นายกฯประกาศชัด “จะอดทนอย่างยิ่งยวด” แต่ “ประเทศชาติ…อยู่ด้วยกฎหมาย” อะไรที่ไม่สมควร…ก็อย่าทำ พร้อมกำชับจนท.ระมัดระวังรับมือม็อบ โวลั่น “ไม่ว่าผมมายังไงก็ตาม แต่ผมก็ทำหลายอย่างให้กับประเทศไทย”
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 19 ก.ย.นี้ว่า ได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลในภาพรวม โดยให้เจ้าหน้าที่ทำงานในส่วนของตัวเองไป ตนเน้นย้ำเพียงว่า “ขอให้ปฏิบัติด้วยความนุ่มนวล” เพราะว่าทุกคนเป็นเด็ก เป็นลูกหลานของเราทั้งนั้น และ ต้องขอร้อง “อะไรที่ไม่ควร-ไม่ถูก” โดยเฉพาะสถานที่ราชการต่างๆ ที่มีกติกาและกฎหมายอยู่แล้ว ก็ไม่ควรปฏิบัติให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งระหว่างกัน ทั้งย้ำเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการระมัดระวังที่สุด เพราะอาจมีหลายคนหรือหลายฝ่าย ที่พยายามให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้น เพื่อนำไปสู่ความบานปลาย รัฐบาลจำเป็นไม่ให้เกิดขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา คนทั้งประเทศทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วกฎหมายมันคืออะไร รัฐธรรมนูญคือรัฐธรรมนูญ และมีกฎหมายลูกอีกหลายร้อยกฎหมาย ถ้าเราแต่อ้างเรื่องรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว ก็เป็นกฎหมายในกรอบใหญ่ แต่ในทางปฏิบัติมีกฎหมายลูก ที่ทุกคนต้องระมัดระวังไว้ด้วย ไม่ได้ขู่ใคร แต่ประเทศชาติ…อยู่ด้วยกฎหมาย อยู่ด้วยหลักการและเหตุผลของกฎหมายแต่ละฉบับ ถ้าตั้งใจฝ่าฝืนกฎหมาย คนทั้งประเทศจะยินยอมหรือไม่ เพราะเกิดผลกระทบกับคนอื่นด้วยในช่วงนี้
“ผมไม่ได้ไปขัดแย้งกับท่าน จะชุมนุมอะไรที่ท่านอ้างตามรัฐธรรมนูญ…ก็ว่าไป แต่ในส่วนที่จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย เดือดร้อน ขอให้มีจิตสำนึกด้วย เพราะท่านคือคนไทย ถ้าประเทศไทยเกิดปัญหาขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหาอยู่ในช่วงนี้ ทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ คงไม่ใช่นายกฯ หรือรัฐบาลเพียงผู้เดียว ผมขอให้เข้าใจในหลักการและเหตุผลตรงนี้ ส่วนแนวทางการขับเคลื่อนอะไรต่างๆ ผมทราบอยู่แล้วว่าจะทำอะไรบ้าง ไปที่ไหนอย่างไร เพียงขอเตือนให้ระมัดระวังที่สุด อะไรที่ไม่สมควร…ก็อย่าทำ ผมก็พยายามจะอดทนอย่างยิ่งยวด ท่านก็เห็นว่าระยะเวลาที่ผ่านมา ผมก็พยายามอดทน และหาวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม ทำอย่างไรให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า โดยเฉพาะวันนี้ ที่หลายคนหลายส่วนยังเดือดร้อนอยู่ในเรื่องเศรษฐกิจและธุรกิจต่างๆ ถ้ามีอะไรที่เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น แล้วสิ่งต่างๆ จะดีขึ้นได้หรือไม่ หากไม่ได้ แล้วใครจะต้องช่วยกันดูแลต่อไป และใครจะรับผิดชอบ อยากให้ทุกคนคิดให้ครบถ้วนกระบวนความ การชุมนุมอะไรก็แล้ว แต่ก็เป็นสิทธิ์ แต่สิทธิของคนอื่น…จะว่าอย่างไร รวมถึงเรื่องสถานที่ราชการ สิ่งเหล่านี้มีกติกาและกฎหมายของประเทศ ซึ่งทุกคนจะได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จากการกระทำ ทำอะไรได้อย่างนั้น แม้ตัวเองอาจจะไม่เดือดร้อน แต่ประเทศชาติเดือดร้อนและคนอื่นเดือดร้อน ในเมื่อทุกคนบอกว่ารักชาติและรักประเทศ ต้องการจะแก้ไขประเทศ ก็ต้องเริ่มจากการแก้ไขตัวเองก่อน ว่าจะต้องเข้าใจกันอย่างไร
