วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightรับงานมุ่งให้ร้าย-ใช้ศาลเตี้ยตัดสินภท. “ศุภชัย”จ่อฟ้อง“กกต.”ให้เชือด“ชูวิทย์”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

รับงานมุ่งให้ร้าย-ใช้ศาลเตี้ยตัดสินภท. “ศุภชัย”จ่อฟ้อง“กกต.”ให้เชือด“ชูวิทย์”

“ศุภชัย” ปะฉะดะ “ชูวิทย” จ่อฟ้อง “กกต.” เชือด รับงานมุ่งร้ายใช้ศาลเตี้ยตัดสิน “ภท.” ไล่ไปตรวจสอบ “สายสีเขียว” ด้วย หลังป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา เล็งฟ้องทุกคนนำคำแถลงไปขยายผล จ่อยื่นยุบ “ประชาชาติ” โจมตีเงินทอนสายสีส้ม 3 หมื่นล้าน เหน็บอยากเป็น “จอห์น วิค” ต้องปรับพฤติกรรม

วันที่ 16 มี.ค.2566 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค แถลงตอบโต้กรณีที่มีบุคคลโจมตีกล่าวหารัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีการทำเป็นขบวนการเพื่อปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังให้พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีผลต่อคะแนนนิยมว่า ขอยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะที่รัฐมนตรีของพรรคได้ปฏิบัติหน้าที่มีกระบวนการทางนิติบัญญัติในการตรวจสอบ และมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ทั้งเรื่องการกล่าวหานายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามเกินกว่าการตรวจสอบทั่วไป เป็นการสร้างระบบศาลเตี้ย เพื่อทำการปลุกปั่นสังคมให้เกิดความเข้าใจผิด โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงเรื่องความผิดถูกที่อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ทั้งนี้ พรรคได้ปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯ หรือในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลในกระทรวงต่างๆ เราได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท ไม่มีการโกงบ้านเมืองอย่างที่มีคนออกมาพยายามกล่าวหา เราจึงต้องออกมายืนยันว่า การกล่าวหานั้นเป็นการกล่าวร้ายพรรคโดยมีวาระซ่อนเร้นอยู่ ที่ผ่านมาเราพยายามปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งแน่นอนว่าการดำเนินการของพรรคอาจกระทบคนบางคน บางกลุ่ม หรือนิติบุคคลบางแห่ง แต่เรายืนหยัดเสมอมาว่าเราได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งเป็นการปฏิบัติทุกอย่างภายใต้กฎหมาย ดังนั้น เรื่องถูกผิดต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่วันนี้กรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ที่มีการประกาศอย่างชัดเจนว่ารับงานมาเพื่อมุ่งร้ายทำลายพรรคภูมิใจไทย กรณีนี้เป็นการใช้สิทธิที่ไม่สุจริตในฐานะประชาชนที่จะติชมด้วยความเป็นธรรม แต่มีเจตนาซ่อนเร้น ซึ่งเป็นการใช้เสรีภาพของประชาชนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการพูดอาฆาตมาตร้าย และมีการแสดงออกตามพื้นที่ต่างๆ

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นถามว่ารับงานจากใคร ก็มีข่าวปรากฎออกมาค่อนช้างชัด ว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่เสียประโยชน์ในสิ่งที่พรรคออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น ในวันนี้พรรคจะดำเนินการกับบุคคลใดก็ตามที่เข้ามากล่าวร้าย บิดเบือน พรรคภูมิใจไทยในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง เราเชื่อมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรม จะไม่ยอมให้กระบวนการที่ทำเหมือนเป็นศาลเตี้ยเข้ามาจนทำให้กระบวนการทางกฎหมายสั่นคลอน

