‘บิ๊กตู่’ร่ายยาวพูดแทนตัวเอง ‘ลุง’ ย้ำไม่เคยรังเกียจใคร คนรัก-ไม่รักก็ช่างแต่อยากให้รักประเทศไทย แนะเด็กใช้กูเกิ้ล ยอมรับเบื่อใช้อำนาจ ย้ำวางยุทธศาสตร์ 20 ปีเป็นสิ่งที่ต้องทำ หวังเยาวชนทำต่อ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 ก.พ.66 ที่ห้องประชุมวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “การเป็นยุวทูตคุณธรรมขับเคลื่อนกิจกรรมในการพัฒนาสังคมไทยและสังคมโลก” โดย นายดอน ปรมัถต์วินัยรมว.การต่างประเทศ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
โดยนายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า ลุงก็อยู่ในการบริหารมาหลายปีหลายคนอาจจะไม่ชอบหน้าบ้าง ชอบบ้าง อะไรก็แล้ว แต่ลุงตั้งใจจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า สิ่งสำคัญคือความรู้คุณธรรมและจริยธรรม ผสมเรื่องของศาสนาด้วยหิริโอตตัปปะทำอะไรไม่ดี ทำสิ่งชั่วๆสักอย่าง ต้องมีหิริโอตตัปปะ ความละอายเกรงกลัวต่อบาป ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้ ว่าทำอะไรดีหรือไม่ดี ปกปิดยังไงก็อยู่ในใจเรา ลุงก็พยายามทำอย่างเต็มที่ ที่จะไม่ตกไปตรงนั้น พยายามทดสอบตัวเองอยู่เสมอ ความต้องการต่างๆเราอย่าไปเบียดเบียนคนอื่น อย่าไปทำอะไรที่ไม่สุจริต มันก็สบายใจ มันก็พูดกับใครได้เต็มปาก ไม่ต้องอ๋อมแอ๋มกับใคร และเรื่องขวานเคยพูดแล้วว่าต้องมีด้ามเราต้องให้ความสนใจภาคใต้ด้วยจะทำอย่างไรให้ ในการบริหารจะทำอย่างไรให้สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งมันก็ดีขึ้นเยอะแล้ว
นายกฯ กล่าวต่อว่าอ ขอให้เข้าใจด้วยหลายคนบอกว่าใช้อำนาจ ลุงก็บอกไปว่า เบื่อการใช้อำนาจ เราอยากได้ความร่วมมือ ไม่ต้องบังคับมีจิตใจที่อยากจะช่วยในการทำงาน เพราะทุกคนคือส่วนหนึ่งในสังคม ไม่ใช่ไปขัดแย้งอะไรกันทั้งหมดมันไม่ได้ แน่นอนต้องมีอะไรที่ไม่ถูกใจเราบ้าง แต่อย่างเวทีวันนี้ที่ส่งมาถึงลุง ที่ส่งมาถึงรัฐบาลต่อๆไปมันก็ได้ ถ้าเราเปิดตั้งแต่วันนี้ ลุงไม่เคยไปรังเกียจใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะรักลุง ไม่รักลุงก็ช่าง แต่อยากให้รักประเทศไทยของเรา ที่ผ่านมารัฐบาลพยามยามทำทุกเรื่อง ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลยมีแผนงานทั้งหมด เพียงแต่จะต้องร่วมมือกัน ลุงไม่โทษใคร เพียงแต่เราต้องช่วยกันเท่านั้นเอง
