“กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ” เผยประชาชนส่วนใหญ่ต้องการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ขณะที่ส่วนน้อยยังไม่มั่นใจความปลอดภัยของวัคซีน
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พร้อมด้วย นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดี สบส. แถลงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในการให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ว่า ก่อนจะนำวัคซีนมาใช้ในประเทศไทย ต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย ประสิทธิผล และประสิทธิภาพ ซึ่งที่ประชุม EOC ผู้บริหารสธ.100% พร้อมฉีดวัคซีน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แม้จะมีการผ่อนปรนมาตรการ แต่ทุกคนต้องเข้มงวดมาตรการล้างมือ เว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย ให้ได้อย่างน้อย 95% และต้องสวมให้ถูกคือ จับบริเวณสายรัดหู ไม่จับด้านหน้าของหน้ากาก นำด้านที่มีแผ่นเคลือบออกด้านนอกเพื่อป้องกันความชื้น สวมให้กระชับใบหน้า ไม่แนะนำให้ถอดวางหงายบน ทั้งนี้ แม้เป็นรายละเอียดเล็กน้อย แต่สำคัญมาก
ขณะที่นพ.ภานุวัฒน์ ระบุว่ ผลสำรวจผ่านระบบออนไลน์และกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2563 – 31 ม.ค. พบว่า ประชาชาชนส่วนใหญ่ต้องการฉีดวัคซีน เพื่อ 1.ป้องกันการแพร่เชื้อไปให้กับคนรอบข้าง 2.อสม.มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ 3.ฉีดเพื่อลดการแพร่เชื้อในชุมชน และ 4.ความเสี่ยงด้านอาชีพ ขณะที่ส่วนน้อยที่ไม่ต้องการฉีดวัคซีน เพราะ 1.ยังไม่มั่นใจความปลอดภัยของวัคซีน 2.คิดว่าวัคซีนมีผลข้างเคียงมากกว่าประโยชน์ 3.ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ออาการรุนแรงหรือเสียชีวิตหลังจากรับเชื้อ 4.มั่นใจว่าป้องกันตนเองดีเพียงพอ และ 5.ไม่เชื่อว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ดังนั้นต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนด้านความปลอดภัยของวัคซีนให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามประชาชนคิดว่ากลุ่มที่ควรได้วัคซีนก่อนคือ 1.บุคลากรสาธารณสุข 2.ผู้ที่โรคประจำตัวเรื้อรัง และ 3.ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี
