“พรเพชร” ปัดชี้นำ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ เชื่อ่นใจไม่มีใครกดดัน-คุกคาม ยันไม่เคยมีใครติดต่อให้เลือก แคนดิเดตนายกฯ มั่นใจส.ว.มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ ตั้งใจทำเพื่อประเทศ ร่วมกันทำงานในสภาได้
วันที่ 30 พ.ค.2566 เวลา 10.15 น. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ส.ว.ถูกกระแสสังคมโจมตีเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่ได้มองอะไรเพราะเป็นตามกระแสและโซเชียล ส่วนส.ว.ก็ยังไม่ได้พูดจาอะไรกันมาก ส.ว.ทุกคนมีวุฒิภาวะ มีความรู้ ตั้งใจทำงาน เพื่อประโยชน์แก่ของประเทศชาติ ดังนั้นแต่ละคนมีความคิดของตนเอง และมีความเป็นอิสระ ซึ่งมีความเป็นอิระนั้นไม่ได้หมายความว่าตามอำเภอใจ แต่ต้องคิดถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
“ผมเชื่อมั่นว่า ส.ว.ทุกคนทำหน้าที่อย่างนั้น ส่วนจะมีใครมาว่าส.ว. คงเป็นส่วนน้อย แต่ส่วนน้อยนั้นอาจจะเสียงดังกว่วก็ได้”นายพระเพชร กล่าว
เมื่อถามว่าฐานะประธานวุฒิสภาได้ให้แนวทางกับส.ว. ต่อคนที่จะเสนอชื่อเป็นนายกฯ จะมีคุณสมบัติอย่างไร นายพรเพชร กล่าวว่า ตนไม่เคยให้แนวทางเพราะตนทำหน้าที่เป็นรองประธานรัฐสภา ต้องร่วมกับประธานรัฐสภา ดังนั้นตนไม่อยู่ในฐานะที่จะแนะนำอะไรใครได้ ตนได้พูดไว้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งว่าต้องใช้หลัก และยึดประโยชน์แก่ประเทศชาติ ซึ่งทุกคนทราบดีว่าควรเป็นอย่างไร “ผมไม่เคยที่จะไปชี้นำหรือไปทำอะไร ผมมั่นใจในส.ว.ส่วนมากเกือบทั้งหมดตั้งใจทำงานที่ดี ค่อยๆ ดูไป”ประธานวุฒิสภา กล่าว
เมื่อถามว่าเคยได้รับการติดต่อจากคณะเจรจาของพรรคก้าวไกล ที่จะขอให้โหวตแคนดิเดตนายกฯ บ้างหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มีใครมาเจรจา
เมื่อถามย้ำว่า หากมีคนติดต่อจะยอมเจรจาด้วยหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ตนเรียนไว้แล้วว่า ทำหน้าที่ รองประธานรัฐสภาจะพูดแนะนำหรืออะไรไม่ได้ ส่วนที่ส.ว. ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามการตั้งรัฐบาลและโหวตนายกฯ นั้น ตนไม่ทราบ และไม่เคยเกี่ยวข้อง
เมื่อถามถึงกรณีที่นายพรเพชร เคยให้สัมภาษณ์ว่าฝั่งที่มีเสียงข้างมากมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล นายพรเพชร กล่าวว่า หลังจากการเลือกตั้ง ที่ทราบว่าพรรคการเมืองได้จำนวน ส.ส.เท่าใด ตนไม่เคยพูดอะไร
เมื่อถามว่าฐานะประธานวุฒิสภาได้ยินส.ว.สะท้อนต่อการถูกกดดันข่มขู่ว่าต้องเลือกแคนดิเดตนายกฯจากพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ นายพรเพชร กล่าววว่า เคยเห็นแต่ปรากฎในสื่อ และไม่ทราบว่าจะมีใครไปกดดัน
เมื่อถามอีกว่าหากเป็นไปตามข่าวที่ส.ว.ถูกกดดัน ทั้งตามไปที่บ้าน โรงพยาบาล หรือที่ทำงาน ถือว่ารุนแรงเกินไปหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ยังไม่มีปรากฎดังนั้นคงไม่พูดดักคอ หรือ อะไรทำนองนั้น เชื่อมั่นว่าส.ว.จะปฏิบัติไปตามหน้าที่ตนเชื่อมั่นในความตั้งใจที่จะทำในสิ่งที่ดี และคงไม่หวาดกลัวอะไร
เมื่อถามย้ำว่าเมื่อเป็นข้อเท็จจริงจะเกิดปัญหาหรือไม่ เพราะส.ว. ถูกกดดัน นายพรเพชร กล่าวว่า ตนเข้าใจว่า ส.ว.ต้องพิจารณาแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เพราะตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เคยให้วางไทม์ไลน์ไว้ประมาณ 2 เดือนและก่อนถึง 2 เดือนนั้นจะมีไทม์ไลน์ของการมีประธานรัฐสภาก่อน
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีประเด็นตำแหน่งประธานสภาที่ยังตกลงกันไม่ได้ โดยส่วนตัวมองว่าคนที่จะมาทำหน้าที่ควรมีคุณสบติอย่างไร นายพรเพชร กล่าวว่า ตนไม่สามารถพูดได้ ว่าอยากจะได้ใคร หรือใครดีไม่ดี แต่เชื่อมั่นและเข้าใจว่า การเลือกประธานรัฐสภา เลือกมาจากส.ส. ที่ผ่านการเลือกตั้ง และการลงมตินั้น มาจากส.ส.เช่นกัน
“ผมมั่นใจว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้ ไม่ว่าเป็นใครเพราะผมเชื่อมั่นในคุณวุฒิ วัยวุฒิ หรือ ในสิ่งที่มีความตั้งใจ รวมทั้งความรู้ต่างๆ บางอย่างอาจจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ แต่สามารถทำงานให้กับทุกท่านหากได้รับการคัดเลือกมาก โดยการแต่งตั้งจากสมาชิกเอง”นายพระเพชร กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ขณะนี้มีส.ว. ถูกออกหมายเรียกในคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด คือ นายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว.และใช้อิทธิพลข่มขู่ คือนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ จะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์และจริยธรรม หรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า การดำเนินการตามของกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่ต้องทำ ส่วนในแง่จริยธรรม หากมีพฤติกรรมที่ชี้มูลความผิดต้องเข้าสู่การพิจารณาจริยธรรม เพราะไม่ทราบว่าเรื่องอยู่ในขั้นตอนไหน ส่วนเรื่องการตรวจสอบจริยธรรมของส.ว.นั้น ไม่เกี่ยวว่าต้องมีคนร้องหรือไม่ เพราะต้องดูข้อเท็จจริงก่อน เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม อัยการ ศาลต้องว่ากันไป