“วันนี้นายชูวิทย์หรือใครก็ตามที่นำเรื่องที่นายชูวิทย์แถลง ไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง มุ่งร้าย บิดเบือนพรรคภูมิใจไทย เราจะดำเนินการทุกคดีกับใครก็ตามที่ใส่ร้ายพรรค ทำให้พรรคเสื่อมเสีย โดยพรรคยึดหลักการเคารพกฎหมาย ฉะนั้น เมื่อมีบุคคลที่ไม่เคารพกฎหมายมาทำแบบนี้ เราก็จำเป็นต้องปกป้องศักดิ์ศรี และคะแนนนิยมของพรรค โดยจะดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมทุกเรื่องกับทุกฝ่ายกับบุคคลทุกคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยว”นายศุภชัย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พรรคจะดำเนินคดีเพื่อปกป้องสิทธิของเรา โดยยึดหลักบ้านเมืองที่ต้องมีขื่อมีแป เราไม่ได้ปิดปากนายชูวิทย์ เพราะถ้าจะใช้เสรีภาพติชมเราไม่มีปัญหา แต่ถ้าใส่ร้ายป้ายสีถือว่าเป็นการล่วงละเมิดต่อพรรค วันนี้ (16 มี.ค.) พรรคจะยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาตรา 22 ระบุว่า กกต.ต้องมีหน้าที่ในการกำกับดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม รวมถึงพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 ระบุว่า ห้ามไม่ให้ผู้ใดใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ซึ่งมีผลทำให้ประชาชนมีความเข้าใจหลงผิดในคะแนนนิยม ซึ่งทั้งหมดเป็นโทษทางอาญา บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของนายชูวิทย์จะมีการดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เช่น พรรคจะมีการดำเนินคดีโดยหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค หากพบว่าผิดก็จะดำเนินคดี รวมถึงหน่วยงานราชการ เช่น กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่นายชูวิทย์ไปดำเนินการหมิ่นประมาทใส่ร้าย ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะดำเนินคดีต่อไป

“มีคนถามว่าทำไมพรรคภูมิใจไทยปล่อยให้นายชูวิทย์ดำเนินการไปเรื่อยๆนั้น ผมยืนยันว่า เรื่องนี้เราจะเริ่มดำเนินคดี โดยผู้สมัครส.ส.ทั้ง 400 เขต ที่ได้รับความเสียหายจากนายชูวิทย์ จะไปดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ และจะร้องกกต.จังหวัดแต่ละเขต รวมถึงฟ้องคดีอาญานายชูวิทย์ ผมเชื่อว่าท่านไม่กลัวติดคุก เพราะท่านเคยติดคุก อาจเสพติดเรื่องการติดคุก มีคดีมากๆท่านอาจจะชอบก็ได้ แต่พรรคต้องทำเพื่อปกป้องสิทธิ ปกป้องชื่อเสียงเกียรติคุณของพรรค มีสุภาษิตกฎหมายคำหนึ่งว่า บุคคลจะต้องไปศาลด้วยมือที่สะอาด ซึ่งอาจจะหมายถึงว่าตัวผู้ร้องต้องเป็นบุคคลที่สะอาด ฉะนั้น การที่นายชูวิทย์ไม่ได้ใช้สิทธิโดยสุจริต แต่กระทำด้วยการอาฆาตมาตร้าย นายชูวิทย์จึงไปร้องโดยที่มือไม่สะอาด เรื่องที่นายชูวิทย์ทำในอดีต เช่น การเปิดกิจการอาบอบนวาด การรื้อบาร์เบียร์แล้วติดคุก นั่นอาจหมายถึงความสกปรก แต่การที่นายชูวิทย์จะไปกล่าวหาพรรคต้องมือสะอาด และไปด้วยเจตนาของตัวเอง ไม่ใช่เหตุผลว่ารับงานมา”นายศุภชัย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีสื่อบางแห่งนำถ้อยคำของนายชูวิทย์ไปทำอินโฟกราฟฟิก ขอฝากว่าท่านกำลังร่วมกระทำความผิดกับนายชูวิทย์ จึงขอเตือนว่าวันนี้ท่านยังกลับตัวกลับใจได้ทัน และขอให้หยุดการกระทำไม่เช่นนั้นจะโดนได้แบบนายชูวิทย์ ขณะเดียวกันพรรคการเมืองบางพรรคที่ฉวยโอกาสไปบิดเบือนใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทย เราจะดำเนินคดีด้วย สิ่งไหนกระทำโดยผู้บริหารพรรค เราจะยื่นยุบพรรค เช่น พรรคประชาชาติ ที่มีการปราศรัยกล่าวหาพรรคภูมิใจไทยโกง 3 หมื่นล้านบาท โดยอ้างคำพูดของนายชูวิทย์ ซึ่งคนพูดเป็นผู้บริหารพรรค ก็เตรียมรับคำร้องเรื่องการยุบพรรคด้วย

