“ธรรมนัส” ซัด “โรม” ตีมึนอภิปราย ม.152 กล่าวหาโยงทุนจีนเทา ยันไม่คิดดำเนินคดี แต่สมาชิก “เศรษฐกิจไทย” ทั่วประเทศเตรีรมแจ้งความ เชื่อหวังดิสเครดิตก่อนเลือกตั้ง
วันที่ 19 ก.พ.2566 ที่พุทธมณฑลสมโภช 750 ปีเมืองเชียงราย อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายพาดพิง เชื่อมโยงกับกลุ่มทุนจีนสีเทา ในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า ดูเหมือนว่า นายรังสิมันต์ จะไม่เข้าใจรูปแบบการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ที่เปรียบเสมือนตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรี แต่กลับมาอภิปรายตนที่ขณะนี้เป็นเพียง ส.ส. ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นการนำข่าวเก่ามาอ่านในที่ประชุมสภาฯ มากกว่า ซึ่งบางเรื่องก็ได้ผ่านกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว แล้วส่วนตัวก็รู้จักคนเยอะอยู่แล้ว แต่ตนก็ได้เคยชี้แจงไปแล้วว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนสีเทา หรือการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหมาย
เมื่อถามว่า จะมีผลต่อพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะพาดพิงทั้งตัว ร.อ.ธรรมนัส รวมไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุววรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ด้วย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็พาดพิงถึงหลายๆ คนในรัฐบาล ซึ่งในฐานะที่เป็นบุคคลสาธารณะ ใครก็สามารถมาถ่ายรูปด้วยได้ เชื่อว่าสังคมจะเข้าใจ
เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการทางกฎหมายกับ นายรังสิมันต์ หรือไม่ ฐานกล่าวหาให้เกิดความเสียหาย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนตัวคงไม่ได้ดำเนินคดีอะไร แต่ทราบว่า สมาชิกของพรรคเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะตัวแทนของแต่ละจังหวัดกำลังจะดำเนินคดีกับ นายรังสิมันต์ เช่นเดียวกับบุคคลคนภายนอกที่ถูกพาดพิงก็ทราบว่าจะดำเนินคดีกับ นายรังสิมันต์ เกือบทุกราย
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการระบุว่า บริษัทเครือข่ายทุนจีนจดทะเบียนในที่ตั้งเดียวกับบริษัทรักษาความปลอดภัย ที่ภรรยา ร.อ.ธรรมนัส เป็นเจ้าของ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นการกล่าวหาโดยไม่ได้ดูรายละเอียดที่มาที่ไป บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ที่เลขที่ 888 อโศก-ดินแดง นั้นเป็นอีกบริษัทที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ซึ่งการจัดตั้งบริษัทก็ผ่านมาหลายปีมากแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันแต่อย่างใด
“ผมมองว่า เป็นเรื่องของการดิสเครดิตก่อนการหาเสียงเลือกตั้ง ก็ทราบอยู่แล้วว่า ผมเป็นบุคคลสำคัญของพรรคทางภาคเหนือ และผลงานที่ผ่านมาของผมก็แทบจะไม่เคยแพ้สนามเลือกตั้งไหนเลย เรื่องนี้จึงน่าจะเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า”ร.อ.ธรรมนัส กล่าว