“พาณิชย์” เผยส่งออกเม.ย.มูลค่า 2 หมื่นกว่าล้านบาท ลดลง 7.6% ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 หลังภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยการส่งออกไทยเดือน เม.ย.2566 มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 21,723.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 737,788 ล้านบาท ลดลง 7.6% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกกดดันอุปสงค์ด้านการส่งออก หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียยังคงเผชิญกับการส่งออกที่ชะลอตัว แม้ว่าปัจจัยด้านเงินเฟ้อจะชะลอลง แต่ความเปราะบางของภาคธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป กดดันให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวมากขึ้น โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมยังคงลดลงตามความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและราคาพลังงาน ตรงข้ามกับสินค้าเกษตรที่ขยายตัวได้ดี
การนำเข้ามีมูลค่า 23,195 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7.3% ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 1,471.7 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการส่งออก 4 เดือนแรกของไทย (ม.ค.-เม.ย.2566) ติดลบ 5.2% มูลค่า 92,003.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (3,110,977 ล้านบาท)
มื่อมาดูตามกลุ่มสินค้าการส่งออก
- กลุ่มสินค้าเกษตร พบว่า ขยายตัว 3 เดือนต่อเนื่อง โดยในเดือน เม.ย.มีมูลค่าการส่งออก 3,105 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.8% โดยกลุ่มขยายตัวจะเป็นผลไม้สดแช่แข็งและแห้ง (+142.8%) เช่น มังคุดสด ทุเรียนสด ทุเรียนแช่แข็ง สัปปะรดสด ลำไยสด ลำไยแช่แข็ง ในตลาดจีน ฮ่องกง เวียดนาม เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง (+38.9%) ในตลาดจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และข้าว (+3.5%) อิรัก แอฟริกาใต้ อินโดนีเซีย เม็กซิโก ญี่ปุ่น
- กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร กลับมาดดตัวในรอบ 3 เดือน เดือน เม.ย. มีมูลค่าการส่งออก 1,751 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 12% แต่สินค้าที่ขยายตัวยังมีสินค้านมและผลิตภัณฑ์นม กลับมาขยายตัวหลักจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า / ผักกระป๋องและผักแปรรูป ขยายตัว 3 เดือนต่อเนื่อง / เครื่องดื่ม ขยายตัว 3 เดือนต่อเนื่อง
- กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หดตัว 7 เดือนต่อเนื่อง เดือน เม.ย. ส่งออกมูลค่า 15,940.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 11.2% แต่ 3 สินค้าที่ขยายตัว คือ อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด ขยายตัว 10 เดือนต่อเนื่อง เครื่องโทรสารโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 18 เดือนต่อเนื่อง เครื่องใช้สำหรับเดินทาง หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
- ตลาดที่ขยายตัวในเดือน มี.ค.2566 10 อันดับแรก รัสเซีย อิรัก โปรตุเกส สวีเดน ลาว สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร จีน ออสเตรเลีย ซาอุดีอาระเบีย