‘วราวุธ’ ยันหากได้เป็นรัฐบาลจะเร่งสางค่าไฟฟ้าแพง แนะกกต.เร่งทำความเข้าใจปชช.ปมบัตรเลือกตั้ง ไร้กังวล ‘ชทพ.’ ไม่ติดกระแสโพล เพราะเพิ่งเป็นหัวหน้าพรรคได้ 6-7 เดือน ไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นข้ามคืน
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.66 ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. กล่าวถึงกระแสของ ชทพ.ในช่วงก่อนโค้งสุดท้ายเลือกตั้งจะเร่งอย่างไร ว่า หลายเวทีที่เราไปได้เน้นย้ำนโยบายต่างๆ ที่เป็นประเด็นร้อนของสังคม โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าพรรค ชทพ. มีแนวทางว่าหากเราเข้ามาทำงานสิ่งแรกคือ ทำอย่างไรจะลดค่าไฟฟ้าให้เร็วที่สุด สนับสนุนโซล่ารูฟท็อป ให้ใช้มิเตอร์ไฟฟ้าแบบทูเวย์ ประชาชนสามารถขายไฟฟ้าคืนได้ เพราะระยะหลังขายคืนไม่ได้ เราต้องทำให้ขายคืนได้ อีกทั้งขั้นตอนการทำสัญญากับการไฟฟ้าต้องรวดเร็ว ที่ผ่านมาใช้เวลา 2-3 เดือนกว่าจะทำได้ ฉะนั้น ต้องทำให้ประชาชนลดภาระค่าไฟฟ้าโดยเร็วที่สุด เจรจากับเอกชนที่มีสัญญากับการไฟฟ้า จะสามารถลดกำไรของภาคเอกชนได้มากน้อยเพียงไร แต่การลดกำไรต้องไม่ทำให้เอกชนเสียประโยชน์ด้วย ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลในสายตานานาชาติ ย้ำว่าต้องแก้ปัญหาให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด ส่วนการแก้ไขปัญหาในอนาคตจะต้องดูเรื่องพลังงานทดแทน
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุพรรคร่วมรัฐบาลเอาแต่โยนความผิดให้นายกฯ ไม่ร่วมรับผิดชอบ นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวงที่เกี่ยวข้องน่าจะมาช่วยแบ่งเบาภาระในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล อะไรที่นำเสนอเป็นแนวทางแก้ปัญหาควรจะมานำเสนอกัน การมาต่อว่ากันไม่ได้ทำให้ค่าไฟฟ้าลด ควรหามาตรการและนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นให้ประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การออกแบบบัตรเลือกตั้ง และใบแนะนำผู้สมัคร ส.ส.ทั้งรูปภาพและสัญลักษณ์ที่มีปัญหา นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ตนฝากกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าการทำบัตรเลือกตั้งนั้นใช้งบมหาศาล และคะแนนเสียงของผู้ที่ใช้สิทธิ์ลงคะแนนนอกราชอาณาจักรบางครั้งเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของ ส.ส.คนหนึ่ง จึงควรทำบัตรเลือกตั้งทั้งบัตรผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ให้มีความชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสนของประชาชน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บัตรเลือกตั้งออกมาแล้ว ในส่วนบัตรใบสีเขียว คือ บัตรผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มี 67 พรรค การพิมพ์ชื่อและโลโก้พรรคต่างๆ ให้เหลือสองแถวเป็นอะไรที่ยากพอสมควร และตัวหนังสือไม่ได้ใหญ่มาก ฉะนั้น ใครที่สายตาสั้นอาจจะต้องเอาแว่นไปด้วย บางครั้งตัวเล็กเกินไปมองไม่เห็น แต่ทั้งนี้ เมื่อบัตรทำออกมาแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ จึงต้องเร่งทำความเข้าใจประชาชนให้ระมัดระวังเวลาลงคะแนน ขณะที่บัตรสีม่วง ซึ่งเป็นบัตรผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตไม่ค่อยสับสนเท่าไร
เมื่อถามถึงนโยบาย “ว้าว ไทยแลนด์” ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายวราวุธ กล่าวว่า พรรรค ชทพ. เชื่อมั่นว่าการที่ประเทศจะเดินไปอย่างมั่นคงได้ กฎหมายที่ใหญ่ที่สุดคือ รัฐธรรมนูญต้องได้รับการยอมรับ ที่ผ่านรัฐธรรมนูญไม่ได้สะท้อนความต้องการของประเทศ วันนี้จึงได้ยินหลายพรรคพูดว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แต่หัวใจสำคัญคือ การคัดเลือกบุคคลมาเป็นส.ส.ร. จะต้องสะท้อนความต้องการและบริบทของสังคมในปัจจุบันได้ ทั้งสาขาอาชีพ อายุ เพศ จะต้องสอดคล้องกับคน 66 ล้านคน ถ้าทำได้ รัฐธรรมนูญฉบับต่อไปจะมาจากประชาชนโดยแท้จริง
เมื่อถามว่า กรณีผลโพลที่ ชทพ.ไม่ติดอยู่ในลำดับต้นๆ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนไม่กังวล และไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย ตนเพิ่งเป็นหัวหน้าพรรคได้ 6-7 เดือน ไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นข้ามคืน และขณะนี้ยิ่งเข้าใกล้วันเลือกตั้ง สองขั้วการเมืองจะเป็นแม่เหล็กที่แรงขึ้น คนรอเข้าไปหา ฉะนั้น จะทำให้พรรคเล็กสูญเสียคะแนนความนิยมหากดูจากโพล อย่างไรก็ดี ขอให้ดูในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตนจะเป็นแม่เหล็กอีกขั้ว ให้รอดูว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน.