ประชาชนแห่กลับบ้านต่างจังหวัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้านกองทัพจัดตั้งจุดบริการประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยระหว่างการเดินทาง ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 15 เม.ย.66 ยังอยู่ช่วงของวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนทยอยเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดและบางคนก็เตรียมตัวเดินทางกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯกันแล้ว
@@@…….ก่อนหน้านี้ พล.อ.กนกพงษ์ จันทร์นวล รองเสนาธิการทหาร ได้ตรวจเยี่ยมการตั้งจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ สถานีบริการน้ำมันบางจาก วังน้อย กม.57 อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งกองทัพไทย โดย กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมจัดตั้งจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.66 ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” จำนวนทั้งสิ้น 214 จุด ประกอบด้วย กองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 38 จุด กองทัพบก จำนวน 86 จุด กองทัพเรือ จำนวน 77 จุด กองทัพอากาศ จำนวน 13 จุด โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน หมู่บ้าน และประชาชนจิตอาสา ในการจัดตั้งจุดบริการประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยระหว่างการเดินทาง ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน
@@@…….สำหรับการตรวจเลือกทหารกองประจำการประจำปี 2566 บรรยากาศการตรวจเลือกภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บางหน่วยตรวจเลือกได้ให้ทหารกองประจำการที่สอบได้เป็นนักเรียนนายสิบทหารบก รวมไปถึงทหารที่สมัครทหารออนไลน์ในปี 2566 ได้มาพบปะสื่อสารข้อมูล อุดมการณ์ และความภาคภูมิใจในการเป็นทหารให้กับผู้เข้ารับการตรวจเลือก ญาติและครอบครัวได้รับทราบ เพื่อช่วยในการตัดสินใจสมัครเป็นทหาร นอกจากนี้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องมาเข้ารับการตรวจเลือกแต่ป่วยไม่สามารถมาได้หรือผู้ป่วยติดเตียง สามารถให้บุคคลที่บรรลุนิติภาวะและพอจะเชื่อถือได้ มาแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือก หรือคณะกรรมการอาจจะพิจารณาเดินทางไปตรวจเลือก ณ สถานที่ที่ผู้ป่วยจัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ในวันที่ 13-15 เม.ย.66 กองทัพบกได้พักการตรวจเลือกทหารกองประจำการเพื่อให้ชายไทยและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจเลือกทหารได้ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ และจะกลับมาดำเนินการตรวจเลือกทหารต่อในวันที่ 16 เม.ย.66
@@@…….อย่างไรก็ตาม การเกณฑ์ทหารของไทยนั้น ถือเป็นหน้าที่พลเมืองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาอย่างต่อเนื่องมาทุกฉบับ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 ได้กำหนดหน้าที่นี้ให้เฉพาะชายที่มีสัญชาติไทยตามกฎหมาย มีหน้าที่ต้องเข้ารับราชการทหารด้วยตนเองทุกคน ..ชายไทยเริ่มเป็นทหารกองเกินนับแต่อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ทหารกองเกินอาจถูกเรียกไปรับการตรวจเลือกเพื่อเข้ากองประจำการได้เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ทหารกองเกินเมื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการครบกำหนด หรือสำเร็จการฝึกวิชาทหารตามหลักสูตรที่กระทรวงกลาโหมกำหนด หรือมีอายุครบ 30 ปีบริบูรณ์ จะถูกปลดเป็นทหารกองหนุน เมื่อเวลาผ่านไป หรืออายุครบตามที่กำหนดทหารกองหนุนก็จะถูกปลดพ้นราชการทหาร ในระหว่างที่เป็นทหารกองเกิน หรือทหารกองหนุนนั้น อาจถูกเรียกพลได้ตามที่กระทรวงกลาโหมเห็นสมควร และอาจถูกระดมพลได้หากมีพระราชกฤษฎีกา เพื่อระดมสรรพกำลังให้พร้อมเผชิญหน้ากับภัยคุกคาม หรือสถานการณ์วิกฤตสุดขีด ซึ่งมีผลกระทบต่อความอยู่รอดของชาติ
