วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightมติป.ป.ช.เชือดปารีณาบุกรุกป่า ข้อหา“ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

มติป.ป.ช.เชือดปารีณาบุกรุกป่า ข้อหา“ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง”

“เจ๊เอ๋-ปารีณา” ไม่รอด “ป.ป.ช.” มีมติเชือด “ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง” กรณีบุกรุกป่า 711 ไร่ ทำเสียหาย 36 ล้าน เผยต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ “ส.ส.” ทันที หากศาลประทับรับฟ้อง ถือเป็นเคสแรก-เป็นมาตรฐานใหม่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า ป.ป.ช.มีมติว่ากรณีที่น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ยึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเป็นส.ส.กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรง และกรณีเป็น ส.ส.กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 11 ข้อ 17 ประกอบ ข้อ 27 วรรคสอง

นายนิวัติไชย กล่าวอีกว่า จากการไต่สวนปรากฏว่า น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ได้ร่วมกับนายทวี ไกรคุปต์ บิดา เข้ายึดถือ ครอบครอง และทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ พื้นที่จำนวน 711-2-93 ไร่ โดยมีพฤติการณ์ ตั้งแต่ปี 2546 มีการขอใช้ไฟฟ้าต่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จอมบึง และชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินต่อ อบต.รางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เพื่อประกอบกิจการปศุสัตว์ ในปี พ.ศ.2549-2556 มีการชำระภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท. 5) ทั้ง 29 แปลง ต่อ อบต.รางบัว ซึ่งมีการกระจายการถือครองที่ดินดังกล่าวโดยอาศัยชื่อบุคคลอื่นซึ่งเป้นแรงงานที่อยู่ฟาร์มมาถือครองที่ดินในเอกสาร ภ.บ.ท. 5 จากนั้นในปี พ.ศ. 2555 ได้มีการโอนกลับมาเป็นชื่อของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ทั้งหมด และในปี พ.ศ. 2557 อบต.รางบัวได้ยกเลิกการเก็บภาษีบำรุงท้องที่ดังกล่าว แต่น.ส.ปารีณาก็ยังคงยึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว โดยไม่มีสิทธิครอบครองและมิได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ และ ส.ป.ก. แต่อย่างใด กระทั่งในปี พ.ศ.2555-2562 น.ส.ปารีณาได้มีการขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพต่อ อบต.รางบัว และใบรับรองมาตรฐานฟาร์ม “เขาสนฟาร์ม” และ “เขาสนฟาร์ม 2” บนที่ดินดังกล่าวต่อกรมปศุสัตว์ และในปีพ.ศ. 2561 ได้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ จำกัด เพื่อประกอบกิจการดังกล่าว กระทั่งเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 น.ส.ปารีณา ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ส.ส. โดยยังคงยึดถือ ครอบครอง และทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐดังกล่าวโดยอ้างเอกสารแบบแสดงรายการที่ดินฯ (ภ.บ.ท. 5) ทั้ง 29 แปลงที่ถูกยกเลิกไปแล้ว เป็นพื้นที่ 711-2-93 ไร่ โดยคำนวณค่าเสียหายเป็นตัวเงิน จำนวน 36,224,791 บาท

ทั้งนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนแล้วเห็นว่า การที่ น.ส.ปารีณา ในฐานะผู้แทนของประชาชน ซึ่งจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยปราศจากความขัดกันแห่งผลประโยชน์ และต้องประพฤติปฏิบัติตนให้ถูกต้องเป็นแบบอย่างที่ดี อยู่ในกรอบของจริยธรรมในการดำรงตน เคารพ ยึดถือ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ซึ่งบัญญัติออกมาเพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน เพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือประโยชน์ของรัฐ มากกว่าการคำนึงถึงประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องนั้น แต่กลับไม่ยึดถือระเบียบ หลักเกณฑ์ กฎหมาย และไม่ประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ หรือเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดินที่มีเจตนารมณ์เพื่อต้องการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบความเดือดร้อน และลดความเหลื่อมล้ำในฐานะของบุคคลในทางเศรษฐกิจและสังคม จึงมีมติว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาโดยตรงเพื่อวินิจฉัยต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวจะเป็นมาตรฐานใหม่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งกรณีของน.ส.ปารีณา ถือเป็นสำนวนแรกของส.ส. ในการกระทำผิดฝ่าฝืนจริยธรรมร้านแรง ส่วนน.ส.ปารีณาจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. หรือไม่นั้น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2561 ระบุว่า เมื่อ ป.ป.ช. ส่งศาลฎีกาไปแล้ว ศาลฎีกาประทับรับฟ้อง ก็จะเป็นเหตุให้ส.ส. หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที เว้นแต่ศาลจะวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นอาจจะไม่ต้องปฏิบัติหน้าที่ก็ได้ ส่วนการดำเนินการของป.ป.ช.ในการส่งเรื่องไปยังศาลฎีกานั้นจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่ให้เกินกรอบภายใน 30 วัน อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการยื่นคำร้องในแง่จริยธรรม กรณีส.สหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น มีการยึดถือครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท. 5 แต่กรณีนี้ก็ต้องไปตรวจสอบว่ายึดถือครอบครองตั้งแต่เมือ่ไหร่ ปัจจุบันยังมีการยึดถือครอบครองหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยมีจำนวนหลายสิบคน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img