“เศรษฐา” ลั่นการแสดงออกว่ารักชาติไม่จำเป็นต้องเป็นทหาร และการเป็นทหารต้องไม่เกิดจากการบังคับ ฟุ้งชนะเลือกตั้งตลอดเพราะทำนโยบายได้จริง ลั่นพร้อมตอบทุกข้อสงสัยนโยบายพรรค
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 เม.ย. ที่นิรันดร์คอนโด 93 ซอยสุขุมวิท 93 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและรับฟังปัญหาในพื้นที่นิรันดร์คอนโด 93 เพื่อช่วย นายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ผู้สมัครส.ส. กรุงเทพมหานคร เขตพระโขนง เขตบางนา หาเสียง มีประชาชนในพื้นที่รอให้การต้อนรับให้กำลังใจอย่างอบอุ่น
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอบคุณผู้ที่ออกมาวิจารณ์นโยบาย กระเป๋าเงินดิจิทัล เพราะเป็นการประชาสัมพันธุ์ให้เราในตัว สำหรับเรื่องเกณฑ์ทหารเชื่อว่าคนในพื้นที่มีลูกหลานต้องไปเกณฑ์ทหาร เชื่อว่าหลายคนไม่ได้อยากไปเป็นทหาร ที่สำคัญสถาบันทหารเป็นสถาบันที่มีเกียรติ แต่การบังคับเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แล้วจะหาว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเกณฑ์ทหารไม่รักชาตินั้นไม่ถูก เพราะการแสดงออกถึงการรักชาติมีหลายรูปแบบไม่จะเป็นต้องเป็นทหารอย่างเดียว จึงขอย้ำว่าการยกเลิกการเกณฑ์ทหารเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราให้ความสำคัญ เพราะการเป็นทหารต้องไม่เกิดจากการบังคับ สำหรับเรื่องสิทธิการรักษาในพื้นที่บางนาที่มีโรงพยาบาลปิดหลายแห่ง จนประชาชนต้องเดินทางไปใช้สิทธิต่างพื้นที่นั้น หากพรรค พท. ได้เป็นรัฐบาลเราจะยกระดับนโยบาย 30 บาท บัตรประชาชนใบเดียวใช้ได้ทุกโรงพยาบาล
เมื่อประชาชนถามว่า หากไม่ได้เป็นนายกฯจะรับตำแหน่งอื่นได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.ก่อน และถ้าหากหลังการเลือกตั้ง พรรคเห็นว่าแคนดิเดตนายกฯคนอื่นเหมาะสมมากกว่า ตนก็ไม่ได้ไปไหนยังคงเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม
จากนั้นเวลา 16.45 นายเศรษฐา และคณะเดินทางด้วยรถสองแถวไป ยังท่าน้ำสรรพาวุธ เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่บริเวณท่าน้ำสรรพาวุธ และรับฟังความคิดเห็น การพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวติดแม่น้ำเจ้าพระยา มีประชาชนรอให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก โดยนายเศรษฐา กล่าวกับประชาชนที่มารอให้การต้อนรับว่าวันที่ 14 พ.ค. จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ขอให้เข้าคูหาเลือกพรรคเพื่อไทย ที่เราชนะเลือกตั้งมาตลอด 20 ปี เพราะสามารถทำนโยบายให้เป็นจริงได้ตลอด ขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีกระเป๋าเงินดิจิทัลเพราะกลัวแพ้ ใครมาโจมตีอย่ายอม 10,000 บาทถึงกระเป๋าคนอายุ 16 ปี ขึ้นไปทั้งหมดแน่นอน สำหรับนโยบายการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าของพรรค พท. มีนโยบาย 20 บาทตลอดทั้งสาย
ภายหลังการพบปะประชาชน นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์พบปะประชาชนเกี่ยวกับปัญหาที่พบเห็นในวันนี้ว่า สิ่งสำคัญคือต้องพัฒนาเรื่องการเดินทางข้ามเขต เพราะประชาชนต้องไปรักษาตัวตามสิทธิการรักษานอกเขตอยู่ นโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค จะทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น และอีกปัญหาที่ได้รับฟังคือเรื่องยาเสพติด ยืนยันพรรค พท. ไม่เอากัญชา เรายึดหลักใช้กัญชาเพื่อการแพทย์อย่างเดียว
เมื่อถามถึงกรณีนายเกียรติ สิทธีอมร คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตั้ง 5 คำถามเกี่ยวกับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่มาของเงิน และมองว่าเป็นการแจกเงินแบบเบี้ยหัวแตก นายเศรษฐา กล่าวว่าการที่คนอื่นพูดถึงนโยบายถือเป็นเรื่องดีเราได้ประชาสัมพันธ์ แต่เรื่องคำถามของพรรค ปชป. นั้นตนยังไม่เห็นเพราะอยู่ระหว่างลงพื้นที่ และมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น ที่มีการตั้งข้อสังเกตเป็นเบี้ยหัวแตกนั้น นโยบายปัจจุบันคือให้ทีละ 500 700 แต่ของเราแจกทีเดียวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนที่มีการตั้งขอสังเกตเรื่องหุ้นของแสนสิรินั้น มองว่ายิ่งไปกันใหญ่ไม่ได้เกี่ยวกัน ตนไม่ห่วงเรื่องเหล่านี้เพราะสามารถชี้แจงได้
เมื่อถามถึงกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศไม่จับมือกับพรรค พท. นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่านายไพบูลย์คือใคร หน้าที่ตนเวลานี้คือการเผยแพร่นโยบายให้ประชาชนรับฟังข้อคิดเห็น ถ้ามีอะไรปรับเสริมเติมแต่งเรื่องนโยบายตนจะจัดการนั้นคือเรื่องใหญ่.
จากนั้น เวลา17.45 น. นายเศรษฐา และคณะเดินทางต่อไปยังศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขตสวนหลวง-ประเวศ(หนองบอน) ซอยพัฒนาการ 35 เขตสวนหลวง เพื่อพบปะผู้ประกอบการ SME ร่วมพูดคุยหัวข้อ “สวนหลวง-ประเวศ แลนด์สไลด์ สะเทือนถึงดวงดาวปลดปล่อยศักยภาพ เศรษฐกิจไทย” โดยมีนายเศรษฐา ปานปรีย์ พหิทธานุกร คณะทำงานด้านนโยบายเศรษฐกิจ นายธกร เลาหพงศ์ชนะ ผู้สมัคร ส.ส.กทม, เขตสวนหลวง เขตประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน) และนายอรรมรัตน์ นิติพน ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตประเวศ (ยกเว้นแขวงหนองบอน), เขตสะพานสูง (เฉพาะแขวงทับช้าง) ร่วมพูดคุย