เริ่มแล้วสำหรับการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ที่มีทั้งเด็กนักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่ไม่พอใจการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ที่แน่ ๆ หลังการชุมนุม 19 กันยา ถึงเวลาที่ฝ่ายความมั่นคงจะได้เช็ดบิลผู้ที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมในครั้งนี้
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ เดอะคีย์นิวส์ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 19 ก.ย. 63 ซึ่งเป็นวันนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตย โดยฝ่ายความมั่นคงคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้ ประมาณ 3 หมื่นคน สิ่งที่นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงไม่ใช่เรื่องของการมาชุมนุมเรียกร้อง แต่ที่เป็นห่วงคือเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบสองที่จะกลับเข้ามา หากผู้ที่มาชุมนุมไม่ระมัดระวัง
@@@……ก่อนการชุมนุม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กล่าวแถลงการณ์เรื่องการแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ในโลก ว่า วันนี้ผมขอพูดกับทุกท่านเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในโลกซึ่งไม่ค่อยจะดีนัก และอาจจะส่งผลต่อประเทศไทยเราด้วย ในช่วงเวลาข้างหน้านี้ ตอนนี้กำลังเกิดการระบาดของโควิดครั้งใหญ่ ระลอกใหม่ ทั้งในยุโรป และที่อื่น ๆ หลายที่ เช่น ที่ประเทศอินเดีย ตอนนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่แค่วันเดียว กว่า 90,000 คนหรือที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 30,000 คนต่อวัน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 200,000 คน โลกกำลังตกอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ครั้งใหญ่ ระลอก 2 อย่างชัดเจน
@@@……ผมขอใช้โอกาสนี้ พูดกับคนกลุ่มต่างๆ ที่อยากจะออกมารวมตัวกันประท้วงด้วยเหตุผลต่างๆ ของท่าน เมื่อเวลาที่ท่านมารวมตัวกัน ท่านกำลังเพิ่มความเสี่ยงอย่างมหาศาล ที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ในประเทศไทย และขณะเดียวกัน ท่านกำลังเพิ่มความเสี่ยง ที่จะทำลายการทำมาหากินของคนไทยด้วยกัน อีกสิบ ๆ ล้านคน การจุดชนวนการแพร่ระบาดโควิด ให้เสี่ยงที่จะลุกโชนขึ้นมาอีก นั่นจะส่งผลกระทบที่เลวร้าย และทวีคูณปัญหาเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย ไปสู่ระดับที่เรายังไม่เคยเจอมาก่อน ผมขอให้ทุกท่านคำนึงถึงเรื่องนี้ให้มาก ในประเทศอื่น การรวมตัวกันและการไม่รักษาวินัยในการป้องกันโรคระบาด ได้สร้างปัญหาให้กับประชาชนคนอื่น ๆในประเทศของตัวเองมาแล้ว
@@@……การรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ ยืนตากฝน กับบรรยากาศที่ Covid ชอบ คนมีเชื้อไม่แสดงอาการไม่มีใครรู้ เสี้ยวไส้กันบ้างไหม การระบาดรอบ 2 เศรษฐกิจ พัง การปะทะกันบนถนน ใครได้ประโยชน์ หรือแม้แต่ ส.ส.ผู้บริหารพรรคการเมืองในสภาออกมาบนถนน ละเมิดรัฐธรรมนูญ มุ่งล้มล้างการปกครอง จาบจ้วงสถาบันหลักของชาติ อาจจะถูกยุบพรรค หรือ คิดว่าหนีออกนอกประเทศทันเลยไม่สนใจ….ประชาธิปไตยเทียม ที่ละเมิดกฏหมายก้าวร้าวใส่ผู้คน เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ไม่มีใครยอมรับได้ เช่นเดียวกัน นายกรัฐมนตรีต้องลาออกเพราะม็อบบนถนนก็มิใช่วิถีของประชาธิปไตยแน่นอน ไม่มีใครไม่รู้ ข้อเรียกร้องจากความต้องการเทียมที่มิได้สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชน ประชาชาชนส่วนหนึ่งและอาจเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้อยากจะแก้รัฐธรรมนูญที่ปลดแอกจากธนาธิปไตย ฉบับปัจจุบัน กฏหมู่จะอยู่เหนือกฏหมายได้อย่างไร ผู้มีความเป็นตัวของตัวเอง มีเสรีภาพซึ่งหมายถึงอิสรภาพในการเลือก ย่อมไม่ต้องการอยู่ใต้อาณัติของแกนนำม็อบแน่นอน ….??
