“ไพศาล”แย้มทันทีที่จัดตั้ง‘รัฐบาลใหม่’ ข้ามขัดแย้งตั้ง‘กก.สมานฉันท์แห่งชาติ’

กูรู “ไพศาล” ชี้ทันทีจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะมีการตั้งกรรมการสมานฉันแห่งชาติทันที พร้อมๆ กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ อย่างเร่งด่วนที่สุด

เมื่อวันที่ 15 เม.ย.66 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า แทบไม่น่าเชื่อ ผลสำรวจของบางหน่วยงานปรากฏว่า ~ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พท.และกก. จะได้รับเลือกเกือบทั้งหมด พรรคเก่าแก่และพรรคลุงจะได้อย่างมาก 2-3คน

~ อดีตสส.งูเห่า กก. สอบตกเรียบ

~ปชป.+รทสช.=56

ภท.+พปชร.=105 รวมเป็น 161

แม้ตัวเลข 4 พรรค รัฐบาลเดิม + สว.250 จะสามารถตั้งนายกรัฐมนตรีได้ นอกจากเสียความชอบธรรมแล้ว คณะรัฐมนตรีก็ไม่ทันเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ก็จะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไล่ออกจากตำแหน่งฐาน ฝ่าฝืนหลักการประชาธิปไตย ไม่เคารพเสียงปวงชน

~พท.ได้รับเลือกทั่วประเทศ 240 กก.110=310 ทำให้ขั้วรัฐบาลเเดิมไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้โดยเด็ดขาด และถ้ารวมกับสว.สายลุงป้อม 100 กว่าคน ก็ตั้งนายกได้และตั้งรัฐบาลได้

~ในพื้นที่ทหาร คะแนนกระจาย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอาจปล่อยให้ฟรีโหวต เพื่อไม่ให้ถูกมองว่า ทหารเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือสนับสนุนพรรคใด ทั้งจะเป็นการป้องกันไม่ให้ พรรคการเมืองบางพรรคลากเอาสถาบันไปแพ้เลือกตั้งด้วย

~ เหลือเวลาอีก 28 วันจะถึงวันเลือกตั้งทั่วไปแล้ว จะทราบผลไม่เป็นทางการในวันนั้น

ดังนั้นถ้าพรรคใดถูก สอบสวนเพื่อยุบพรรค ซึ่งกกต.ต้องใช้เวลาอย่างเร็วที่สุด 30 วัน (ขณะนี้กกต. กำลังไปดูงานต่างประเทศ เมื่อกลับมาจะเหลือเวลาไม่ถึง 20 วัน) จึงจะส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ ถ้ามีการยุบพรรคหลังประกาศรับรองผลแล้วส.ส.นั้นก็อาจจะย้ายไปอยู่พรรคอื่นได้!!!

คาดหมายว่า มีการเตรียมการจัดการและรับมือกันไว้แล้ว เพราะทุกฝ่ายรู้ดีว่า ถ้ามีการยุบพรรคจะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดกลียุคหรือเกิดการปฏิวัติ 3 ชนิดขึ้น ซึ่งทำให้ประเทศ เสี่ยงภัยต่อการสิ้นชาติ

~ หลังการโยกย้ายทหารล่าสุด ทำให้ฝ่ายการเมืองไม่อยู่ในสภาพที่จะทำการรัฐประหารได้อีกต่อไป***

นี่ก็เป็นอานิสงส์ข้อแรก ที่พระนางกิมิทาเทวีเข้าเวรสงกรานต์ในปีนี้

~แว่วข่าวว่า ทันทีที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะมีการตั้ง “คณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ” เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง เริ่มต้นใหม่ประเทศไทยในทันที พร้อมๆกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ อย่างเร่งด่วนที่สุด มีการต่อสายเตรียมหารือกับผู้บริหารสูงสุด ของสถาบันการเงินที่ดูแล การสนับสนุนทางการเงินของประเทศในเส้นทางสายไหมไว้แล้ว และเริ่มมีการมองตัว ผู้แทนทางการค้า ที่จะไปเจรจาความกับต่างประเทศแทนนายกรัฐมนตรี อย่างน้อย 5 ถึง 10 คน