วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightรัฐบาลเล็งเจาะ 7 ตลาดเมืองรองในยุโรป มั่นใจปี 66 ส่งออกโตตามเป้า 1-2%
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

รัฐบาลเล็งเจาะ 7 ตลาดเมืองรองในยุโรป มั่นใจปี 66 ส่งออกโตตามเป้า 1-2%

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ส่งเสริมการปรับกลยุทธ์ ขับเคลื่อนการส่งออกช่วงครึ่งปีหลัง 2566 ขยายตลาดส่งออก เจาะ 7 ตลาดเมืองรองในยุโรป เตรียมพร้อมจัด 350 กิจกรรม คาดการณ์สร้างรายได้เกือบ 2 หมื่นล้านบาท มั่นใจภาพรวมปี 2566 ไทยส่งออกได้ตามเป้าหมาย 1-2%

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 66  นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ส่งเสริมการวางแผนการทำงานในการสนับสนุนการส่งออกไทยช่วงครึ่งปีหลัง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเดินหน้าขยายตลาดไปยังตลาดเมืองรอง 7 แห่งของยุโรป พร้อมกลยุทธ์ในการผลักดันการส่งออก ครึ่งปีหลัง 2566 เตรียมจัด 350 กิจกรรม ใน 7 ภูมิภาค สร้างรายได้เข้าประเทศรวม 19,400 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนได้ร่วมกันประเมินสถานการณ์การส่งออกช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมปรับแผนการทำงานเพื่อขับเคลื่อนการส่งออกให้ตอบสนองต่อความท้าทาย โดยได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกในตลาด 7 ภูมิภาค พร้อมกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 350 กิจกรรม ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศประมาณ 19,400 ล้านบาท

โดยกระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ รักษาตลาดเดิม และฟื้นฟูตลาดเก่า ด้วยกลยุทธ์สำคัญ อาทิ การเร่งจัดคณะผู้แทนการค้าเพื่อขยายตลาดศักยภาพ การส่งเสริมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน การจับคู่เจรจาธุรกิจทั้งออฟไลน์และออนไลน์ การผลักดันการส่งออกสินค้า BCG และสินค้านวัตกรรมใหม่ การส่งเสริมธุรกิจบริการมูลค่าสูง และการปูพรมเจาะตลาดเมืองรอง โดยเฉพาะในอาเซียน สหรัฐฯ และยุโรป พร้อมทั้งเชื่อมโยงการทำงานระหว่างทูตพาณิชย์กับพาณิชย์จังหวัด เพื่อผลักดันสินค้าท้องถิ่นของไทยที่มีศักยภาพออกสู่ตลาดต่างประเทศ ตามแนวทางตลาดนำการผลิต

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามแผนงานเพื่อขยายตลาด โดยการเดินหน้าประสานการทำงานร่วมกับ 7 ตลาดเมืองรองยุโรป ได้แก่ ราชรัฐโมนาโก เมืองโบโลญญาและเมืองเจนัว สาธารณรัฐอิตาลี เมืองเอเธนส์ สาธารณรัฐเฮลเลนิก (กรีซ) เมืองคาร์โลวี วารี สาธารณรัฐเช็ก เมืองอัสตานา สาธารณรัฐคาซัคสถาน และเมืองฮัมบูร์ก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้ เนื่องจากมีความต้องการสินค้าของไทย โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและสินค้าเกษตร สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าอุตสาหกรรม และธุรกิจบริการ

“นายกรัฐมนตรีส่งเสริมการวางแผนกลยุทธ์และประเมินสถานการณ์ เพื่อผลักดันการส่งออกของไทยให้เป็นไปตามเป้าหมาย ผ่านการจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการส่งออก ขยายตลาดที่มีศักยภาพ เจาะตลาดเมืองรอง พร้อมทั้งปรับแผนการทำงานเพื่อขับเคลื่อนการส่งออกให้ตอบสนองต่อความท้าทาย โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า สินค้าของไทยมีคุณภาพและมีอัตลักษณ์ เป็นที่ต้องการของตลาดโลก ประกอบกับแนวทางการส่งเสริมเชิงรุกของรัฐบาล จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการส่งออกสินค้าไทยให้ได้ตามเป้าหมาย สร้างรายได้แก่ประเทศและชุมชนท้องถิ่น” นายอนุชา กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img