่การกระทำไม่ใช่ ขอให้สภาช่วยหามาตรการแก้ไขด้วย
นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อน มีความเห็นต่างสุดขั้ว ลักษณะเช่นนี้จะสร้างความแตกแยกในสังคม ดังนั้นสภาควรเป็นเวทีพูดคุย หาจุดร่วมในสังคม คาดการณ์จะยุบสภาวันที่ 15 มี.ค. แต่เกรงว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง ถ้าปล่อยให้เหตุการณ์นี้บานปลาย หรืออาจมีใครต้องการให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น และชักใยอยู่ โดยไม่ยอมทำอะไรเลย ถือว่าอำมหิตมาก เอาชีวิตเด็กมาแลกกับการสืบทอดอำนาจต่อไป เพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้ง ถ้าข้อกล่าวหานี้เกิดขึ้นจริงต้องไปสืบเสาะให้ได้ว่า เป็นใคร สมควรอยู่ในประเทศนี้หรือไม่ เพียงต้องการสืบทอดอำนาจ ก็เอาชีวิตมนุษย์ไปแลกกับความต้องการของตัวเอง หวังว่าจะไม่เกิดขึ้น อยากให้นำข้อเสนอเหล่านี้ส่งให้ครม. และรัฐบาลนำไปดำเนินการแก้ไขด้วย ฝากกรมราชทัณฑ์การที่เด็ก 2 คน ขอเรียกร้องไปรักษาในโรงพยาบาลที่มีความมั่นใจ แสดงว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่สามารถสร้างหลักประกันที่เป็นความมั่นใจในความปลอดภัยให้เด็กทั้ง 2 คน