‘เศรษฐา’ ลั่นรัฐบาลพท.พร้อมเจรจาเอกชนลดค่ารถไฟฟ้าเหลือ 20 บาททันที ชี้รถไฟฟ้าควรเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ประชาชนชาวไทยทุกคนสามารถเข้าถึงได้
เมื่อวันที่ 1 พ.ค.66 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรีกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ปัญหาความเหลื่อมล้ำคนเมืองที่รัฐต้องจัดการให้ถูกต้องเหมาะสม ผมได้กล่าวถึงปัญหาหลายๆ เรื่องอันเป็นปัญหาภาพใหญ่ของประเทศไปบ้างแล้ว ครั้งนี้เรามาโฟกัสกับปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้าแพง อันเป็นปัญหายอดนิยมคู่เมืองกรุงเทพฯ มานานตั้งแต่รถไฟ้ฟ้าเริ่มเปิดบริการตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งถ้าย้อนกลับไปตอนที่จะเริ่มสร้างนั้น มีเป้าหมายในการสร้างระบบขนส่งมวลชนที่ทุกคนเข้าถึงได้ แต่ในความเป็นจริง กลับตาละปัตรมิได้เป็นเช่นหวัง รถไฟฟ้ากลายไปเป็นระบบขนส่งของชนชั้นกลางขึ้นไปเท่านั้น ก็เพราะด้วยค่าบริการที่คนในสังคมหลายๆ กลุ่มเข้าไม่ถึง
นายเศรษฐา ระบุว่า ที่กล่าวว่าหลายกลุ่มในสังคมเข้าไม่ถึงก็เพราะว่าถ้าเราเปรียบเทียบราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ ต่อเที่ยวคิดเป็น 11% ของค่าแรง (ไปกลับก็ 22%) ซึ่งแพงมากเทียบกับอัตราส่วนเพียงแค่ 1.5% ของค่าแรงที่เกาหลีใต้ 2.9% ที่ญี่ปุ่น หรือ 3.5% ที่สิงคโปร์ ซึ่งสังเกตได้ว่าในประเทศเหล่านั้นการขึ้นรถไฟฟ้าเป็นเรื่องปกติ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน นอกจากนี้แล้ว ประเด็นอัตราค่าโดยสารที่แพงกว่าคนอื่นนี้ถูกซ้ำเติมโดยสภาวะเงินเฟ้อและวิกฤตโควิดในระยะ 3 ปีที่ผ่านมาอีก ในเมื่อสินค้าจำเป็นแพงขึ้นและรายได้ลดลง รถไฟฟ้าก็กลายเป็นสิ่งที่ฟุ่มเฟือยและเข้าไม่ถึงยิ่งไปกว่าเดิม ทำให้ประชาชนหลายคน ต้องยอมเสียเวลาเดินทางหลายต่อ นั่งรถตู้มาจากบ้าน ต่อรถเมล์ และเดินเพื่อให้ไปถึงที่หมาย เพียงเพราะไม่สามารถจ่ายค่ารถไฟฟ้าได้ เผลอๆ จะต้องเสียเวลาเดินทางเพิ่มขึ้นอีกเป็นชั่วโมง
นายเศรษฐา ระบุว่า ตนและพรรค พท. มองว่ารถไฟฟ้าควรเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ประชาชนชาวไทยทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เราจึงมีความตั้งใจที่จะทำให้ราคาค่ารถไฟฟ้าลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเราจะเร่งเจรจากับทุกภาคส่วนเพื่อลดค่าโดยสารลงให้เหลือ 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นอัตราขั้นต่ำที่เข้าถึงได้ และเป็นสิ่งที่ประเทศที่พัฒนาแล้ว (เช่น ฝรั่งเศส) ทำมานานแล้ว เราจะได้ประโยชน์มากมายจากการปรับลดอัตราค่าเดินทางโดยรถไฟฟ้านี้ สิ่งที่ชัดเจนอย่างแรกก็คือเราสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของพี่น้องประชาชน ปลดล็อครถไฟฟ้าสำหรับกลุ่มคนเมืองเป็นจำนวนมาก ด้วยราคาที่ไม่เกินเอื้อมอีกต่อไป การเข้าถึงระบบการเดินทางที่ มีคุณภาพ สะดวก ปลอดภัย ตอบโจทย์ จะทำให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวเมืองดีขึ้นอย่างแน่นอน
นายเศรษฐา ระบุว่า นอกจากนั้นแล้ว นโยบายนี้จะเพิ่ม ประสิทธิภาพของเมือง ซึ่งตีเป็นมูลค่าเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล ในทางตรง ประชาชนจะมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น โดยสามารถเลือกวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก โดยขณะที่ในทางอ้อมนโยบายนี้ก็จะจูงใจให้คนเลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น ลดการใช้รถใช้ถนน ลดปริมาณจราจรบนท้องถนน ช่วยบรรเทาปัญหารถติด เราจะสามารถคืนเวลาทำมาหากินที่เสียไปเปล่าๆ กับการเดินทางบนท้องถนน ซึ่งสามารถนำไปใช้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศได้มหาศาล และยังทำให้ประชาชนชาวไทย ไม่ต้องอดหลับอดนอน มีเวลากับตัวเอง กับครอบครัวมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งไปกว่านั้น นโยบายนี้ยังจะส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมในทางบวก จะช่วยลดการปล่อยมลภาวะอันเกิดจากการลดอัตราการใช้รถใช้ถนน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ก่อให้เกิดปัญหา PM2.5 ซึ่งเป็นภัยเงียบของประชาชนอีกด้วย
“แม้จะเป็นแค่ประเด็นการเดินทางของคนเมือง แต่หากเรามองนโยบายนี้เป็นองค์รวมร่วมกับนโยบายอื่นของพรรค พท. เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท สร้างเขตเศรษฐกิจใหม่ ลดราคาพลังงานทันที เราจะทำให้เมืองของเราน่าอยู่ขึ้น ประชาชนเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีสุขภาพดีขึ้น และเศรษฐกิจภาพรวมก็จะโตอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นแน่นอน” นายเศรษฐา ระบุ.