@@@…….ด้วยความจริงทางประวัติศาสตร์นั้น ชี้ว่า ยุคปลอดสงครามไม่มีจริง รวมทั้งสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ เช่น สถานการณ์ภัยพิบัติขนาดใหญ่ เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้น รุนแรงขึ้น จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ระบบการเกณฑ์ทหาร ถือเป็นหนึ่งในระบบการป้องกันประเทศที่ประหยัดที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อประกันความมั่นคงของชาติ ..ในช่วงที่ผ่านมา ฝ่ายการเมืองบางกลุ่มปลุกกระแสให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หรือใช้ระบบสมัครใจนั้น “ฝ่ายความมั่นคง” พิจารณาแล้ว การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หรือใช้ระบบสมัครใจนั้น อาจมิได้ปฏิบัติได้ง่ายตามที่พรรคการเมืองบางพรรคหาเสียงกันไว้ .. ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยเกี่ยวข้อง ได้นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณามานานมากแล้ว แต่ก็ยังไม่มีข้อไขที่จะเป็นไปได้มากนัก เพื่อให้มั่นใจว่า ความมั่นคงจะได้รับการประกันด้วยต้นทุนที่ไม่แพงเกิน จึงถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบรอบด้าน มิใช่คิดจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หรือเปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครใจ เหมือนในบางประเทศที่มิได้มีอะไรเหมือนประเทศไทย
@@@…….ตามข้อเท็จจริงนั้น การคัดเลือกทหารในหลายปีที่ผ่านมา พบว่า มากกว่า 40% เข้ามาเป็นทหารด้วยความสมัครใจ โดยในหลายเขตไม่ต้องมีการจับใบดำ-ใบแดง เนื่องจากมีผู้สมัครใจมากเกินจำนวนที่ต้องการแล้ว อย่างไรก็ตาม หากปรับไปใช้ระบบสมัครใจ คาดว่า จำนวนผู้สมัครใจเป็นทหารจะลดลง รวมทั้งจะเกิดปัญหาการกระจายทางภูมิศาสตร์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงไม่ต้องการให้เกิดขึ้น .. ปัจจุบัน ผู้ที่เข้ามาเป็นทหาร จะได้รับการฝึกทักษะพื้นฐานในการเป็นทหาร การดำรงวินัย การใช้อาวุธพื้นฐาน การสอนทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต และได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงจำนวนพอสมควรเป็นรายเดือนไปพร้อมด้วย .. ทั้งนี้ กองทัพใช้งบประมาณค่าใช้สอยที่เป็นค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า เสื้อผ้า รวมทั้งสิ้นประมาณ 10,000 บาทต่อหัวต่อเดือนเท่านั้น และถูกกว่าค่าแรงขั้นต่ำ และถูกกว่างบประมาณที่ใช้ในการจัดการฝึกรักษาดินแดนครบ 3 ปี ด้วยซ้ำไป
@@@…….นอกจากนี้ ยอดกำลังพลที่ลดลง รวมทั้งการลดลงของจำนวนทหารกองหนุนที่จะสามารถเรียกระดมสรรพกำลังในสถานการณ์วิกฤตนั้น จะส่งผลให้กองทัพ อาจต้องบรรจุกำลังพลประจำการตามอัตราบรรจุเพิ่มขึ้น และต้องดูแลพวกเขายาวนานยันเกษียณราชการ รวมทั้งหลังจากนั้น หรือต้องจัดหา และบรรจุประจำการยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ราคาแพงลิบลิ่ว ทดแทนปัญหากำลังพล .. สุดท้ายแล้ว งบประมาณป้องกันประเทศต่อปี อาจทะยานสูงขึ้นจากประมาณ 1.5% GDP แตะระดับ 4% GDP กลายเป็นภาระของชาติ ซึ่งฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่า ฝ่ายการเมืองเองก็คงไม่ยอมให้เกิดขึ้นง่าย ๆ จึงจำเป็นต้องพิจารณาร่วมกันให้รอบคอบมากกว่านี้ ทั้งนี้เพื่อให้ความมั่นคงของชาติในสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ ได้รับการประกัน
