“ฝ่ายความมั่นคง” เผย “ฝ่ายค้าน” เตรียมยกกรณีรัฐประหารเมียนมา มาเชื่อมโยงโจมตีรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ด้าน “นานาชาติ” ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจรัฐประหารเมียนมา
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง กล่าวกับ The Key News ถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านมีท่าทีแสดงความมั่นใจข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี โดยกล่าวอ้างถึงความเป็นไปได้ในการที่จะยื่นเรื่องทางกฎหมายเอาผิดต่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายฯนั้น เห็นได้ชัดว่า ต้องการให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดต่อการบริหารงานของรัฐบาล นอกจากนี้ จาก “การข่าว” ยังมีความเป็นไปได้ว่าในการอภิปรายฯ พรรคฝ่ายค้านอาจหยิบยกกรณีการทํารัฐประหารในเมียนมา มากล่าวเชื่อมโยงโจมตีรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเห็นต่างในขณะนี้ ที่มีการนํากรณีการทํารัฐประหารในเมียนมา มาเป็นเครื่องมือ กระตุ้นและปลุกเร้าให้สังคมเกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ มีท่าทีเห็นด้วยหรือคล้อยตามต่อการชี้นําของกลุ่มเห็นต่าง เพราะประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องภายในของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยแต่อย่างใด
สำหรับท่าทีนานาประเทศ กรณีกองทัพเมียนมาควบคุมตัวแกนนำรัฐบาลเมียนมา ดังนี้
1.ประธานาธิบดี “โจเซฟ ไบเดน” แห่งสหรัฐฯ จะทบทวนการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเมียนมา และไม่เห็นด้วยกับการควบคุมตัวแกนนาพรรค NLD ซึ่งขัดต่อกระบวนการประชาธิปไตยและผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุดของเมียนมา พร้อมกันนี้ ยังได้เรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศ กดดันกองทัพเมียนมาให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัว คืนอำนาจ และยกเลิกมาตรการจำกัดการสื่อสารภายในประเทศ ตลอดจนย้ำให้กองทัพเมียนมา เคารพประชาธิปไตย โดยสหรัฐฯ จะร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาคเพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมา
2.กต.สหราชอาณาจักร เรียก ออท.เมียนมา/สหราชอาณาจักร เข้าพบเพื่อประณามการรัฐประหาร และการจับกุมพลเรือนในเมียนมา รวมถึง นางอองซาน ซูจี พร้อมทั้งเรียกร้องให้เมียนมา รับรองความปลอดภัยผู้ที่ถูกจับกุม และปล่อยตัวทุกคนในทันที นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้เมียนมา เคารพเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตย เรียกร้องให้รื้อฟื้นการจัดประชุมรัฐสภา และระบุว่า สหราชอาณาจักรจะดำเนินการทางการทูตทุกวิถีทาง เพื่อให้เมียนมากลับสู่ประชาธิปไตยโดยสันติ
3.ไต้หวัน เรียกร้องให้เมียนมา แก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาและสันติวิธี
4.รัฐบาลเกาหลีใต้ เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี และผู้ถูกควบคุมตัวคนอื่น ๆ โดยทันที และหวังว่าเมียนมาจะดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในทางสันติวิธี และเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย
5.สมาชิกพรรค MCA (พรรคชาวจีนฝ่ายรัฐบาล) ของมาเลเซีย เรียกร้องให้ทหารเมียนมา ยึดมั่นในรัฐธรรมนูญเมียนมา และกระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย โดยให้ความสำคัญกับผลประโยชน์แห่งชาติ และประชาชนเป็นอันดับแรก รวมทั้งควรแก้ไขปัญหากับพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) โดยสันติ และรักษาเสถียรภาพทางการเมือง และความสงบสุขในเมียนมาและภูมิภาคอาเซียน
ขณะที่ประธานพรรคเกอาดิลัน (พรรคแกนนาฝ่ายค้าน) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเมียนมาเคารพรัฐธรรมนูญ และผลการเลือกตั้งที่มาจากประชาชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทหารเมียนมาหันมาปกป้องประชาธิปไตยของประชาชน รวมถึงเรียกร้องให้อาเซียนและผู้นาทั่วโลกมีจุดยืนร่วมกันที่จะเรียกร้องให้มี การปล่อยตัวผู้นำการเมืองและเรียกคืนหลักนิติธรรมในเมียนมา
6.ไทยแสดงจุดยืนเหมือนอาเซียน
7.สำนักเลขาธิการอาเซียน เผยแพร่แถลงการณ์ของประเทศบรูไน ดารุซซาลาม ในฐานะประธานอาเซียน 2564 ระบุว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ติดตามพัฒนาการณ์ของเมียนมาในปัจจุบันอย่างใกล้ชิด,อาเซียนคำนึงถึงวัตถุประสงค์ และหลักการที่ปรากฏในกฎบัตรอาเซียน รวมถึงการยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย หลักนิติธรรม ธรรมาภิบาล การเคารพ และปกป้องสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพขั้นพื้นฐาน
อาเซียนขอเน้นย้ำว่า เสถียรภาพและความมั่นคงทางการเมืองของสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ คือ กลไกสำคัญอันจะนำไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนที่สันติสุข เป็นปึกแผ่น และรุ่งเรือง และ อาเซียนสนับสนุนให้เกิดการเจรจา การปรองดอง และการคืนสู่สภาวะปกติตามเจตจำนงและผลประโยชน์ของประชาชนเมียนมา
8.สหประชาชาติ กังวลว่า การรัฐประหารในเมียนมาจะทำให้สถานการณ์และความเป็นอยู่ของชาวมุสลิมในรัฐยะไข่แย่ลง
“ฝ่ายความมั่นคง มั่นใจว่า การแสดงท่าทีของไทยต่อสถานการณ์ในเมียนมา เป็นไปตามมาตรฐานการเมืองระหว่างประเทศ ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และยึดผลประโยชน์ และความมั่นคงของประเทศของชาติเป็นแนวทางหลัก”แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคง กล่าว
