“บิ๊กตู่” บอกคิดในใจไว้แล้วยุบสภาฯวันไหน ยันไม่เตะถ่วง ลั่น “รทสช.” พร้อมตลอด ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ในศึกอภิปราย ยันทำทุกอย่างให้ประเทศเดินหน้า วอนฝ่ายนิติบัญญัติผ่านก.ม.ในช่วงเวลาที่เหลือหวั่นกระทบประชาชน
เมื่อเวลา 21.35 น. วันที่ 16 ก.พ.ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ว่า ขอบคุณทุกคนที่อยู่เป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และทุกคนคงทราบดีว่า นายกฯ พยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้า ซึ่งจากนี้ไปก็ขึ้นอยู่กับอนาคต แต่ตนอยากบอกว่าทีมงานของรัฐบาลทั้งหมด และข้าราชการทุกคน พยายามทำงานอย่างเต็มที่ ขณะที่ปัญหาหลายอย่างมีความทับซ้อนอยู่หลายเรื่อง จึงทำให้ต้องใช้เวลาแก้ปัญหามากพอสมควรกว่าจะไปถึงเป้าหมายให้สำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสิ่งที่ ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายในครั้งนี้มีหลายอย่างที่เป็นประโยชน์และบางอย่างจะได้นำไปเป็นข้อมูล เพื่อการปรับปรุงแก้ไขสิ่งต่างๆต่อไป รัฐบาลต้องอดทน รับฟังทุกคน รับฟังเหตุผลและข้อเท็จจริง เพรานายกรัฐมนตรีตั้งใจทำงานเพื่อทุกคนและเพื่อประเทศชาติ ตนให้เกียรติสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมร่วมรัฐสภา นายกรัฐมนตรีได้มีการกำชับให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเข้าร่วมประชุม เพื่อไม่ให้องค์ประชุมล่มหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนกำชับมาเสมอ เพราะตอนนี้มีร่างกฎหมายที่สำคัญอยู่ 2-3 ฉบับ ที่ควรจะต้องทำให้เสร็จในรัฐบาลชุดนี้และในสมัยประชุมนี้ จึงขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติช่วยกันเพราะถ้าร่างกฎหมายบางฉบับไม่ออกมาในเวลานี้จะส่งผลให้หลายๆ อย่างเกิดความล่าช้าและกระทบต่อประชาชนโดยรวม เช่น เรื่องกฎหมายประมง กฎหมายการศึกษาแห่งชาติ เป็นต้น
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีให้คะแนนการอภิปรายของฝ่ายค้านกี่คะแนน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถกำหนดคะแนนให้ได้ เพราะไม่ได้ตั้งเกณฑ์ตรงนี้ไว้ แม้แต่ตนก็ไม่ได้ให้คะแนนตัวเองเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับประชาชน ผู้ฟัง และสื่อมวลชนพิจารณา ทั้งนี้ตนเข้าใจว่าผู้อภิปรายหลายคนมีความปรารถนาดี แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจอย่างถูกต้องในหลายเรื่อง จึงต้องไปทำความเข้าใจกัน เพื่อให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินหน้าในเรื่องการลงพื้นที่อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ แม้จะเสร็จสิ้นการเลือกตั้งไปแล้ว ตนก็ต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีรักษาการออกไปอีก ดังนั้นนับจากนี้ก็ยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม เพียงแต่ต้องไปดูข้อกฎหมายด้วยว่า มีสิ่งใดบ้างที่ทำได้ หรือไม่ได้ เพราะงานบริหารประเทศชาติมันหยุดไม่ได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า โปรแกรมการลงพื้นที่จะเข้มข้นขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ถ้าจะมองว่าเป็นการหาเสียงทุกครั้ง มันคงไม่ใช่ เพราะนายกฯ เดินทางไปเยี่ยมประชาชนและติดตามงานต่างๆ อยู่ตลอด จึงขออย่าไปมองว่าเป็นการไปหาเสียงทุกครั้ง