“พิธา”ชูสามเหลี่ยมหัวกลับโลโก้พรรคใช้แทนเบอร์ 31 วางตัวผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ประกบคู่ผู้สมัครเขตลงพื้นที่ เตรียมดาวกระจายหาเสียงทั่วปท. จี้ “ตู่-ป้อม”ดีเบตวิสัยทัศน์โชว์ปชช.
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม. เขตดินแดง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์หลังจับสลากหมายเลขประจำพรรคได้เบอร์ 31 ซึ่งจะนำไปใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ว่า บริบทการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นบัตรสองใบ และมี 2 เบอร์ จะทำให้พี่น้องประชาชนสับสนได้ เราจึงจะพยายามหาเสียงไม่ให้เป็นภาระกับประชาชน ต่อไปจะเลือกพูดว่ากาก้าวไกล และเบอร์ของส.ส.เขตเท่านั้น จึงอยากให้ทุกคนออกไปเลือกตั้งกันเยอะๆ นอกจากนี้กกต. ยังเปิดรับสมัครพรรคจนถึงวันที่ 7 เม.ย. ตอนนี้มี 49 พรรค ถ้าสมัครจนถึง 60 พรรค ก็จะแบ่งเป็น 30 กับ 30 ถ้าพรรค ก้าวไกลได้เบอร์ 31 ก็จะอยู่ขวาบนของบัตรเลือกตั้ง ทำให้ประชาชนหาง่าย แต่ก็ไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับยุทธศาสตร์การหาเสียงที่สอดคล้องกับบริบทการเลือกตั้งครั้งนี้
เมื่อถามว่าคิดท่าการหาเสียงไว้หรือยัง นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้ขอใช้โลโก้ของพรรคก้าวไกล คือสามเหลี่ยมกลับหัวประชาชนจำนวนมากเป็นสูงสุดของพี่น้องประชาชน อยากจะให้จำโลโก้พรรคไว้เท่านี้พอเพื่อกาในบัตรเลือกตั้งของพรรค และจำเบอร์ของส.ส.เขตให้แม่น เพราะบัตรเลือกส.ส.เขตจะมีแค่เบอร์ ไม่มีชื่อผู้สมัครส.ส. ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดสับสน คือให้จำเบอร์เขตให้ได้ ที่เหลือก็ขอให้กาพรรคก้าวไกล เมื่อถามว่า กังวลว่าจะเลื่อนลำดับลงมาถ้ามีพรรคใดพรรคหนึ่งไม่ผ่านการพิจารณาของกกต. นายพิธา กล่าวว่า เราไม่ซีเรียส และต้องรอให้ถึงวันที่ 7 เม.ย. ตนจึงไม่ชูนิ้วชูเบอร์ ชูแต่โลโก้พรรค เมื่อถามถึงกรณีพรรคใหญ่จับลสากได้เบอร์ยากเกือบทั้งหมด นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีผลกับการเลือกตั้ง เมื่อสักครู่ได้นั่งคุยกับนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ก็เห็นตรงกันในเรื่องนี้
เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกล มีกลยุทธ์การหาเสียงอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า อย่างแรกภายใน 2-3 วันนี้จะต้องสร้างภาพจำให้กับพี่น้องประชาชนที่เชื่อในวิธีการทำงานแบบพรรคก้าวไกล จึงต้องลงเขต และบอกเบอร์ให้ชัดๆ โดยเราได้ซักซ้อมกับผู้สมัครส.ส.เขต ว่าเราอยู่เขตไหน และเบอร์อะไร ส่วนที่เหลือจะเป็นการกลับไปหาเสียงแบบปกติ คือการดาวกระจายไปให้ครบทุกพื้นที่ให้ครบทุกเขต และวันนี้ได้เปิดรายชื่อผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่ออย่างเป็นทางการ ซึ่งบางคนจะมีวาระการทำงาน แต่สามารถไปได้ทุกเขต เช่น วาระเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จะไปในพื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องขยะ จึงต้องรีบทำงานและเอาผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไปเพิ่มพลังให้ผู้สมัครส.ส.เขตให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้มากที่สุด
เมื่อถามว่า ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหน้าใหม่จะช่วยลงพื้นที่ให้ผู้สมัครส.ส.เขต ด้วยใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ต้องลงหาเสียงให้กับเขตอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่พวกเขาทำเป็นสิ่งที่มีปัญหาในแต่ละพื้นที่ และภูมิภาค ตนคิดว่าผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นตัวจริงเสียงจริงในพื้นที่ของเขา เมื่อเขามาที่พรรคก้าวไกลเขาไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเครือข่ายที่ทำงานร่วมกันมาด้วย ฉะนั้นจึงเห็นชื่อพรรคก้าวไกล และชื่อผู้สมัคร เข้าไปอยู่ในพื้นที่ของสื่อมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะลงพื้นที่ไหนเป็นจุดแรก นายพิธา กล่าวว่า จากวันนี้จนถึงวันที่ 14 พ.ค.ชั่วโมงต่อชั่วโมงได้วางแผนไว้หมดแล้ว ทั้งผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำพรรค และผู้ช่วยหาเสียงพรรคคือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ วานิช ด้วย เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมจะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 3 จะมีผลกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เราพร้อมจะแข่งขัน และร่วมมือกัน ขอให้พรรคเพื่อไทย โชคดีกับการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค
เมื่อถามถึงการดีเบตของแคนดิเดตนายกฯ ของแต่ละพรรค โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศไม่ขึ้นเวทีดีเบต นายพิธา กล่าวว่า ตนอยากจะให้หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ ทุกคนมาแสดงวิสัยทัศน์กันในสิ่งที่เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้ฟังและได้รู้สึกว่า ก่อนที่จะไปเลือก และให้คำตอบว่าจะให้น้ำหนักกับพรรคการเมืองใด ก็จะมีคำถามที่จะถามก่อน เพราะการเมืองเป็นเรื่องของสองทาง ถ้าให้ประชนตั้งคำถามและต้องมีคำตอบให้ ถ้าไม่มีคำตอบให้ก็ต้องไปหามาว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เป็นสิ่งที่ประสบการณ์ก่อนๆ สอนไม่ได้ เช่น ภาวะโลกร้อน โรคภัยใหม่ๆ ดังนั้นแคนดิเดตนายกฯ ทุกคนต้องมาร่วมดีเบตกัน รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ด้วย