เมื่อถามว่า หากพบหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงคนที่นายชูวิทย์รับงานจะดำเนินคดีด้วยหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า จะดำเนินคดีด้วยแน่นอนหากพบหลักฐานที่เชื่อมโยง ซึ่งขณะนี้มีหลักฐานอยู่พอสมควรแล้ว ทั้งนี้ ถ้านายชูวิทย์ใช้สิทธิ์โดยสุจริตของท่านก็ถือเป็นสิทธิ์ แต่หากท่านไม่มีข้อมูล และไปยื่นคำร้องอันเป็นเท็จ จะถือว่าเป็นการยิงเท็จได้เหมือนกัน ซึ่งพรรคจะขอศึกษาเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม กว่า 90% ของนายชูวิทย์คือก๊อปปี้จากคนอื่นและเป็นการมโน

นายศุภชัย ยังกล่าวถึงเงินทอน 3 หมื่นล้าน โอนจากประเทศไทยไปสิงคโปร์ธนาคาร HSBC ว่า สิ่งที่กระทรวงคมนาคมถามไปว่าใครโอน ใครรับโอน ทั้งที่โครงการนี้ยังไปไม่ถึงไหน อีกทั้งเรื่องยังไม่เข้าครม.วันนี้นายชูวิทย์ก็เฉไฉไม่ยอมตอบ เหตุเพราะสิ่งที่พูดไม่มีอยู่จริงใช่หรือไม่ นอกจากนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แจ้งข้อกล่าวหากรณีรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว มีถูกกล่าวหา 13 คน คือ อดีตผู้ว่ากทม. บีทีเอส และผู้บริหาร ตนก็อยากถามนายชูวิทย์ ว่าถ้าคุณคิดว่าคุณมือสะอาดปกป้องผลประโยชน์ของชาติ กรณีสายสีส้มที่ยังไม่มีการดำเนินการขั้นไหนเลย และฝ่ายค้านยื่นไปแล้ว ท่านก็ช่วยไปตรวจสอบเรื่องสายสีเขียวด้วยได้หรือไม่ ว่ากรณีสายสีเขียวมีเงินทอนหรือไม่ และท่านช่วยไปตามหน่อยถ้าวันนี้ท่านอยากทำงานเพื่อชาติ ใจสะอาด ก็ช่วยไปตามสายสีเขียวด้วยถ้านายชูวิทย์แน่จริง ขณะที่เรื่องกัญชาท่านก็มีร้านของตัวเอง 2 ร้าน พอปลดล็อกก็มาทำธุรกิจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ วันนี้ร้านนายชูวิทย์ก็ยังเปิดอยู่

“ถ้านายชูวิทย์อยากจะเป็นจอห์น วิค พระเอกดังในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดก็จงปรับวิธีการ เพราะสิ่งทีคุณทำเป็นเรื่อง “Chuweed” วันนี้มีคนเชิญท่านไปดีเบตเรื่องกัญชา ก็หนี ก็เฉไฉไปเรื่อย ก็ขอให้ท่านเตรียมรับหมายศาล ซึ่งทุกคดีเราเก็บหมด เป็นการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระ หนึ่งคดีมีโทษจำคุกซ้อนๆอยู่หลายโทษ” นายศุภชัย กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img