“ก้าวไกล”ลุยปราศรัย อุดรธานี คนแห่ฟังท่วมท้น “ปิยบุตร”อ้อนคนอุดรฯ ขอเปิดใจกาก้าวไกล จะลบล้างผลพวง”รปห.-ปฏิรูปกองทัพ”ให้ดู
เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ จ.อุดรธานี พรรคก้าวไกลเปิดเวทีปราศรัย นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล นายอภิชาติ ศิริสุนทร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ “ครูใหญ่”ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล และ น.ส.นายิกา ศรีเนียน หรือ”แคนแคน” ร่วมขึ้นเวทีปรารัยพร้อมผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานีทั้ง 10 เขตของจ.อุดรธานี โดยได้รับการตอบรับจากประชาชน ให้ความสนใจร่วมการฟังปราศรัยอย่างหนาแน่น จนเกินจำนวนเก้าอี้ที่เตรียมไว้กว่า 2,000 ตัว
นายปิยบุตร กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาพรรคการเมืองหลายพรรคต่างมีนโยบายเศรษฐกิจที่ดีจำนวนมาก แต่สิ่งที่พรรคก้าวไกลแตกต่างจากทุกพรรคการเมืองอย่างชัดเจน คือเรื่องการเมือง นำมาสู่คำขวัญ การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต เป็นการเดินพร้อมกันสองขา เพราะหากปราศจากนโยบายการเมืองที่ดี แต่ละพรรคเมื่อมาเป็นรัฐบาลแล้วก็จะเจอทหารยึดอำนาจ เจออำนาจพิเศษเข้าแทรกแซง พรรคก้าวไกลจึงเล็งเห็นว่าต้องมีนโยบายการเมืองดี เป็นการเมืองเพื่อคนส่วนใหญ่ ที่จะทำให้นโยบายเศรษฐกิจส่งมอบให้ประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อทุนผูกขาด และกองทัพ
นายปิยบุตร กล่าวว่า ปัญหาของประเทศไทยวันนี้ คือความไม่เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ตัวชี้วัดคือจำนวนรัฐประหาร นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 มีการรัฐประหารไปแล้ว 13 ครั้ง ส่งผลต่อชีวิตประชาชนอย่างมหาศาล ทุกครั้งที่ประเทศกำลังมีการเมืองที่ดี รัฐบาลกำลังทำนโยบายเศรษฐกิจที่ดี กำลังทำงานได้ดีก็ถูกยึดอำนาจ เลือกตั้งใหม่ได้ไม่นานก็ถูกยึดอำนาจอีก
พรรคก้าวไกลจึงเสนอตัดวงจรรัฐประหารไม่ให้วนเวียนซ้ำซากแบบนี้อีก ด้วยการปฏิรูปกองทัพ เอาทหารกลับเข้ากรมกอง ให้อยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน
“ไม่ให้บิ๊กต่างๆ ออกมาพูดการเมือง ใครอยากเป็นนักการเมืองก็ลาออกจากทหารมาสมัคร ลบล้างผลพวงรัฐประหาร ทำให้การนิรโทษกรรมของคณะรัฐประหารเป็นโมฆะ นำไปสู่การลงโทษไม่ให้นายทหารรุ่นน้องเอาแบบอย่างรุ่นพี่อีก รวมทั้งยกเลิกการเกณฑ์ทหารด้วย และที่สำคัญ พรรคก้าวไกลจะแก้กฎหมายหลายฉบับที่ถูกเอามาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทั้งหมดพรรคก้าวไกลจัดทำร่างแก้ไขกฎหมายไว้เสร็จแล้ว เหลือแค่เสนอให้สภาฯ พิจารณาเท่านั้น ”นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวต่อไป เราทราบดีว่าการเมืองที่ผ่านมาทำกันอย่างไร แต่เราจงใจไม่ทำแบบเดิม ด้วยเหตุนี้พรรคก้าวไกลจึงมีผู้แทนราษฎรที่กล้าอภิปรายในสภาฯ อย่างกล้าหาญ ตรงไปตรงมา ไม่ลูบหน้าปะจมูก ไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู มี ส.