“อะไรไม่รู้ก็เข้าไปดูในกูเกิ้ล ลุงเองก็เข้าไปดู อะไรที่จำไม่ได้ก็ต้องไปดู เราเข้าไปดูก็จะรู้ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ ข้อมูลมันมีทั้งหมดสำหรับครูกู โดยเฉพาะ ถ้าอยากรู้ว่าส่วนราชการเป็นอย่างไร สามารถเปิดเข้า ลุงเองก็พยายามปรับตัวตรงนี้ อย่าหาว่าลุงโบราณ วันนี้ไม่ใช่แล้วก็พยายามปรับตัวตรงนี้อยู่ ทุกอย่างขอให้ดูสิ่งที่เป็นประโยชน์ อะไรที่สนุกสนานลุงไม่ว่า เป็นวัยของเรา แต่ก็ให้เปิดกูเกิ้ลดูอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง แม้แต่ในโทรทัศน์ แล้วเป็นเรื่องการเมืองมาก ลุงก็ไม่ดูปวดหัว แต่ดูอะไรที่มีความก้าวหน้า หลายช่องมีเรื่องความรักความสามัคคี การพัฒนาต่างๆมีเยอะไปหมด ” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า บ้านเมืองเราดีกว่าที่อื่นเยอะ บางประเทศอยู่กันแบบหนาวเหน็บทั้งคน ทั้งปลายืนแข็งด้วยกันทั้งคู่แต่ก็สามารถอยู่ได้ ยิ้มแย้มแจ่มใส ประเทศไทยสบายกว่าเขาเยอะ เหลือเพียงอย่างเดียว คือ เราจะพัฒนาตัวเองได้อย่างไร กี่ลุงก็ทำไม่ไหว ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน จึงอยากทำความเข้าใจตรงนี้ ดังนั้นเราต้องพัฒนาไปด้วยกัน โดยมียุทธศาสตร์ชาติ จะทำอย่างกรที่จะมีแนวคิดหลักการทำงานให้ต่อเนื่อง ที่ลุงเขียนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่ใช่จะอยู่20 ปีแต่ 20 ปีเป็นสิ่งที่เราควรจะต้องทำ ให้รัฐบาลต่อไปทำต่อ ถ้าเขาเห็นว่าไม่ดีก็ ให้ปรับเปลี่ยน ที่ลุงพูดมาทั้งหมดลุงก็คาดหวังว่าถ้าลุงแก่กว่านี้ หรือลุงตายไปแล้ว ลุงก็จะกลับมาดู ไม่รู้เป็นวิญญาณจะกลับมาได้หรือไม่ เพราะพวกสายมู หมอดู หมอเดา เยอะไปหมด ก็ไม่เป็นไรอะไร นี่คือไทยๆของเรา เพราะฉะนั้น ต้องกลับมาดูของเรา นี่คือเยาวชนของชาติที่เป็นอนาคตและต้องการคนดี คือทำเพื่อคนอื่นและทำเพื่อเขาด้วย ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
“อยู่ภายใต้กฎหมายที่เป็นธรรม มันเหมือนกันทุกคน ถ้าไม่ทำผิดก็ไม่โดน ก็ลงโทษไม่ได้ หากเราไม่เคารพกฎหมายต่างคนต่างไม่เคารพ มันก็ตีกันหมดนี่แหละ กฎหมายที่มีนี่คือความเท่าเทียมกันคือเรื่องโอกาสและการอยู่ภายใต้กฎหมายอันเดียวกัน ฉะนั้นมันมีผลกระทบอย่างอื่นไม่ได้ มันมีอยู่แค่นี้ ถ้าผิด ไม่ผิดก็ไปต่อสู้กันตามกระบวนการยุติธรรมเท่านั้นเอง ไม่ใช่เกลียดใคร ไม่ชอบใคร ตนว่ามันไม่ใช่ มันอยู่ที่ส่วนประกอบหลายอย่าง สิ่งสำคัญนอกจากเป็นคนดี คนเก่ง และต้องเป็นคนที่มีคุณภาพ คือมีประโยชน์ต่อสังคม ครอบครัว ไม่ใช่มองอะไรแล้วติติ่งไปหมด หาคนว่า หาคนรับผิดชอบ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ปัญหาคอร์รัปชั่นก็ปวดหัวและพยายามแก้ ถ้าสังเกตดูสมัยก่อนมีทำไมไม่ดังแบบนี้ ไม่มีแบบนี้เพราะปัจจุบันมีโซเชียลมีเดีย ซึ่งก็ดี ลุงไม่เคยปิดกั้นอะไรเลย ทุกวันนี้ติดคุกกันเป็นแถว สมัยก่อนดูมันน้อยกว่านี้ สมัยลุงตู่ดูทำไมมันเยอะขึ้น ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปหมด วันนี้คนชั่วออกมาเยอะขึ้น และถูกดำเนินคดีหมด ถ้าบอกว่าแต่ก่อนไม่มี มันจะไม่มีได้อย่างไร มันมีมาตลอดแต่มันเงียบ แต่วันนี้มันดัง