@@@……เรื่องของการชุมนุม 19 ก.ย. “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการดูแลสถานที่สำคัญและสถานที่ราชการในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ ว่า ไม่ต้องห่วงทำไว้เรียบร้อยแล้ว หากผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบฯและเดินต่อไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า เราก็ต้องป้องกัน เขามีทางอื่นก็เลี่ยงไปที่อื่นอย่าไปลานพระบรมรูปทรงม้า ส่วนขณะนี้มีการระดมพลมาจากหลายจังหวัดมีการปล่อยคลิปต่าง ๆ ทั้งการประชุมการวางแผนนั้น รัฐบาลรู้หมด ไม่เป็นอะไรก็ปล่อยให้เขาว่ากันไป ไม่มีอะไรต้องกังวล ดูแลได้อยู่แล้ว…..รายชื่ออยู่ในมือของฝ่ายความมั่นคงเป็นที่เรียบร้อย หลังการชุมนุมคงได้รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังบ้าง
@@@……เพื่อความไม่ประมาท “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) เพื่อประเมินการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ประกาศจะเดินทางมาทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้องนั้นเส้นทางของกลุ่มผู้ชุมนุมก็ต้องผ่านมาบริเวณหน้า บก.ทบ.ผ่านไปยังทำเนียบรัฐบาล โดย พล.อ.อภิรัชต์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนตั้งรับ ป้องกันสถานที่ราชการ โดยเฉพาะพื้นที่ภายในบก.ทบ. ได้นำรถประชาสัมพันธ์ ปฏิบัติการด้านจิตวิทยามวลชน ติดโทรโข่ง พร้อมรถบรรทุกฉีดน้ำ และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารส่วนหนึ่ง ในการปฎิบัติการจิตวิทยา นอกจากนี้บริเวณประตูด้านหน้าและด้านหลัง บก.ทบ.ได้ติดตั้งเครื่องกีดขวาง แบริเออร์ ป้องกันรถบุกเข้ามา พร้อมติดตั้งลวดหนามรอบพื้นที่
@@@……พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พายุโซนร้อนโนอึนในขณะนี้เริ่มส่งผลกระทบหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ อาทิ จ.ขอนแก่น จ.มุก ดาหาร และ จ.นครพนม เกิดน้ำท่วมขังรอการระบายโดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมือง โดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งกำลังพลและยุทโปกรณ์ลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยมีการตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ป้อง กันและบรรเทาสาธารณภัยสนับสนุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำที่มณฑลทหารบกที่ 27 จ.ร้อยเอ็ด ปัจจุบันได้มีการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ และกระจายกำลังพลไปยังพื้น ที่เสี่ยง โดยศูนย์ฯจะมีการติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมง และประชุมหารือวันละ 2 รอบคือ 10.00 น. และ 17.00 น.
@@@……พล.ท. ธิติชัย เทียนทอง เจ้ากรมยุทธการทหาร พร้อมด้วย พล.ต.เจนสิทธิ์ คนศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ กรมยุทธการทหาร พล.ร.ต.ณัฐพงศ์ เกตุสมบูรณ์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร/โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และ นายแพทย์สุวิช ธรรมเปาโล ผู้อำนวยการกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แถลงข่าว การผลัดเปลี่ยนกำลังของกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยในการผลัดเปลี่ยนกำลังของกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ระหว่างผลัดที่ 1 และ ผลัดที่ 2 ซึ่งเดิมมีกำหนดผลัดเปลี่ยนกำลังฯ ในวันที่ 26 เม.ย.2563 แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19 จึงได้เลื่อนเป็นวันที่ 21 ก.ย.2563
————————-
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย ”รหัสมอร์ส์”
