“นายกฯลุงตู่” ไม่แคร์ผลโหวตศึกซักฟอก ลั่นทุกคนผ่านก็จบ ปัดยกหูหา “ครูตั้น” ที่ได้โหวตรั้งท้าย เหน็บเรื่องแซว “ธรรมนัส” แค่แหย่เล่น ไม่คิดว่าสื่อจะจับมาเป็นประเด็น ยันไม่เคยพูดปรับครม.
เมื่อวันที่ 22 ก.พ.64 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 1/2564 ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เสร็จสิ้นไปแล้วว่า เรื่องต่างๆ ที่มีการพูดคุยหรืออภิปรายในสภา ตนก็รับไว้ทั้งหมด รวมทั้งอะไรที่เป็นข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์ ต้องแก้ไข และต้องดำเนินการติดตามสอบสวน ก็ว่ากันไป เป็นเรื่องการทำงานในการบริหารราชการแผ่นดินอยู่แล้ว ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็อยากขอให้ติดตามการทำงานของรัฐบาลด้วยมากกว่าการเสนอข่าวเรื่องความขัดแย้งเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้สิ่งต่างๆ ที่ดีหายไปหมด ส่วนอะไรผิดก็ว่ากันไป อะไรถูกก็ต้องสร้างความเข้าใจกันด้วย
“เรื่องควันหลงต่างๆ ก็เป็นเรื่องของการเมือง ผมไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้เท่าไร แต่จะดูว่าเราจะแก้ไขอย่างไร และแต่ละกระทรวงจะทำงานอย่างไรให้สามารถตอบรับความต้องการของประชาชนได้ ขณะที่เรื่องทุจริตต่างๆ ก็ต้องไปสอบสวนกัน ส่วนเรื่องระหว่างพรรคก็เป็นเรื่องของพรรค มันก็เป็นแบบนี้มาตลอดยาวนานมาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดเฉพาะตอนนี้ ก็ต้องปฏิรูปตัวเองกันด้วยทั้งในสภาและนอกสภาอะไรก็แล้ว แต่ผมไม่ได้ตำหนิใคร”นายกฯ กล่สว
เมื่อถามว่า ได้โทรหานายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ หรือไม่ หลังได้คะแนนโหวตน้อยที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า โทรหาเรื่องอะไร ตนไม่ได้สนใจใครได้คะแนนอย่างไร เพราะผ่านอภิปรายก็จบ ใครจะมากจะน้อย ขณะที่ตนเองก็ได้น้อยก็ไม่ได้แคร์อะไร เพราะกำหนดไว้แค่ว่า ผ่านอภิปราย หรือไม่ผ่านอภิปราย แต่งานหลายงานหลายกระทรวง ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ ทุกกระทรวง ตนสั่งการอีกจำนวนมาก ที่อยู่ในขั้นตอนที่ต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ ทั้งองค์กรและบุคลากรต่างๆ ต้องสอบทั้งหมด ไม่เช่นนั้นก็อยู่ที่เดิม ดังนั้นหลายอย่างอาจจะมีความขัดแย้ง ยังไม่เห็นชอบร่วมกัน แต่ในระดับยุทธศาสตร์หรือบริหาร ตนจำเป็นต้องให้ปรับ ดังนั้นต้องไปว่ากันในสภาไม่ว่าจะปฏิรูปอะไรก็แล้วแต่ ก็ไปว่ากันในสภาว่าเห็นด้วยไม่เห็นด้วย ทุกเรื่องเป็นเรื่องของรัฐสภา ตนมีหน้าที่บริหาร
“ผมไม่จำเป็นต้องโทรหาใคร วันนั้นหลังเลิกประชุมทุกคน ก็เดินผ่านมาทางผมมาแสดงความยินดีกับผม ซึ่งผมก็ไปแสดงความยินดีกับเขา ไม่ได้สนใจใครได้เท่าไหร่ ผ่านหรือเปล่า ดังนั้นอย่าเอาเรื่องนี้ประเด็นนี้เป็นความขัดแย้งต่อไปเลย ส่วนพรรคก็เป็นเรื่องของพรรค การจะลงคะแนนเสียงก็เป็นมติของพรรค แล้วแต่ว่าจะให้เป็นการแสดงความคิดเห็น ลงคะแนนส่วนตัวหรือไม่ ก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าเขาไม่ทำ ก็เรื่องของเขา ผมจะไปยุ่งอะไรได้ แล้วมันผ่านหรือเปล่าจะถามอยู่อย่างนี้ ถึงจะมากจะน้อยไม่สำคัญ ถ้าผ่านคือผ่าน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะสยบข่าวลือปรับเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กระแสสื่อมวลชนเป็นคนปลุกปั่นขึ้นมาเอง ตนไม่เคยพูด เมื่อถามถึงกรณีที่แซวร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ได้คะแนนมากกว่าให้มาเป็นนายกฯ แทน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “พูดแหย่พูดเล่นกันไม่ได้หรือไง จับมาเป็นประเด็นทุกเรื่องไม่ได้ บางเรื่องก็แสดงความยินดีก็โอเค ได้น้อยหน่อย มากหน่อยไม่เป็นไร เอาผ่านใช่ไหมล่ะ แซวอะไรก็เป็นเรื่องภายใน แหย่กันเล่นไม่ได้เหรอ ไม่ได้ตั้งใจให้สื่อมาแพร่ ผมไม่จำเป็นต้องไปอะไรกับใคร เพราะถือเป็นมติของสภาก็จบ นั่นคืออภิปรายไม่ไว้วางใจหากเสียงข้างมากสมาชิกไว้วางใจก็จบ ก็แค่นั้นเอง และผมก็ต้องมาดูในสิ่งที่ทำไปแล้วด้วยว่าเขาทำไปถึงไหนกัน ถ้ายังทำไม่เสร็จก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา และความขัดแย้งมันเกิดสูงไหมในองค์กรขนาดใหญ่ ในระบบการศึกษา ถ้าไม่รู้รายละเอียดทั้งหมดหรอก ผมเป็นคนรู้ทุกเรื่อง”
