วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘ไพศาล’ชี้ช่องยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยโคราชพาดพิงสถาบันส่อผิดก.ม.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ไพศาล’ชี้ช่องยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยโคราชพาดพิงสถาบันส่อผิดก.ม.

“ไพศาล” ชี้ช่องยุบพรรค “รทสช.” หลังปราศรัยที่โคราช มีการพาดพิง “สถาบัน” ประเดิมระเบียบใหม่ “กกต.” เย้ยแทนที่จะเปิดกระแสเชิงรุก กลับกลายเป็นเชิงรับ แถมมีคนมาฟังน้อย แนะจับตาท่าที “ปชป.” จะไปทางไหน จะหนุน “ลุงตู่” ต่อหรือไม่

เมื่อวันที่ 27 ก.พ.66 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และนักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol เรื่อง “ยาหมดอายุทางการเมือง!!!” มีเนื้อหาว่า…

1.การหาเสียงของ รทสช. ที่โคราช เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 มีคนเข้าร่วมงานน้อยกว่าราคาคุยมาก และการปราศรัยยังพาดพิงสถาบัน ซึ่งต้องห้ามตามข้อกำหนดของ กกต. และส่อว่าอาจถูกร้องขอให้ยุบพรรค ประเดิมระเบียบใหม่เกี่ยวกับการสอบสวนของ กกต. ก็ได้

งานนี้แทนที่จะเป็นการเปิดกระแสเชิงรุก ก็กลายเป็นเชิงรับไปเสียแล้ว

2.เมื่อวันที่ 26 กมุภาพันธ์ 2566 ท่านรองนายกฯ วิษณุ แถลงว่า จะมีการยุบสภาวันที่ 15 มีนาคม 2566 ก่อนสภาหมดวาระเพียง 8 วัน และระบุว่ากรอบการเลือกตั้งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่ กกต. กำหนด คือจะมีการเลือกตั้งวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 มีข้อสังเกตว่า

~ยังยืนยันว่า รัฐบาลเป็นฝ่ายยุบสภา ไม่ได้กล่าวว่าเป็นพระราชอำนาจในการตราราชกฤษฎีกายุบสภา รัฐบาลเป็นแต่เพียงทูลเกล้าฯ เสนอเท่านั้น

-สิ่งที่รองนายกฯ วิษณุ ไม่พูดถึงก็คือ ถ้ามีการยุบสภากรอบกำหนดเวลาเกี่ยวกับการเลือกตั้งก็จะเปลี่ยนแปลงไป คือกำหนดที่ผู้สมัคร ส.ส. จะต้องสังกัดพรรคการเมืองตามที่ กกต. ได้ประกาศไว้ คือวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 จะถูกลบล้างไป และเป็นการขยายเวลาให้กับบางพรรคการเมืองที่จะหาผู้สมัครมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ยืดยาวไปจนถึงวันที่ 7 เมษายน 2566 นี่ก็เป็นกรอบเวลาการเลือกตั้งที่กระทบชัดเจน

-การยุบสภาก่อนหมดวาระเพียง 8 วัน และหลังจากสภาปิดสมัยประชุมแล้ว โดยไม่มีเหตุผลเกี่ยวกับปัญหาของสภาเลย เป็นการขยายเวลาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเท่านั้น ซึ่งก็รู้ ๆ กันอยู่ว่า พรรคการเมืองใดจะได้ประโยชน์จากการลบล้างเวลาจากที่ กกต. กำหนด

3.พรรคประชาธิปัตย์ รณรงค์เลือกตั้งโดยตั้งธงการเมืองว่า “วันใหม่” แต่จะใหม่แค่ไหน ก็ให้ดูตรงที่จุดยืนและท่าทีทางการเมืองว่า “ยังสนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไปหรือไม่ “

และถ้าไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ก็ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงไม่มีภาพปรากฎในการรณรงค์วันใหม่ แต่ก็ต้องเห็นใจ เพราะสถานการณ์ของประชาธิปัตย์ยามนี้ เดินหน้าก็เหนื่อย กลับหลังก็หนัก คือถ้าประกาศสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ต่อไป สภาพบ้านแตกสาแหรกขาดก็ยากจะแก้ไข เพราะคนเก่าเกือบทั้งหมดรับสภาพไม่ได้ และแยกย้ายออกจากพรรคกัน ยิ่งกว่าน้ำหลากในฤดูฝน แต่ถ้าแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ ก็จะกลายเป็นดาวเคราะห์ที่โคจรออกนอกจักรวาล เพราะไม่รู้ว่าจะจับมือกับใคร

งานเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ในการปราศรัยของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ช่วงที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรค ปราศรัยตอนหนึ่งระบุชัดเจนว่า…“ถ้าเราอยากได้รัฐบาลที่ดี ตามที่ ร.9 ทรงประสงค์นั้น ให้เลือกพรรคไทยรักไทย ของ… เอ้ยไม่ใช่ ชิบหายแล้วกู เลือกรวมไทยสร้างชาตินะ ไม่ใช่ไทยรักไทย”

สำหรับลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีประกาศ ในหมวด 4 ข้อ 17 ระบุชัดเจนว่า “ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใด นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img