“OR” จับมือ “โอ้กะจู๋” มอบพลาสติกคลุมโรงเรือนแก่เกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR และนายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร OR ร่วมกับ นายชัดชาญ เอกชัยพัฒนกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายจิรายุทธ ภูวพูนผล ประธานเจ้าหน้าที่เกษตรอัจฉริยะบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (“OKJ”) ผู้บริหารร้านอาหารเพื่อสุขภาพ “โอ้กะจู๋” มอบพลาสติกคลุมโรงเรือน ให้แก่เกษตรกรกลุ่มแม่วาง จำนวน 45 โรงเรือน และเกษตรกรกลุ่มสะเมิงจำนวน 20 โรงเรือน ณ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ผ่าน “โครงการส่งเสริมการผลิตพืชอินทรีย์”
นายดิษทัต เปิดเผยว่า OR และ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด ได้ร่วมกันจัดตั้ง “โครงการส่งเสริมการผลิตพืชอินทรีย์” เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกลุ่มผู้เพาะปลูกไทยให้มีผลผลิตทางการเกษตรที่สม่ำเสมอ มีคุณภาพ และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับกลุ่มเกษตรกรอย่างยั่งยืน โดย OR ได้สนับสนุนเงินทุนกว่า 200,000 บาท เพื่อจัดซื้อวัสดุพลาสติกคลุมพื้นที่โรงเรือน 150 ไมครอนซึ่งผลิตจากเม็ดพลาสติกของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ซึ่งจะช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรมีคุณภาพที่ดีขึ้นกว่า 20-100% โดยช่วยปกป้องพืชผลจากการเหี่ยวเฉาในช่วงฤดูร้อน และช่วยป้องกันไม่ให้พืชแคระแกร็นหรือเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้ และส่งผลให้ได้ผลผลิตที่ไม่มีคุณภาพและไม่สามารถจำหน่ายได้ในช่วงฤดูฝน ถือเป็นการผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. เพื่อยกระดับผลกระทบเชิงบวกต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดแบบครบวงจร พร้อมเปิดประตูความร่วมมือสู่การเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
ด้าน บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด จะสนับสนุนองค์ความรู้เกี่ยวกับการปลูกพืช รวมทั้งสนับสนุนและรับซื้อผลผลิตอินทรีย์จากกลุ่มเกษตรกร โดยจะกำหนดชนิดของผักอินทรีย์ และแนะนำการเลือกใช้ชีวภัณฑ์ต่างๆ และติดตามผลระหว่างการปลูก ตั้งแต่การเพาะเมล็ด การเตรียมแปลง การย้ายปลูก การให้น้ำ การป้องกันจำกัดโรคและแมลงศัตรูพืช จนถึงการเก็บเกี่ยวช่วงที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐาน โดยบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด จะรับซื้อผักจากเกษตรกรไทยคิดเป็นประมาณ 20% ของยอดผักที่ต้องใช้ต่อวันของจำนวนผักที่ใช้ในปัจจุบัน หรือคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 1 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นการช่วยให้เกษตรกรได้มีอาชีพและสร้างรายได้อย่างมั่นคง
ความร่วมมือในครั้งนี้ ยังสอดคล้องกับแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน OR SDG โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน “S-Small” หรือการสร้างโอกาสเพื่อคนตัวเล็ก เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเติบโตอย่างเข้มแข็งยั่งยืนต่อไป