“ภูมิใจไทย” เปิดตัว 33 ผู้สมัคร ปล่อยคาราวานรถหาเสียง ชูยุทธศาสตร์แบ่ง 4 พื้นที่ แก้ปัญหาตรงจุดสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และถ้าได้ส.ส.จากทั่วประเทศมากพอ ผมก็พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน”
เมื่อวันที่ 18 มี.ค.66 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 33 เขตเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร พร้อมปล่อยรถคาราวานหาเสียงกระจายทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ทางพรรคภูมิใจไทยมีความพร้อม 100% ในการเปิดตัว และส่ง ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพฯ ของพรรคภูมิใจไทย ทั้ง 33 เขต เป็นส่วนประกอบของบุคคลที่มีประสบการณ์การเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนกรุงเทพฯ มาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มาหล่อรวมกับ นักการเมืองหน้าใหม่ที่มีประสบการณ์ที่หลากหลายจากหลายสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น บุคลากรจากวงการการศึกษา กัปตัน นักบิน นักกฎหมาย นักธุรกิจ นักการตลาด และตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน การรวมผสานประสบการณ์นี้จะทำให้พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อม ที่จะตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ ทั่วกรุงเทพฯ
นายอนุทิน กล่าวต่อ เรามาอยู่ตรงนี้ พร้อมความปรารถนาในการทำงาน จากการที่ลงพื้นที่กรุงเทพฯ มาอย่างต่อเนื่องกว่า 4 เดือน เรามั่นใจในผู้สมัครของพรรคในการลงไปทำงานและร่วมมือช่วยกันเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนให้มากที่สุด พรรคจะใช้ผลงานของพรรค ในช่วงที่เป็นรัฐบาล 4 ปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่แสดงให้ประชาชนกรุงเทพฯ ได้เห็นว่าเรา สามารถนำนโยบายที่สัญญาเอาไว้กับประชาชนออกมาเป็นรูปธรรมได้ทุกนโยบาย
เช่น การที่พรรคฯ กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข ทางพรรคฯ ก็ได้ผลักดันเพิ่มเบี้ยตอบแทน อสส. ตามที่เคยบอกไว้ การยกระดับการดูแลคนไทย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายรักษามะเร็ง และฟอกไตฟรี ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่ของทุกครอบครัว การลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาโรค และฟอกไต เป็นสิ่งที่พรรคฯ จะเดินหน้าเต็มที่ในการดูแลพี่น้องทั่วทั้งประเทศหรือการกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ทางพรรคฯ ก็ได้ผลักดัน รถเมล์ไฟฟ้า EV ทั่วกรุงเทพฯ และเรือเมล์ไฟฟ้า EV ซึ่งคงเห็นได้ว่าตอนนี้ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ มีรถเมล์ไฟฟ้า ได้วิ่งแล้ว แล้วเราจะผลักดันเข้ามาแทนที่รถเมล์ควันดำให้หมด ซึ่งหากสามารถสานต่อนโยบายนี้ได้ จะทำให้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ลดน้อยลงบ้าง เรื่องค่าโดยสารที่เป็นต้นทุนในการดำเนินชีวิต เราก็จะควบคุมให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่เกิน 40 บาท
“พรรคภูมิใจไทยเราพร้อมตอกเสาเข็ม กทม.ในการดูแลพี่น้องประชาชนกรุงเทพฯ และพร้อมที่จะผลักดันในทุกๆ ด้านทุกๆ นโยบายเพื่อให้ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนกรุงเทพฯ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และถ้าเราได้ ส.ส.จากทั่วประเทศมากพอ ผมก็พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน”
ขณะที่นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า พรรคได้แบ่งพื้นที่เป็น 4 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯชั้นใน กรุงเทพฯเหนือ กรุงเทพฯตะวันออก และกรุงเทพฯฝั่งธน ในการแก้ปัญหาเพื่อให้ตอบโจทย์และความต้องการของพี่น้องประชาชน โดยเรารวมรวบและปัญหาจากพื้นที่ ซึ่งปัญหาแต่ละพื้นที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน กรุงเทพฯชั้นใน กรุงเทพฯเหนือ กรุงเทพฯตะวันออก และกรุงเทพฯฝั่งธน ทุกพื้นที่จะมีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ความต้องการที่ไม่เหมือนกัน และต้องการวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน ซึ่งพรรค มีทางออกไว้หมดแล้ว
สำหรับนโยบายในพื้นที่กรุงเทพชั้นในประกอบไปด้วย การเชื่อมกล้อง CCTV บริเวณทางม้าลายช่วยลดอุบัติเหตุ, พัฒนาพื้นที่ รกร้างของหน่วยงานรัฐ ให้ประชาชนได้เข้ามาใช้สอยให้เกิดประโยชน์ , รถไฟฟ้าส่วนร่วมไม่เกิน 40 บาทตลอดสาย พื้นที่กรุงเทพตะวันออก มีนโยบาย อาทิ เพิ่มสายรถเมล์และรถเมล์ EV, เพิ่มจำนวนโรงพยาบาลของรัฐเพื่อกระจายพื้นที่ให้บริการ, ตั้งศูนย์กระจายสินค้าเกษตร
นโยบาย กรุงเทพฯเหนือ ประกอบด้วย พัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยริมคลอง, เพิ่มจำนวนโรงพยาบาลของรัฐ นโยบายกรุงเทพฯ ฝั่นธน อาทิ การพัฒนาท่าเรือขนส่งการเพิ่มเรือไฟฟ้า EV เชื่อมกล้อง CCTV บริเวณทางม้าลาย ,ศูนย์กีฬาครบวงจร