เทศกาลกิจกรรมงาน “วิสาขบูชาโลก” ณ ประเทศไทย กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายน 2566 ปีนี้จำนวนประมุขสงฆ์ นักวิชาการ และผู้นำชาวพุทธจากนานาชาติประมาณ 55 ประเทศ อาจดูน้อยกว่าที่ผ่านๆ มาที่มาถึงมากกว่า 83 ประเทศ แต่เอาเถอะ สถานการณ์แบบนี้ 55 ประเทศ ก็ถือว่าไม่น้อยแล้ว
รายละเอียดวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ จะมีการแถลงข่าวภาคเช้า ณ วัดประยุรฯ โดยมีพระพรหมบัณฑิต ,นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ, นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร และผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รายละเอียดวันนั้นคงชัดเจนอีกครั้ง ว่ามีอะไรเป็น “ไฮไลท์” บ้าง
“เปรียญสิบ” เมื่อทราบว่าวันแรก “สมเด็จพระสังฆราช” เสด็จมาเป็นประธานเปิดงาน ณ มจร วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในฐานะคนประเภท “อนุรักษ์ศาสนานิยม” รู้สึกภูมิใจมากที่ คณะสงฆ์เรามี “สังฆบิดร” ให้ความสนใจกับงานสำคัญระดับโลกแบบนี้ เคยบอกอยู่เสมอว่า งานประสาทปริญญาประจำปีของ มจร และ มมร รวมทั้ง งานวิสาขบูชาโลก “สมเด็จพระสังฆราช” หากไม่ประชวร ต้องเสด็จมาให้ได้..
เพราะนอกจาก ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว อีกนัยหนึ่งคือ การผูกมิตรสัมพันธ์ซึ่งกันและกันด้วย
วันที่สอง อันนี้ก็เช่นกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้ “พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์มาเป็นประธานเปิดงานประชุมวันวิสาขบูชาโลก ณ องค์การสหประชาชาติ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร
“Soft Power” หลายปีมานี้มีคนจำนวนมากพูดถึง และ Soft Power ส่วนใหญ่ก็มีรากเหง้ามาจาก “วัฒนธรรมประเพณี” อธิบายง่ายๆ ก็คือว่า ซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) คือ การขยายอิทธิพล การเปลี่ยนแปลงความคิด การทำให้ผู้คนมีส่วนร่วม หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้อื่น โดยไม่ได้ใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญ อย่างอำนาจเศรษฐกิจ อำนาจทางการทหาร เพื่อบีบบังคับให้ประเทศต่างๆ ต้องยอมปฏิบัติตามสิ่งที่เราต้องการ ประเทศไทยมีกิจกรรม หลายประการที่เรานับว่าเป็น Soft Power ได้ เช่น เทศกาลสงกรานต์ เทศกาลแข่งเรือ วันลอยกระทง หรือแม้กระทั้งเทศกาลแห่เทียนจำพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี
เสียดาย..งานวิสาขบูชาโลก ที่เราจัดอยู่ทุกปี ไม่พัฒนาไปถึง “Soft Power”
จบอยู่แค่ หอประชุม มจร วังน้อย และที่ทำการองค์การสหประชาชาติ
ไม่มีนักประชาสัมพันธ์ ไม่มีนักการตลาด ไม่มีนักธุรกิจนำไป “ต่อยอด” ทั้งๆ ทุกปีมีนานาชาติร่วมเดินทางมาประชุมหลายเกือบร้อยประเทศ
กิจกรรมงานแบบนี้ อย่าปล่อยให้คณะสงฆ์ทำงานเพียงลำพัง รัฐบาล กองทัพ การท่องเที่ยว ต้องเข้ามาร่วม
คณะสงฆ์เองก็อย่าจมอยู่แค่ “กิจกรรมทางศาสนา” มันต้องดึงภาครัฐ ภาคีเครือข่ายเข้ามาช่วยด้วย ทั้งประโคมข่าว ทั้งการจัดกิจกรรมเดินขบวนแห่ ทั้งการแสดงแสดงสีเสียง ให้สมกับ “ศูนย์กลางพระพุทธศาสนา”
แต่ก็ยังว่างานวิสาขบูชาปีนี้งบประมาณแค่ 15 ล้านบาท คงจะทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
รอรัฐบาลใหม่ก็แล้วกัน..ไม่รู้ว่าคณะสงฆ์ “หนีเสือปะจรเข้” หรือเปล่า??
………………….
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย…“เปรียญสิบ”: [email protected]