“ไพศาล” ชำแหละศึกซักฟอก 66 ที่เพิ่งจบไป “ก้าวไกล” ทำหน้าที่ดี ลากไส้ “กลาโหม-สตช.” ทุจริต-ฉ้อฉล โดยรัฐบาลไม่ได้ชี้แจง แต่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ “นายกฯ” ถูกโดดเดี่ยว ไร้พรรคร่วมรัฐบาลปกป้อง เปรียบเหมือน “นักมวยชกไม่ไหวแล้ว” แต่พี่เลี้ยงจิบเหล้า-เบียร์เชียร์ข้างเวทีให้ชกจนตาย
เมื่อวันที่ 18 ก.พ.66 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นเรื่อง “สรุปการอภิปรายทั่วไป 66” มีเนื้อหาว่า…
1.เป็นการอภิปรายทั่วไป ที่มีลักษณะเป็นประวัติศาสตร์คือ ยิ่งกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีลักษณะเหมือนกับการอ่านคำพิพากษาประหารชีวิตทางการเมืองต่อหน้าประชาชนทั้งประเทศ
2.ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคก้าวไกลได้ทำหน้าที่อย่างชัดเจนสมบูรณ์ มีหลักฐานที่ไม่อาจโต้เถียงได้ เรียกว่า อภิปรายกันแบบเนื้อๆ ทั้งในส่วนการบริหารราชการแผ่นดินทั่วไป การบริหารกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีการทุจริต ฉ้อฉล บิดเบือนการใช้อำนาจและไม่นำพาต่อความเดือดร้อนทุกข์เข็ญของราษฎร ทำให้เกิดสภาพรัฐล้มเหลวและการทุจริตเต็มบ้านเต็มเมืองและไม่มีความรับผิดชอบ
3.รัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธหรือชี้แจงข้อกล่าวหาเลย คงพูดอยู่ 2 เรื่อง
~ ในสมัยก่อนก็มีเรื่องแบบนี้เท่ากับยอมรับสารภาพ ตามที่ถูกกล่าวหาเพียงแต่อ้างว่าเมื่อก่อนก็มีเรื่องแบบนี้
~ เป็นเรื่องที่เกิดก่อนยึดอำนาจ คือการรับสารภาพว่าไม่รับผิดชอบ
เพราะไม่ว่าเรื่องเกิดเมื่อใด แต่ถ้ามีการทำผิดกฎหมายมีการทุจริตมีการฉ้อฉลเกิดขึ้นและดำรงอยู่ในรัฐบาลนี้ก็ต้องรับผิดชอบแก้ไข
4.ไม่สามารถชี้แจงและไม่ชี้แจงในเรื่องสำคัญอย่างยิ่งคือ
~ ความเกี่ยวข้องกับ สว. ที่เกี่ยวข้องกับยาการค้าเสพติดข้ามชาติและอาชญากรรมระหว่างประเทศ และการใช้สถานที่ของสว.ดังกล่าวเป็นที่ตั้งพรรค
~ การร่วมธุรกิจระหว่างเครือญาติกับขบวนการค้ายาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติ
~ การฮั้วงานของกองทัพที่คนใกล้ชิดเกี่ยวข้องอย่างพิลึกกึกกือ
~ การทุจริตและความเสียหายในการบริหารทั่วไปในกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจ โดยเฉพาะคือการก่อหนี้ และการใช้จ่ายงบประมาณถึง 28 ล้านล้านบาท แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรดีขึ้น
5.เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การอภิปรายทั่วไป ที่นายกรัฐมนตรีโดดเดี่ยวอย่างยิ่ง ไม่มีนักการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลปกป้องเลย มีแต่พวกนั่งดูชนิดสะใจด้วยซ้ำไป
สรุปของสรุปคือ เหมือนนักมวยที่ชกไม่ไหวแล้ว แต่พวกพี่เลี้ยงเชียร์ข้างเวทีให้ชกจนตัวตาย โดยพวกพี่เลี้ยงนั่งกินเหล้ากินเบียร์กันอย่างสนุกสนาน