เพราะมีโซเชียลมีเดียและพวกเราช่วยดู ก็ลงโทษไปไม่เช่นนั้นมันรวนไปหมด ทั้งนี้ เรื่องประวัติศาสตร์ มีทั้งประวัติศาสตร์ที่ดีและไม่ดีที่ต้องเรียนรู้ เพราะอาจจะมีตรงที่ไม่ดี แต่อย่าไปทำอีก นำมาเป็นบทเรียน ไอ้พวกทรยศบ้านเมืองก็มี ไส้ศึกก็มี พวกนี้เขาสอนมาให้เป็นบทเรียน ฉะนั้นการสอนประวัติศาสตร์ต้องสอนแนวใหม่ ส่วนเรื่องมวยไทยของเรา ก็คือมวยไทยอย่าไปทะเลาะอะไรกับเขามาก ของเราของเรามันสุดยอดอยู่แล้ว
“ถือเป็นโอกาสที่ดี ได้เจอพวกเรา อย่าเพิ่งเบื่อลุง นานๆจะได้คุยกัน และลุงก็คุยคนเดียวอยู่ตอนนี้ นายกฯมีงานทั้งวันถ้าลุงไปเสียสมาธิกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ลุงทำงานไม่ได้ แต่วันนี้ดีใจได้พบคนในห้องนี้ ขอให้ช่วยกันสร้างเครือข่ายให้ลุง อะไรไม่ดีให้คิดและช่วยกันแก้ แต่ก่อนจะด่าว่าใครให้เปิดกรูเกิ้ลดูเสียก่อน ลุงก็ทันสมัยเหมือนกัน ครูกรู เปิดไปเจอหมด และ ให้อ่านอะไรของราชการนั่นคือสิ่งที่เป็นหลักการ ถ้าพูดอย่างเดียว สั่งอย่างเดียวมันทำไม่ได้ ต้องมีหลักการและมีแผน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกัน นั่นคือระบบบริหารของเรา” นายกฯ กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า ในการขับเคลื่อนบางทีมีปัญหาตรงนั้นตรงนี้ เรื่องเร่งด่วน มันเกิดขึ้นแต่เรื่องพื้นฐานต้องเดินตามนี้ ตามยุทธศาสตร์ชาติ แต่อำนาจอีกส่วนหนึ่ง อำนาจนิติบัญญัติ อยู่ในสภา ส.ส.ในสภา มีอำนาจทางนิติบัญญัติซึ่งลุงจะไปยุ่ง ก้าวล่วงกับเขาไม่ได้ มันคนละอำนาจกัน
และอีกอันอำนาจตุลาการ 3 อำนาจ คือกระบวนการตามรัฐธรรมนูญตามประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นต่างคนต่างทำหน้าที่ ถ้าอะไรเสริมกันได้ก็เสริม ถ้าขัดแย้งกันหมดก็ไปไม่ได้ทั้งหมด แต่ตรงนี้จะไปอยู่กับเขาตุลาการ ชื่อก็น่ากลัวลุงไม่ได้เกี่ยวข้อง ถ้าไม่ทำความผิดก็ไม่เจอ ลุงไม่เกี่ยวข้อง ไม่พยายามก้าวล่วงเขา ให้เขาทำหน้าที่ มันจะได้สงบ ไม่ฉะนั้นมันก็วุ่นวายแบบนี้ ถ้าทุกคนไม่ทำตามหน้าที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะสภาฯ บริหารนิติบัญญัติ หรือตุลาการต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด บ้านเราก็ดี เราอย่าไปทำอะไรที่ไม่ดี ไม่งาม ไม่ถูกต้องจะได้ไม่ต้องไปเดือดร้อนกับใครเขา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการปาฐกถาวันนี้ พลอ.ประยุทธ์ พยายามปรับการพูดของตัวเอง จากที่ผ่านมาจะแทนตัวเองว่านายกฯ แต่วันนี้พยายามแทนตัวเองว่า “ลุง” ซึ่งนอกจากจะเป็นการมาพูดกับเยาวชนแล้ว ส่วนหนึ่งทางทีมงาน และพล.อ.ประยุทธ์เกรงว่าจะติดปากในการแทนตัวเองว่า”นายกฯ ช่วงที่ลงพื้นที่หาเสียงแล้วจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง.