วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWSครม.อนุมัติงบกลาง 396 ล้านบาทซื้อรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุน 150 คัน ทดแทนคันเก่า
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ครม.อนุมัติงบกลาง 396 ล้านบาทซื้อรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุน 150 คัน ทดแทนคันเก่า

ครม.อนุมัติงบกลาง 396 ล้านบาทซื้อรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุน 150 คัน ทดแทนคันเก่าที่ใช้นานกว่า 12 ปี เสริมเขี้ยวเล็บปฏิบัติภารกิจชายแดนใต้

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล  น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 396 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนทดแทนที่ใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 150 คัน (ราคาคันละ 2.64 ล้านบาท) เนื่องจากรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันผ่านการใช้งานมานานกว่า 12 ปี มีสภาพชำรุดทรุดโทรม เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและไม่ปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังเป็นรถดัดแปลงจากรถกระบะ 4 ประตู โดยติดตั้งแผ่นเกราะและกระจกกันกระสุนเพิ่มเติม ทำให้มีน้ำหนักมากกว่ารถกระบะทั่วไปประมาณ 1,500 กิโลกรัม หรือ 1.5 ตัน ส่งผลให้ช่วงล่างและเครื่องยนต์เกิดการสึกหรอเร็วกว่าปกติ ซึ่งมีจำนวน 216 คัน โดยปีงบประมาณ พ.ศ.2566 กำลังดำเนินการขายทอดตลาด จำนวน 150 คัน จึงมีความจำเป็นต้องจัดซื้อรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนทดแทน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้ปฏิบัติภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

   น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า สำหรับรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนที่จัดซื้อในครั้งนี้ เป็นรถยนต์บรรทุกประเภทกระบะ (ดีเซล) ขนาด 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบดับเบิ้ลแค็บ โดยมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันกระสุน อาทิ ติดตั้งแผ่นเหล็กป้องกันกระสุน ติดตั้งกระจกป้องกันกระสุน ติดตั้งแผ่นเหล็กป้องกันสะเก็ดระเบิด พร้อมทั้งปรับปรุงช่วงล่างและบานพับประตูให้สามารถรองรับน้ำหนักเกราะได้ โดยการได้รับสนับสนุนงบกลางเพื่อจัดหารถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ในปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกลอบทำร้ายสูง และสามารถให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้ากระชับและเคลียร์พื้นที่ให้ปลอดภัย เพื่อช่วยเหลือตัวประกันหรือผู้ได้รับบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img