ส. ที่มีจุดยืนและอุดมการณ์ ด้วยเหตุนี้การคัดสรรผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกลจึงไม่มีการชักชวน ส.ส. เก่าจากมุ้งนั้นมุ้งนี้มาเป็นผู้สมัคร ประเภทที่กระโดดย้ายพรรคไปมาตามแต่ว่าใครมีโอกาสได้เป็นรัฐบาล เปลี่ยนย้ายข้างตามดินฟ้าอากาศ แบบนี้ไม่มีในพรรคก้าวไกลเด็ดขาด นอกจากนี้ ส.ส. เขตของพรรคก้าวไกล จะต้องมีคุณสมบัติสองข้อ คือ 1.ต้องดูแลประชาชน เข้าถึงได้ ขยัน ติดดิน ไม่ใช่ปล่อยให้หัวคะแนนทำงานแทน 2.ต้องสามารถอภิปรายในสภาฯ เป็นปากเสียงให้ประชาชนได้ ไม่ใช่ ส.ส. ที่ไม่เคยพูดในสภาเลย
นายปิยบุตร กล่าวต่อไปว่า ที่อุดรธานี ตนทราบดีว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่ผ่านมาเลือกพรรคอะไร ก็เพราะที่ผ่านมาพรรคที่อยู่ตรงข้ามกับการรัฐประหารมีเพียงหนึ่งพรรค เราจึงแสดงออกอย่างสมัครสมานเป็นหนึ่งเดียวในปี 2554 แต่ปัจจุบันสภาพการเมืองเปลี่ยนไปมากแล้ว ความคิดความอ่านของประชาชนก็เปลี่ยนไปมากแล้ว ในปี 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และพวกตนจึงสร้างพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา เมื่อถูกยุบก็สืบสานมาต่อเป็นพรรคก้าวไกลในวันนี้ เพื่อแก้โจทย์และปัญหาที่ไม่เคยมีใครกล้าแตะมาก่อน พรรคก้าวไกลวันนี้มาขออาสาประชาชน ว่าภารกิจเหล่านี้ หลายพรรคอาจไม่ทำ จะทำหรือไม่ทำไม่รู้ ไม่ชัดเจน แต่พรรคก้าวไกลอาสาทำให้เอง
“ผมจึงขอโอกาสพี่น้องสักครั้ง เปิดใจเปิดทางให้โอกาสมากาให้พรรคก้าวไกลสักครั้ง ลองเปลี่ยนสักครั้งแล้วพรรคก้าวไกลสัญญาว่าจะทำให้ดู การปฏิรูปกองทัพที่ไม่สำเร็จหรือไม่เคยมีใครทำมาก่อน รัฐสวัสดิการที่มั่นคงยั่งยืน การกระจายอำนาจ น้ำประปาดื่มได้ทั่วประเทศ รถเมล์ไฟฟ้าทั่วประเทศ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ลบล้างผลพวงรัฐประหาร ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 เรื่องยากๆ เหล่านี้พรรคก้าวไกลจะอาสาเข้าไปทำให้ดูเอง เรื่องที่ยากแบบนี้จำเป็นต้องมีประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ช่วยผลักดันให้เราทำสำเร็จ เลือกก้าวไกลสักครั้งแล้วประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม” นายปิยบุตรกล่าว
สำหรับผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.อุดรธานี ทั้ง 10 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ (เมืองอุดรธานี)เขต 2 น.ส.ภูษณิศา มหาวรากร (เมืองอุดรธานี) เขต 3 นายนิธิศ รอดชมภู (เมืองอุดรธานี, สร้างคอม, เพ็ญ) เขต 4 นางภรัชฎา ศรีไชยมูล (บ้านดุง, ทุ่งฝน)
เขต 5 พ.ท.ศรีสวัสดิ์ ดวงพรม (พิบูลย์รักษ์, กู่แก้ว, หนองหาน) เขต 6 นายอานันท์ อมรินทร์ (ศรีธาตุ, วังสามหมอ, ไชยวาน, กู่แก้ว) เขต 7 นายสุริยา วงศ์อารีย์ (เมืองอุดรธานี, กุมภวาปี, ประจักษ์ศิลปาคม) เขต 8 นายนิคม ระชินลา (เมืองอุดรธานี, หนองวัวซอ, โนนสะอาด, หนองแสง) เขต 9 นายโชคสมาน ลีลาวงษ์ (เมืองอุดรธานี, บ้านผือ, กุดจับ) เขต 10 นายศราวุธ หอมพรมมา (น้ำโสม, บ้านผือ, นาโยง)