PTT Digital ผนึก GML สนับสนุนเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร ตั้งเป้ายกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคอาเซียน
เมื่อวันที่ 27 ก.พ.66 นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบริษัทกลุ่ม ปตท. และ บริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด (GML) ดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์และแพลตฟอร์มแบบครบวงจร ทั้งทางบกและทางอากาศ รวมถึงการขนส่งควบคุมความเย็น บริหารจัดการคลังสินค้าห้องเย็นและบริการให้เช่าอุปกรณ์ด้านโลจิสติกส์ เพื่อเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์กับทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยมี นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ นายไกรยสิทธิ์ อินทรพาณิชย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการศึกษาและทดสอบ Logistic Platform ของ PTT Digital ร่วมกับ GML เพื่อสนับสนุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับการพัฒนาธุรกิจทางด้านการขนส่งของ GML โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประเทศไทยให้พร้อมรองรับในการเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องกับทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ New S-Curve ซึ่งเป็นหัวใจหลักของกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ ปตท. ด้วยเช่นกัน
นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในหลายภาคธุรกิจมีเป้าหมายการขยายธุรกิจใหม่ที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุมการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร ทั้งทางบกและทางอากาศ รวมถึงการขนส่งควบคุมความเย็น บริหารจัดการคลังสินค้าห้องเย็น และบริการให้เช่าอุปกรณ์ด้านโลจิสติกส์ ควบคู่กับการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งภาคธุรกิจต่างมองหาเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ให้กับผู้ประกอบการที่ปัจจุบันอยู่ที่ 13% ของ GDP หรือราว 2 ล้านล้านบาท ให้มีต้นทุนที่ลดลง จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับ GML ในการนำระบบ HERMES Platform ซึ่งเป็นระบบควบคุมและติดตามยานพาหนะแบบครบวงจรที่ PTT Digital พัฒนาและให้บริการเข้ามาช่วยยกระดับแผนการดำเนินธุรกิจในรูปแบบการขนส่งที่หลากหลายของ GML ให้ประสบความสำเร็จได้มากขึ้น”
การลงนามครั้งนี้ นับเป็นการขับเคลื่อนครั้งสำคัญของไทยในการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อพัฒนาธุรกิจด้านการขนส่งของ GML ให้มีประสิทธิภาพและความคล่องตัวมากขึ้น โดยแบ่งธุรกิจ GML ภายใต้ความร่วมมือฉบับนี้ เป็น 3 กลุ่มหลักๆ ประกอบด้วย
1.ศึกษากระบวนการ RAIL AND TERMINAL BUSINESS ของ GML รวมถึงการออกแบบเอกสารการขนส่งและการติดตามรถไฟและเสนอแนะวิธีการที่เหมาะสม โดยนำ HERMES Platform ระบบควบคุมและติดตามการขนส่งที่ออกแบบและพัฒนาโดย PTT Digital มาใช้ในการบริหารการขนส่งผ่านทางรถไฟ เช่น การ Tracking สถานะการจัดส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง การจองตู้ container รวมถึงการจัดทำรายงานและเอกสารการขนส่งที่เกี่ยวข้องจากข้อมูลในส่วนเชื่อมต่อข้อมูลกับระบบ HERMES Platform อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน เหมาะกับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการขนส่งสินค้าผ่านทางรถไฟหรือระบบราง (Rail and Terminal)
2.AIR LOGISTICS BUSINESS เพื่อสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการรองรับธุรกิจการขนส่งทางอากาศ เช่น การบริหารจัดการคลังสินค้า (Air Cargo Terminal Management) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กระบวนการจัดการและการขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะกับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการขนส่งสินค้าผ่านทางอากาศ ทั้งการนำเข้าและส่งออกสินค้าในทุกภาคธุรกิจ
3.COLD CHAIN BUSINESS เพื่อสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการรองรับธุรกิจการขนส่งสินค้าที่ต้องการการจัดเก็บและการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสมกับสินค้า เช่น การซื้อและขายผลผลิตทางการเกษตรในรูปแบบของ Digital International Trading โดย PTT Digital จะพัฒนา Trading Platform ให้กับ GML เพื่อใช้เป็นช่องทางกลางในการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร
นายไกรยสิทธิ์ อินทรพาณิชย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด กล่าวว่า “การร่วมมือกันระหว่าง GML และ พีทีที ดิจิตอลในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่จะบูรณาการความสามารถด้านเทคโนโลยีของ พีทีที ดิจิตอล และความสามารถในการพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ของ GML ที่จะร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มโลจิสติกส์พร้อมทั้งขยายโอกาสทางธุรกิจ และช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ รวมถึงเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญของ กลุ่ม ปตท. ที่ต่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันที่จะมุ่งมั่นสนันสนุนให้เกิดการพัฒนาการค้าของประเทศ โดยพัฒนาระบบการทำงานที่ทันสมัยในการสนับสนุนธุรกิจด้านการขนส่งทางราง การขนส่งทางอากาศ และการขนส่งรูปแบบ Cold Chain นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าของไทยที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากล เพื่อส่งไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ และเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงสร้างโอกาสสู่การพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้ก้าวไกลในเวทีโลก”
ทั้งนี้ PTT Digital และ GML มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงระบบควบคุมและติดตามการขนส่ง (Logistic tracking platform) ที่ออกแบบเพื่อรองรับการทำ Solution ด้าน Logistic ซึ่งจะสามารถช่วยผู้ประกอบการหรือผู้ใช้งานให้สามารถบริหารจัดการติดตามการขนส่งทั้งกระบวนการได้อย่างครบวงจร สามารถบริหารจัดการต้นทุนโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การจัดการสินค้าคงคลัง การขนส่งจากต้นทางสู่จุดหมายปลายทาง และการซ่อมบำรุงเพื่อตอบโจทย์ในด้าน Smart Supply Management, Smart IoT, Smart Logistics และ Smart Maintenance เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการรองรับการเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ New S-Curve อีกด้วย