วันอังคาร, พฤศจิกายน 26, 2024
spot_img
หน้าแรกEXCLUSIVEก.พ.เดือด จับตาเกมเร่งเร้าเผาเก้าอี้“น.1”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ก.พ.เดือด จับตาเกมเร่งเร้าเผาเก้าอี้“น.1”

นับตั้งแต่การจับกุม ผับจินหลิง ขยายผลถึง กลุ่มทุนจีนสีเทา ในช่วงปลายเดือนต.ค.2565 ที่ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ออกมาให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนกว่า

มีการตั้งคำถามถึงการปฏิบัติงานของ “นครบาล 1” (น.1) หรือ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในยุคนี้ ที่กุมบังเหียนโดย “พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง” ผบช.น.

“ชูวิทย์” แสดงความไม่มั่นใจในการควบคุมกำกับดูแลชุดทำคดี เพราะตลอดเวลาที่ออกมาให้ข่าว พบความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง

ทั้งตำรวจระดับรองผู้การ เข้าไปช่วยเหลือปล่อยรถผู้ต้องหา หรือนายตำรวจระดับล่างลงมา ไปช่วยกันตัว “หยางเฉิน” หลานนายตู้ห่าว ออกมาจากลุ่มผู้ต้องหา

เปิดช่องให้หลบหนีออกนอกประเทศไปได้

“ชูวิทย์” ยังย้อนไปถึงการทำคดีจับ “หลงจู๊สมชาย” เจ้ามือบ่อนใหญ่ ภายใต้การทำงานของ “พล.ต.ท.ธิติ” (ในยุคที่ดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.2) ด้วย เพราะสุดท้ายแล้วก็ยกฟ้องผู้ต้องหา เหตุพยานหลักฐานไม่แน่นหนา

ครั้งนั้น ผบช.น.มีการลงโทษตำรวจที่เกี่ยวข้องไปแล้วทุกนาย ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ต้องหาคดีในผับจินหลิง

และออกมาชี้แจงเรื่องคดีหลงจู๊สมชาย ว่าในขณะนั้น มีตำรวจจากส่วนกลาง รับสำนวนไปทำ ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานในสังกัดแต่อย่างใด

ได้พักหายใจหายคอได้ไม่นาน นครบาลได้ลุกเป็นไฟอีกครั้ง เมื่อเกิด คดีดาราสาวชาวไต้หวัน ถูกตำรวจห้วยขวาง ตั้งด่านจับบุหรี่ไฟฟ้า และรีดไถเงิน 27,000 บาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รวบรวมพยานหลักฐานเชิงลึกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภาพวงจรปิดช่วงเกิดเหตุ ไปจนถึงภาพที่เธอสูบบุหรี่ไฟฟ้าในโรงแรม และพยานเป็นคนขับแท็กซี่

แต่สุดท้าย ก็ปรากฎวงจรปิดของเอกชน ที่สามารถบันทึกภาพขณะตำรวจตั้งด่านรีดไถจริงๆ

คราวนี้ “ชูวิทย์” ได้นำพยานปากเอกเป็น หนุ่มสิงคโปร์ มายืนยันตะบันหน้าตำรวจชุดตั้งด่านตรวจ ว่ามีการรีดไถเกิดขึ้นจริง

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง

เขาไล่เรียงพฤติกรรมตำรวจห้วยขวางอย่างละเอียด จำหน้าได้อย่างแม่นยำ ถือเป็นการ “ซ้ำดาบสอง” สะท้อนให้เห็น “ความบกพร่อง” ของผู้บังคับบัญชา เจ้าของรหัส “น.1”

“ชูวิทย์” ได้เปิดผังการตั้งด่านตรวจ รีดไถส่วยส่งนายรายเดือน รวมกว่าเดือนละ 320 ล้านบาทซ้ำขึ้นมาอีก โดยอ้างว่าต้องหารายได้แทนการเปิดบ่อน ที่ห้ามเด็ดขาดในยุค “น.1” ท่านนี้

กระทั่งมาถึงวันที่ 8 ก.พ.66 เริ่มมีการปล่อยข่าวลือผ่านสื่อใหญ่ ว่าจะมีการสั่งย้ายด่วน ให้ “พล.ต.ท.ธิติ” ออกจากเมืองหลวง ไปคุมจังหวัดแถบอันดามันแทน

และการขย่มเก้าอี้ “ผบช.น.” จะไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะมีกลุ่ม “คนใน” ที่ต้องการให้ ผบช.น.พ้นเก้าอี้เมืองหลวงไปโดยเร็ว

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์

ในขณะเดียวกัน “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์” ผบ.ตร. ได้ออกมาสยบข่าวลือดังกล่าว ท่านย้ำว่า ทุกคนที่ทำงาน ต้องปรากฎข้อบกพร่องบ้าง คนที่ไม่บกพร่อง คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย

และตลอดการทำงานร่วมกับ “พล.ต.ท.ธิติ” ไม่พบข้อบกพร่องที่ถึงขั้นจะต้องโยกย้ายตามแรงกดดันต่างๆ

หากนับตามไทม์ไลน์การเมืองในขณะนี้ คาดว่าจะมีการยุบสภาในช่วงเดือนมี.ค.นี้ และหลังจากนั้น จะไม่สามารถโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งสำคัญได้

ดังนั้น เกมเร่งเร้าเผาเก้าอี้ “ผบช.น.” จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปตลอดทั้งเดือนก.พ.นี้

โดย “กลุ่มคนหน้าเดิม” ที่หวัง “ผลประโยชน์บางอย่าง” จาก เก้าอี้ตัวนี้ อยู่นั่นเอง!!!

…………………………….

รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img