แต่การไปหาเสียงก็ต้องมีอยู่บ้าง แต่คงไม่เยอะมากมายอะไร สิ่งที่ตนทำมาตลอด ทุกคนก็รับรู้ รับทราบดี เพราะตนไม่เคยปิดบังอะไร ส่วนเรื่องการหาเสียงก็คือการหาเสียงเราต้องพยายามพูดหาเสียงในสิ่งที่เป็นไปได้ ควรจะเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ในช่วงที่ประเทศมีงบประมาณจำกัด และประชาชนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่าเดิม แต่ถ้าแต่ละคนไปหาเสียงแล้วพูดแต่เรื่องใหม่ๆ แล้วบอกว่าจะให้สิ่งนั้น สิ่งนี้กับประชาชน แล้วเรื่องของเก่า ที่ต้องทำต่อ จะเอาเงินงบประมาณที่ไหนไปทำให้กับประชาชน
เมื่อถามว่า สภาฯจะปิดสมัยประชุมรัฐสภา ในวันที่ 28ก.พ.นี้ มีอะไรอยากฝากถึง ส.ส. บ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังปิดสภาแล้ว ทุกคนก็เดินทางกลับบ้าน ลงพื้นที่หาเสียงกันก็ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย แต่ขอให้นำสิ่งดีๆ ไปบอกกับประชาชน ให้ได้รับทราบ แต่สิ่งที่ยังขาดอยู่คือ การเข้าถึงการบริการของภาครัฐ ซึ่งรัฐบาลก็พยายามชี้แจง ให้ข้อมูลหลายช่องทาง ซึ่งคนที่เป็น ส.ส. ควรจะนำเรื่องดังกล่าวไปขยายให้ประชาชนได้รับรู้มากขึ้น ดังนั้น ส.ส.ก็มีหน้าที่ทำงานให้ ฝ่ายนิติบัญญัติ ในส่วนของฝ่ายค้านตนก็เข้าใจดีว่ามีหน้าที่ตรวจสอบ แต่ก็อยากให้นำสิ่งที่รัฐบาลได้ทำไว้แล้ว และควรนำไปบอกให้ประชาชนได้เข้าถึง และถ้ามีอะไรที่อยากให้รัฐบาลทำเพิ่มเติมก็ให้บอกมาได้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ถ้ามีการเชิญนายกฯไปร่วมดีเบต มีความพร้อมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูโอกาส และความเหมาะสม แต่ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจ การดีเบตก็คือการดีเบต แล้วตนก็พูดแบบของตน และพูดทุกวันอยู่แล้ว ผลงานของตนก็ปรากฏออกมาเยอะแล้ว
เมื่อถามว่า คาดว่าจะให้มีการยุบสภา เมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ใจเย็นๆ คิดไว้ในใจอยู่บ้างแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ต้องไว้ล่วงหน้า” เมื่อถามย้ำว่าจะเป็น ช่วงสัปดาห์แรกของเดือน มี.ค.นี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ยังอยู่ในใจ ก็ต้องตัดสินใจกันอีกครั้ง ทุกอย่างต้องมีการวางแผน และดูรอบด้าน
เมื่อถามว่า เหตุผลของการจะตัดสินใจยุบสภา จะมีอะไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อทุกคน ทุกพรรค มีความพร้อม ก็ว่ากันไป ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) ก็มีความพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่เปิดตัวเท่านั้นเอง และยังไม่ได้ออกมาพูดอะไรมากนัก และไม่ใช่ว่า ตนถ่วงเวลา เพื่อให้พรรคที่ตนสังกัดมีความพร้อม เขาก็ต้องพร้อมของเขาอยู่แล้ว เขารู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำอะไร เมื่อไหร่ ต้องมีจุดมุ่งหมาย ทั้งนี้ผมอยาให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีความบริสุทธิ์ และสร้างสรรค์ และอยากให้ทุกคนมองว่าประเทศชาติและประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำให้บ้านเมืองนี้เดินไปข้างหน้าได้ รวมถึงเป็นประโยชน์กับอนาคตของลูก หลาน
เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์หลังจากนี้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องพร้อมอยู่แล้ว