@@@…….เยือนจีน….พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย นางจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ และคณะ เข้าเยี่ยมคำนับ พล.ร.อ. ต่ง จวิน ผู้บัญชาการทหารเรือจีน ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทาง เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกองทัพเรือแห่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ตามคำเชิญของผู้บัญชาการทหารเรือจีน และร่วมพิธีรับมอบเรืออเนกประสงค์ ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ (เรือหลวงช้าง) ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย โดยได้มีการหารือระหว่างกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะการสนับสนุนการต่อเรือหลวงช้าง จนถึงการส่งเรือหลวงช้างเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเรือหลวงช้างจะเป็นเรือสำคัญในภารกิจด้านการส่งกำลังบำรุงของกองทัพเรือ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติต่อไป
@@@…….อนึ่ง ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนมีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นยาวนานในทุกระดับ โดยเฉพาะในระดับพระราชวงศ์และผู้นำประเทศโดยได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนรวมทั้งการขยายความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือจีน ได้มีการกระชับความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้นมาอย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือและกิจกรรมด้านต่างๆ ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนการศึกษา และการฝึกของกำลังพลกองทัพเรือในทุกระดับ การเยี่ยมเยือนเมืองท่าของเรือรบ การศึกษา รวมทั้งการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ต่อไป
@@@…….กองทัพอากาศ…พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันกองทัพอากาศ ประจำปี 2566 โดยมี พล.อ.อ. อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วย นาวาอากาศเอกหญิง พรรณประภา วัณณรถ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ ให้การต้อนรับ เนื่องในงานเลี้ยงรับรองวันกองทัพอากาศ ประจำปี 2566 โดย พล.อ.อ. อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้กล่าวเนื่องในโอกาสวันกองทัพอากาศ โดยได้แสดงปณิธานที่จะ “สานต่อ” นโยบายที่รัฐบาลและอดีตผู้บังคับบัญชาได้ริเริ่มไว้ ให้พัฒนาอย่างต่อเนื่องและสำเร็จเป็นรูปธรรม ตลอดจนสนับสนุนกำลังทางอากาศในการแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ และบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน ให้สามารถดำรงชีพได้อย่างปกติสุข อีกทั้งได้มุ่งเน้นการ “สร้างขวัญ” ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตของข้าราชการกองทัพอากาศให้ใช้ความสุขเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนากองทัพอากาศให้เจริญก้าวหน้า และมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ เพื่อปกป้องคุ้มครองผืนแผ่นดินและน่านฟ้าไทย รวมถึงรักษาเอกราช ราชบัลลังก์ และอธิปไตยของชาติไว้ให้มั่นคง
@@@…….จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสุนทรพจน์ตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ข้าราชการกองทัพอากาศทุกท่าน ได้ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบของตนเองได้อย่างเข้มแข็งด้วยความวิริยอุตสาหะ จนนำพากองทัพอากาศไปสู่ “กองทัพอากาศชั้นนำในภูมิภาค” ตามวิสัยทัศน์ที่ได้กำหนดไว้ ในนามของรัฐบาล ผมขอขอบคุณและขอชื่นชมข้าราชการกองทัพอากาศเป็นอย่างยิ่ง และเชื่อมั่นว่าทุกท่านจะธำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของทหารอากาศพร้อมทั้งผนึกกำลังกาย กำลังใจ ช่วยกันขับเคลื่อนและปฏิบัติงานตามปณิธานของท่านผู้บัญชาการทหารอากาศ ในการ สานต่อ สร้างขวัญ พัฒนา ตามแนวทางการพัฒนาเพื่อมุ่งไปสู่ กองทัพอากาศคุณภาพ ต่อไป
………………………………….
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย.. “รหัสมอร์ส”