นายกฯ กล่าวต่อว่า ถ้าเริ่มต้นในสิ่งที่ขัดแย้งกันตลอด ก็ไปไม่ได้ทั้งหมด วันนี้ต้องมองไปข้างหน้า โดยสืบสานจากวันนี้ ไม่ใช่จะเปลี่ยนทีเดียวทั้งหมด จึงต้องดูว่าทำได้หรือไม่ กฎหมายเป็นอย่างไร วิธีการทำงานเป็นอย่างไร ซึ่งบางคนพูดเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นเชื่อถือ แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดนั้นเป็นอันตราย แต่กลับพูดเพื่อปลุกเร้าคน จึงคิดว่าเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด
“เราผ่านบทเรียนกันมาพอสมควรแล้วในอดีต จนถึงปัจจุบัน มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดมาหลายครั้งแล้ว บางครั้งก็คนเดิมๆ อยู่ วันนี้ก็ยังทำเช่นนั้น ทุกคนก็คงทราบดี ผมคงไม่เอ่ยถึงใครให้มีปัญหากันอีก แต่ทุกคนต้องมีจิตสำนึก ตราบใดที่ทุกคนยังอยู่ในประเทศไทย ต้องมีจิตสำนึกร่วมกัน ว่าทำอย่างไรให้ประเทศชาติปลอดภัย ประชาชนปลอดภัย การพัฒนาประเทศต่างๆ เดินไปข้างหน้า หลายส่วนทุกคนก็ต้องยอมรับว่ามีความก้าวหน้า ผมคิดว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่นำทุกอย่างมาแก้ไข ปัญหาอุปสรรคในอดีตที่ผ่านมาและเดินหน้าประเทศไทยหลายมิติด้วยกัน จึงขอให้ความเป็นธรรมด้วยกับการทำงานของรัฐบาล ไม่ว่าผมมายังไงก็ตาม แต่ผมก็คิดว่าผมทำหลายอย่างให้กับประเทศไทย เป็นการทำงานตามหน้าที่ในเมื่อผมเป็นนายกฯ ก็ต้องทำหน้าที่ของผม“พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ไม่ได้ต้องการให้ใครมาชื่นชมตน แต่ภูมิใจว่าทำสิ่งเหล่านี้เพื่อใคร ทำเพื่อคนไทยทุกคน ทำเพื่อลูกหลาน 67 ล้านคน ดังนั้นขอให้นึกถึงคนกว่า 60 ล้านคน ว่าจะเดือดร้อนหรือไม่ถ้าประเทศชาติวุ่นวาย โดยเฉพาะวันนี้ที่ได้เตรียมการเรื่องการท่องเที่ยว นำคนเข้ามาเพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ถ้าทุกอย่างหยุดวันนี้ แล้วใครจะทำจะทำได้หรือไม่ จึงขอให้มองและสื่อสารทั้งสองทางและวิเคราะห์ใคร่ควรว่า ควรทำอย่างไรกัน ถือเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทุกคน เพราะขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหาเยอะพออยู่แล้ว พยายามแก้ให้มากที่สุด ซึ่งเหมือนวันนี้ที่ตนได้มอบรางวัลให้คนดีๆ ที่ยังมีจำนวนมากกว่าคนไม่ดี คนไม่ดีก็ต้องแก้และทำให้ตัวเองเป็นคนดีขึ้น และให้สังคมยอมรับมากยิ่งขึ้นเพียงเท่านั้น
“ถ้ามัวแต่ขัดแย้งกันไป-มา ก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ไม่ว่าใครจะมาหรือจะไป ก็ทะเลาะกันอยู่แบบนี้ แล้วถามว่าประเทศชาติจะอยู่ได้หรือไม่ ที่เราเรียกว่าศักยภาพของประเทศไทยที่มีมากมาย ก็จะถูกทำลายไป จึงขอฝากไปยังพ่อแม่พี่น้องทุกคน ที่นอกเหนือจากกลุ่มที่ชุมนุมได้เข้าใจว่า เราจะช่วยเหลือบ้านเมืองกันได้อย่างไร ในเวลานี้ขอบคุณครับ”นายกฯ กล่าว
ช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมใช้พื้นที่ใกล้เขตพระราชฐานจะมีการเตือนอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “กฎหมายคือกฎหมาย”
