วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSผู้นำ“ต้องทำก่อน”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ผู้นำ“ต้องทำก่อน”

เมื่อประมาณสักเดือนหนึ่งมี “พระสงฆ์-อาจารย์” จากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย หรือ “มมร.” ส่งข่าวมาชิ้นหนึ่ง ประมาณว่า “สมเด็จพระสังฆราช” ทรงมีพระบัญชาให้ตั้ง “สถาบันกรรมฐานศึกษา สมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร)” ให้อยู่ภายใต้การดูแลของ มมร.

“เปรียญสิบ” มองว่า…เข้าท่า “สังฆบิดร” ต้องทรงนำและเป็นอย่างให้ “สังฆมณฑล” แบบนี้ ตามสโลแกนที่กำลังฮิตอยู่ตอนนี้ว่า “ผู้นำต้องทำก่อน”

ไอ้ประเภท..เช้าเสก บ่ายสวด ค่ำสะเดาะเคราะห์ รับจัดงานอีเว้นต์เสมือน “บริษัทมหาชน” ก่อนงานจะมีบรรดาลิ่วล้อไปสั่งการโน้น-นี่-นั่น ต้องนั่งเก้าอี้แบบนี้ ต้องนั่งรถแบบนั้น-นี่-นั่น นี่ฉันได้-นี่ฉันไม่ได้เท่า สุดท้าย “ราคา” พระสมเด็จเท่านี้..เลขาฯเท่านั้น คนติดตามด้วย และรวมพระ “ถือย่าม” ต้องเท่านี่ ส่วนคนขับรถแล้วแต่ “เจ้าภาพ” กรณีนี้ในวงการ “ปลุกเสก” รู้กันดี และบางพื้นที่ประเพณี “เฮงซวย” นี้กำลังลามไปสู่ “เจ้าคณะปกครอง”

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธุระของพระภิกษุในพระธรรมวินัยนี้มี 2 ประการเท่านั้น คือ คันถะธุระ และ วิปัสสนาธุระ ในบรรดา 2 ประการนี้ วิปัสสนาธุระ คือ ทางสายเอก ที่พระภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ควรเดิน เพื่อนำจิตและกายไปสู่ ความพอเพียง ความสันโดษ ลดอัตตา และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดคือ “พระนิพพาน”

สมเด็จพระสังฆราช

ฉะนั้น “สมเด็จพระสังฆราช” ในฐานะ “สังฆราช” และ “ผู้นำสูงสุด” ของคณะสงฆ์ การที่พระองค์แม้จะมีพระชมน์มากแล้ว แต่ยังทรงมีพระเมตตาต่อชาวพุทธ ทรงตั้ง “สถาบันกรรมฐานศึกษา” จึงน่าอนุโมทนายิ่ง…และอย่าหยุดอยู่แค่นี้

มหาเถรสมาคมต้องรับลูกด้วย โดยเฉพาะ “เจ้าคุณบุญชิต” เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ที่ถือเป็น “พระสายวิปัสสนา” รูปเดียวในมหาเถรสมาคม ต้องนำมาขับเคลื่อนต่อ ดึงพระวิปัสสนาจารย์ทั้งสายธรรมยุต สายมหานิกาย หรือแม้กระทั้งสายวัดป่า…รุกคืบปูพรมดึง “จุดแข็ง” ของพระพุทธศาสนา “กลับคืนมา” 

เสียดายว่า ที่ผ่านมา การชู “วิปัสสนากรรมฐาน” ในประเทศไทย…ไร้เจ้าภาพ ต่างคนต่างทำ เจ้าสำนักบางสำนักทำเพียงเพื่อ “สะสม” กำลังญาติโยม “รักษาศรัทธา” เท่านั้น ไม่มีแบบแผนหรือยุทธศาสตร์ “เชิงรุก” อะไร

ดีไม่ดีมี “พระบางรูป” อ้างว่าตนเองเป็น “พระวิปัสสนาจารย์-พระสายวัดป่า” สร้างความมั่งคั่งให้ตนเองและบริวารก็มีถมไป..

ยุคหนึ่งเคยได้ยิน “คุณหมอรัศมี-คุณหญิงสมปอง วรรณิสสร” เคยคิดจะทำแบบ “เชิงรุก” แต่ “เสียดาย” แค่คิดจะ “สร้างตึก” บริษัทรับเหมาบ้าง พระบ้าง คนใกล้ชิดบ้าง “แย่งซีน” กันจนทราบว่า “ดีลล่ม”

“สมเด็จพระสังฆราช” ทรงนำเป็นแบบอย่างตั้ง “สถาบันกรรมฐานศึกษา” และในขณะเดียวกัน ภาพก็ปรากฏอยู่เนืองๆ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ก็ทรงสนพระทัยด้านนี้ รวมทั้งให้ข้าราชบริพาร “ปฎิบัติกรรมฐาน” ด้วย แบบนี้ถือว่าเป็นโอกาสทอง ของคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาประเทศไทยแล้ว!!

อยู่ที่ว่า “คณะสงฆ์” จะเอาหรือไม่เอา..เท่านั้น

……………………

คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย…“เปรียญสิบ”: [email protected]

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img